"โค้ชเช" ออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เปิดใจหมดเปลือก ขอโทษ พ่อ-แม่น้องก้อย เผยอยากให้ลูกศิษย์เป็นนักเทควันโดต่อไป

วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 08:13 น.  ข่าวสดออนไลน์


"โค้ชเช" ออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เปิดใจหมดเปลือก ขอโทษ พ่อ-แม่น้องก้อย

ความเคลื่อนไหวกรณี “ก้อย”รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าถูก “โค้ชเช” เช ยอง ซุก หัวหน้าผู้ฝึกสอน ลงโทษด้วยการต่อย ที่ใบหน้าและท้อง ก่อนเกิดเป็นกระแสลุกลามใหญ่ จนมีโอกาสว่าโค้ชเช อาจจะไม่เดินทางจากเกาหลีใต้กลับมาคุมทีมชาติไทยอีกต่อไป


โดยล่าสุด  “โค้ชเช”เมื่อช่วง 21 ก.ค.ที่ผ่านมา “โค้ชเช” เดินทางไปออกรายการ “เรื่องเล่าเช้านี้” ทางช่อง 3  พร้อมกับ ชัชวาล ขาวละออ วิชิต สิทธิกัณฑ์ และ โค้ชคิม แจวู ทีมงานผู้ฝึกสอน


โค้ชเชให้สัมภาษณ์ว่า “รู้สึกเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก้อยยังมีประสบการณ์น้อย  ปีนี้เราตั้งเป้าหมายยูธโอลิมปิก และ เอเชียนเกมส์  ก้อยเองก็อยู่ในเป้าหมายเอเชี่ยนเกมส์ ซึ่งผลงานในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียที่ไปอุซเบกิสถาน และ มหาวิทยาลัยโลก ที่จีน ทำได้ดีและผมตั้งใจจะเอาไปแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ด้วย”


ส่วนข้อถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โค้ชเช เล่าว่า ตนไม่เคยโกรธเรื่องผลแพ้ชนะ แต่นักกีฬามาขึ้นเวลาเกิน 1 นาทีจะถูกปรับแพ้ แต่วันนั้นเป็นเรื่องของ ประสบการณ์ สนามมีถึง 7 สนาม หมายความว่ามีนักกีฬาเยอะมาก การประกาศเรียกนักกีฬาต้องตั้งใจฟัง ต้องทราบว่าตัวเองแข่งคู่ไหนอย่างไร ถ้าเป็นปกติเกมนี้จะถูกปรับแพ้แล้วเพราะคู่แข่งรอนานถึง  5 นาที  โชคดีที่วันแรกเจ้าหน้าที่เกาหลีให้โอกาส ถ้าเป็นแมตช์อื่นคงช่วยไม่ได้”


“หลังเหตุการณ์ดังกล่าวได้คุยกับเจ้าตัวแล้วประมาณ 30 นาที ผมบอกเขาว่าผมขอโทษ ผมได้อธิบายว่าทำผิดตรงไหน ต้องทำตรงไหน ผมวางเป้าหมายเขาที่เอเชี่ยนเกมส์ การมาแข่งขันโคเรียโอเพ่นเป็นการเก็บประสบการณ์ ถ้าผมไม่สนใจคุณ ผมก็ไม่ต้องทำโทษคุณ  ผมต้องดูแลเพราะคนที่เหลือที่ยังไม่แข่ง ไม่งั้นจะมีปัญหาอีก ผมอธิบายแล้ว วันนั้นเขาเข้าใจดี แต่บอกว่าหนูอายุ23ปีแล้ว คราวหน้าคุยกับเขาก็ได้ ผมก็ยอมรับ เขาขอกลับเมืองไทยได้ไหม แต่ ผมไม่ให้กลับ กลับทำไม ผมต้องดูแลนักกีฬา และคิดว่าทุกอย่างจบลงไปแล้ว


“ปกติผมจะลงโทษเฉพาะตอนฝึกซ้อมมากกว่าวันแข่ง เพื่อให้นักกีฬาใจสู้  บางคนพยายามแค่สามสี่ แต่ผมอยากให้ได้สิบ ผมลงโทษไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะ ผมคิดว่าเขาทำได้มากกว่านี้ ผมเคยฟังตอนเขาให้สัมภาษณ์ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นทั้งหมด ผมรู้สึกไม่สบายใจ ผมเป็นอาจารย์ไม่อยากสู้กับลูกศิษย์ วิธีการลงโทษไม่ได้เป็นการต่อย แต่เป็นการตบด้วยกำปั้น และที่ท้อง ไม่ได้ต่อย เขาเป็นผู้หญิง”


ส่วนคำถามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เจ้าตัวถอดใจไม่อยากกลับมาเมืองไทยอีกหรือไม่


โค้ชเช กล่าวว่า “ไม่เคยคิดจะไม่กลับเมืองไทย  ยอมรับว่าร้องไห้เพราะเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว ผมอยู่ไทย12 ปี มาครั้งแรกพูดไทยไม่เป็น นักกีฬาเป็นมือใหม่ ซ้อม4 เวลาต่อวัน อยากพูดแต่พูดไม่ได้ พอคิดถึงเรื่องนี้ตลอด  ผมเป็นหัวหน้าสต๊าฟโค้ช ช่วงนั้นแค่อยากพักผ่อนสักระยะกับเรื่องที่เกิดขึ้น และ อาจจะเข้าใจผิดว่าครอบครัวของผมไปพร้อมกัน ไม่ได้เดินทางไปทีหลังเพียงแต่ครอบครัวไปพักอยู่ที่โซล ส่วนผมทำงานอยู่ที่เมืองกองจู ช่วงแข่งจึงไม่ได้พบกัน แข่งเสร็จผมไปหาลูกชายเท่านั้น”


ในตอนท้าย โค้ชเช ยังกล่าวอีกว่า นักกีฬาเหมือนลูกชาย ลูกสาว  ก้อยก็เหมือนกัน เหมือนลูกสาวคนหนึ่ง ผมเป็นโค้ช เป็นครู เป็นห่วงอนาคตเขา ตอนซ้อมเขาตั้งใจซ้อมมาก ทำผลงานตลอด ดีขึ้นเรื่อยๆ ผมลงโทษเพราะถ้าผมไม่สนใจคุณ ผมก็คงไม่ทำ


ผมอยากให้เขาเป็นนักเทควันโดต่อ ถ้าเขาโอเค ผมก็ยินดี ส่วนกรณีครอบครัวน้องก้อยนั้น ผมเองก็มีลูกชาย 5 ขวบ ผมก็ไม่สบายใจ  ก็ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้ามีโอกาสเจอกันจะดีใจมาก”


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05Ua3dOVFE1T1E9PQ%3D%3D&subcatid
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่