สวัสดีครับเพื่อนๆ ที่รักการท่องเที่ยวทุกท่าน  วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ผม “นายพล” คนเดินทาง จะได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวตลาดน้ำอีกแห่งในกรุงเทพที่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เกริ่นแบบนี้หลายคนอาจจะพอเดาได้แล้วว่าที่ไหนใช่ไหมล่ะครับ

ใช่แล้วครับ ที่ที่ผมจะไปวันนี้ก็คือ “ตลาดน้ำขวัญเรียม” นั่นเอง



การเดินทางที่นี่ง่ายมากครับ  ถ้ามีรถยนต์ส่วนตัวก็ยิ่งสะดวกเลย ของผมจะขับรถมาจากถนนรามอินทรา มุ่งหน้ามาที่มีนบุรี และพอถึงสี่แยกมีนบุรีก็เลี้ยวขวา ตรงไปประมาณ 1-2 ก.ม. ก็จะเจอวัดบำเพ็ญเหนือด้านซ้ายมือ ที่เป็นที่ตั้งของตลาดน้ำขวัญเรียมครับ

ตลาดน้ำขวัญเรียมจะตั้งอยู่ที่วัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้  ซึ่งอยู่คนละฝั่งของคลองแสนแสบ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ต้องการจะนำบรรยากาศสมัยก่อนให้กลับมาอีกครั้ง ในทริปนี้เดี๋ยวผมจะขออนุญาตินำเพื่อนๆ ไปทัวร์ตลาดน้ำแห่งนี้ให้รอบๆ พร้อมพาไปชิมของอร่อยๆ ด้วยกันนะครับ


หลังจากที่วนหาที่จอดรถอยู่สักพัก ก็เดินลงมาที่ทางเข้าตลาดน้ำขวัญเรียม และก็จะพบกับบรรยากาศร่มรื่นและเป็นกันเอง อย่างที่เห็นในคลิปเลยครับ สำหรับทริปนี้ ผมขออนุญาติถ่ายรูปด้วยกล้องมือถือ และเก็บภาพวิดีโอจากกล้องคู่ใจ CANON  LEGRIA MINI ตัวนี้นะครับ เนื่องด้วยเม็มโมรี่ของมือถือผมเหลือน้อยมากๆ และจะได้เป็นการลองกล้องไปในตัวด้วย



ม้าตัวนี้น่ารักมากๆ เลยครับ สงสัยจะชอบถ่ายรูปน่าดู





ถ้าใครเพิ่งมา ก็อย่าลืมมาถ่ายรูปเป็นที่ระทึกที่สองมุมนี้นะครับ ยิ่งเห็นหลายคนถ่ายคู่กับแฟน ผมก็แอบอิจฉานิดๆ ไว้คราวหน้าจะขอพาที่รักของตัวเองมาบ้าง



ตรงนี้จะเป็นตลาดของกิน ต่อด้วยตลาดของใช้อีกนิดหน่อยครับ ซึ่งในส่วนของกิน ผมขออนุญาติรีวิวทีหลัง เพราะถ้ารีวิวรวมกับคราวนี้ อาจจะยาวเกินไปสักนิดนึง และอาจทำให้เพื่อนๆ เริ่มเบื่อกันได้



พอเดินผ่านตลาดมาแล้ว ผมก็จะเดินเลียบคลองแสนแสบ เพื่อจะข้ามสะพานที่เชื่อมทั้งสองวัดนี้ แต่ถ้าใครอยากจะลองนั่งเรือชมบรรยากาศดูบ้าง ก็ลองดูได้นะครับ สำหรับผมแนะนำให้นั่งตอนเย็นๆ ก็จะได้บรรยากาศที่ร่มรื่น



ระหว่างทางขึ้นก็จะได้เห็นมุมของคลองแสนแสบได้สูงขึ้น และทางข้างๆ ก็ยังเป็นร้านขายของทั่วไปอีกด้วย ไว้คราวหน้าจะขอพาที่รักมาเลือกซื้อของนะครับ



ถึงแล้วครับ “สะพานสติ” ถ้าใครพร้อมแล้วก็กำหนดลมหายใจ แล้วตั้งใจเดินไปพร้อมๆ กับผมได้เลยครับ



