แชร์ประสบการณ์ เค้าบอกว่าลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตพ่อแม่ แม้กระทั่งเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ [ภาค 2]

สวัสดีครับ

ก่อนอื่นต้องถือโอกาสขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านกระทู้ภาคแรกของผม ไม่คิดว่าจะได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ ^___^"

"แชร์ประสบการณ์ เค้าบอกว่าลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตพ่อแม่ แม้กระทั่งเป็นแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ" ภาค 1
http://pantip.com/topic/32237520

ก่อนจะเล่าเรื่องของเล่นต่อในภาค 2  ผมมีเรื่องดีๆ มาแทรกมาเล่าให้ฟังกันก่อนครับ
หลังจากเราเปิดร้านของเราขายรถกระดาษมาได้เกือบ 2 เดือน
ช่องทางหลักในการขายของร้านเล็กๆ อย่างเราก็คือผ่านเฟสบุ้ค inbox กับ email ครับ
ลูกค้าส่วนใหญ่จะเลือกหลังไมค์มาทางเฟสบุ้คมากกว่า เพราะได้คุยโต้ตอบกันสะดวกมาก

เช้าวันนึงผมมี email จากลูกค้ามาสั่งรถกระดาษเรา 6 คัน
ผมก็ทำตามหน้าที่ครับ คำนวณยอดโอนให้แล้วตอบ email กลับลูกค้าตามปกติ
แต่ในใจผมรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ตั้งแต่เราเปิดร้านมาเกือบ 2 เดือน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะสั่งคันนึงหรือ 2 คัน  
มีคนนึงเคยสั่งทีเดียว 5 คัน(เป็นรุ่นน้องผมเองไม่นับ 5555 )  
ผมคิดในใจนี่ถ้าคนนี้โอนมาจะถือเป็นออร์เดอร์ขายปลีกที่เยอะที่สุดตั้งแต่เราเปิดร้านมา
สงสัยลูกค้าท่านนี้คงจะมีซื้อไปแจกลูกเพื่อนๆ ละมั้ง ผมก็รำพึงรำพันกับตัวเอง 5555

จากนั้นลูกค้าก็เงียบหายไปไม่ได้ตอบอะไรมา จนผมลืมไปแล้ว ผ่านไปเกือบอาทิตย์
คุณลูกค้าโอนเงินมาแล้วแจ้งสถานที่ส่ง:

มูลนิธิ อะมีรุลมุอ์มินีน เพื่อเด็กกำพร้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เลขที่ 48 ถนนสิโรรส 8
ต.สะเตง อ.เมือง
ยะลา 95000

ผมเห็นที่อยู่ก็คิดออกทันที ลูกค้าซื้อไปบริจาค!!!  คนที่ทำสถิติซื้อเยอะที่สุด ยอมจ่ายตังค์ 5 พันกว่าบาท ไม่ได้ซื้อไปใช้เองแต่ซื้อไปบริจาค!!!! โลกเรานี้คนมีน้ำใจก็มีน้ำใจล้นหลามอย่างน่าอัศจรรย์   นึกย้อนไปลูกค้าไม่ได้ต่อราคาผมซักคำ  ไม่ได้ใช้เหตุผลของการบริจาคมาขอส่วนลดกับผมด้วยซ้ำ!

ผมนึกภาพออกเลยว่าเมื่อของเล่นเราไปถึงที่มูลนิธิ เด็กๆ ต้องดีใจมากแน่นอน  ของเล่นอาจจะดูเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับเด็กๆ ผู้ด้อยโอกาส และอยู่ลำดับหลังๆ ในแง่ความจำเป็น ผมเดาว่าถ้าทุกคนคิดแบบนี้ เด็กๆอาจจะไม่มีโอกาสมีของเล่นมากนัก ยิ่งทำให้เด็กๆ น่าจะตื่นเต้นไปกับมันยิ่งขึ้นไปอีก  
ตอนผมสร้างของเล่นชิ้นสร้างเพื่อให้ลูกชายเล่นเองอย่างเดียว ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเรื่องการเอาไปบริจาคเลย ตอนลูกค้าสั่งมาเราก็มัวไปคิดเรื่องทำลายสถิติการขาย พอรู้ว่าเป็นการบริจาค ผมก็อายกับตัวเองเลยที่ไปคิดถึงเรื่องสถิติ ในขณะที่ลูกค้าคิดถึงคนอื่น ลูกค้าท่านนี้สอนผมหลายๆ เรื่องเลยครับ

ผมรู้สึกดีไปด้วยมากๆเลย เลยตอบกลับไปว่าซื้อไปบริจาคเหรอครับ ผมขอร่วมบริจาคด้วย 1 คันได้มั้ยครับ

คุณลูกค้าตอบอนุญาตพร้อมทั้งขอบคุณผม   ลูกค้าเล่าว่าที่มูลนิธินี้มีเด็กที่พ่อแม่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ต่างๆ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากมายครับ

เย็นวันนั้นผมเลยเอาเรื่องนี้ไปเล่าใน facebook ส่วนตัวของผมให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อนๆหลายคนก็ขอบริจาคร่วมด้วย สรุปสุดท้ายยอดบริจาครวมผมและเพื่อนๆ และคุณลูกค้า รวม 16 คันครับที่เราได้ส่งไปให้ทางมูลนิธิครับ   เพื่อนบางท่านยังอาสาจะส่งสีเทียนตามไปให้อีกครับ



ตอนหลังผม email กลับไปถามลูกค้าท่านนั้นว่าให้ผมระบุชื่อคุณลูกค้าในพัสดุมั้ยครับ ทางมูลนิธิจะได้ทราบว่าใครเป็นผู้บริจาคมาให้  (อีกส่วนนึงที่ผมคิดคือ ทางมูลนิธิจะได้ไม่เข้าใจผิดว่าร้านผมเป็นคนบริจาคเองทั้งหมด)  คุณลูกค้าตอบกลับมาว่า "ไม่เป็นไรค่ะ"  ^__^

ลูกค้าสุดยอดจริงๆครับ ทำดีไม่ได้หวังอะไรตอบแทนจริงๆ
การที่เราได้มาพบเจอคนดีๆ แบบนี้มันทำให้รู้สึกว่าโลกเราน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลยนะครับ

เดี๋ยวผมมาเล่าต่อเรื่องของเล่นนะครับ

*** ถ้าเพื่อนๆ อ่านแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ รบกวนช่วยกันกดโหวตที่เครื่องหมายบวก กระทู้จะได้อยู่นานๆ ให้เพื่อนๆที่ตามมาอ่านทีหลังด้วยนะครับ ^__^
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่