ตรงนี้คือภาพของตรงกลางสะพานครับ ผมชอบที่มันมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับสะพานอื่นๆ ที่เคยเห็น อย่าลืมถ่ายรูปตรงจุดนี้กันด้วยนะครับ นายพลขอแนะนำ



มาถึงปลายสะพาน จะมีลิฟท์บริการผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ และคนพิการ เพื่อลงไปยังตลาดด้านล่างของฝั่งวัดบำเพ็งใต้ด้วยครับ ถือว่าทำได้ดีมากๆ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ ส่วนภาพด้านขวา เป็นมุมมองบนสะพานที่ถ่ายลงมาเจอคลองแสนแสบครับ



และนี่คืออีกจุดเด่นของตลาดน้ำแห่งนี้ ศาลขวัญเรียมครับ



รูปปั้นขวัญเรียมขี่ควายที่น่าจะชื่อไอเรียวครับ ดูทั้งคู่มีความสุขมากๆ ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคู่ใครๆ แต่ผก็มสัมผัสได้ว่าความรักของคนทั้งคู่นี้เรียบง่ายกินใจเหลือเกิน



ภาพมุมกว้าง ใกล้ๆ ศาลขวัญเรียมครับ สวยงามอีกแบบ ถ้าเป็นช่วงเย็นกว่านี้ก็จะโอเคขึ้นมาก เพราะน่าจะมีลมเย็นๆ ผ่านตัวตลอดครับ



ที่อยากนำเสนอก็คือ น้องม้าแคระตัวนี้น่ารักมาก ผมเลยขออนุญาติถ่ายคลิปมาโชว์เพื่อนๆ อีกสักคลิปครับ




ผมเริ่มเข้ามายังตลาดด้านใน ซึ่งจะเต็มไปด้วยของใช้และอาหารมากมาย



ของเยอะมากครับ คนที่ชอบช้อปปิ้งคงจะชอบมากแน่ๆ (เดี๋ยวจะมารีวิวของกินอีกครั้งนะครับ ไม่ลืมแน่นอน)



ตลาดนี้ดังขนาดซุปเปอร์แมนยังมาเลยครับ



แถวๆ นั้นยังมีน้องสัตว์แปลกๆ ให้เราได้ชมด้วยครับ



วันนี้ถือว่าเต็มอิ่มพอสมควร สำหรับทริปสั้นๆ ครึ่งวัน กับตัวคนเดียว



เตรียมตัวกลับละครับ ก็เลยเดินออกทางวันบำเพ็งใต้



ก่อนจะเดินขึ้นสะพานกลับไปยังรถ ขอถ่ายมุมกว้างด้วยโหมดเลนส์ไวด์เป็นคลิปสุดท้ายนะครับ




ไว้ว่างๆ จะขอกลับมาใหม่ พร้อมกับคนที่อยากมาด้วยอีกครั้งครับ

สำหรับใครที่สนใจ อยากจะมาตามรอยความรักของไอ้ขวัญกับอีเรียม และมาร่วมย้อนวัยไปกับตลาดน้ำและสินค้ามากมาย ก็สามารถมาได้ที่ตลาดน้ำขวัญเรียม เฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์นะครับ เพราะมาวันอื่นอาจจะไม่ได้สัมผัสบรรยากาศตลาดน้ำกลิ่นอายเก่าๆ แบบนี้


และสำหรับทริปเที่ยวใกล้บ้านครั้งนี้ ต้องขอบคุณกล้อง CANON  LEGRIA MINI ตัวนี้ด้วยนะครับ ที่ช่วยถ่ายวิดีโอให้ออกมาสวยสมจริง และช่วยเก็บภาพความประทับใจดีๆ ให้ผมได้กลับบ้านอย่างมีความสุข ดังนั้นสำหรับใครที่ขอให้ผมแนะนำกล้องวิดีโอดีๆ สักตัวที่เหมาะจะพกไปด้วยทุกที่ และมีขาตั้งกล้องที่พร้อมทุกสถานการณ์มาในตัว ผมก็ขอยืนยันว่าเป็นตัวนี้เลยครับ

การท่องเที่ยวสำหรับวันนี้ก็จบลง แต่ที่ยังไม่จบคือเรื่องราวและชีวิตของเรา
จงเก็บความสุขไว้เป็นพลังในการก้าวเดินต่อไป แล้วพบกันใหม่กับประสบการณ์ชีวิตในครั้งหน้าครับ

สวัสดีครับ
นายพล