"จอมโจรลักแผ่นดิน" นิยายของเจิ้งฟงเรื่องนี้น่าจะทำให้ผมตามอ่านจนจบได้สักที

กระทู้สนทนา
ไม่แน่ใจเพราะอคติส่วนตัวที่มีต่อสมญานาม "กิมย้งหญิง" หรือเปล่า ที่ทำให้ผมคาดหวังกับนิยายเรื่อง "พยัคฆ์คู่ผงาดฟ้า" ของเธอเกินเหตุ เมื่อได้อ่านเรื่องที่รู้สึกว่าธรรมดามากๆ ประกอบกับการลำดับเรื่องที่ค่อนข้างสับสนจากการสลับเหตุการณ์ของตัวเอก 2 คนที่ sub plot ของแต่ละคนเบาหวิวเนื่องจากความไม่เด็ดเดี่ยวของผู้เขียนเอง ยิ่งทำให้ตั้งคำถามกับตัวเองว่า "กิมย้งหญิง" นี่วัดจากตรงไหน? ยิ่งช่วงนั้นกำลังรู้สึกว่าเรื่องไหนที่คุณก่อศักดิ์เขียนเชียร์เปิดเรื่องให้ผมต้องทิ้งกลางทางทุกที ดังนั้นพอหยุดตามเรื่องพยัคฆ์คู่ฯหลังจบเล่ม 2 ก็เลยพาลไม่ตามอ่านเรื่องกระบี่อภิญญาไปด้วย เพราะท่านก่อศักดิ์เล่นโปรยเอาไว้ว่าต้องทำใจล่วงหน้ามากกว่าตอนพยัคฆ์คู่เสียอีก ก็ยิ่งแน่ใจว่าคงไม่ชอบแน่ๆ......จนถึงวันนี้จึงยังไม่ได้อ่านอีกเลยตั้งแต่เล่ม 3 ของชุดแรกและทั้งเรื่องของชุดที่ 2

หลังจากจบชุดไตรภาคของจิ่วถูผมไม่มีอะไรที่คิดอยากจะอ่านต่ออีก เพราะหมดอารมณ์จะตามจอมหื่น "หลงอิง" ที่ "หลงทาง" จนกู่ไม่กลับของหวงอี้ตั้งแต่เล่ม 7 ส่วน "ยอดพยัคฆ์พิทักษ์ราชวงศ์ถัง" นั้นผมหยุดไว้ก่อนที่เล่ม 5 เพราะเหมือนอ่านเรื่องสั้นที่ต่อกันเป็นเรื่องยาวแบบไม่ค่อยสนิทสักเท่าไหร่ จินสวินเจอะไม่น่าไปเลียนแบบหวงอิงที่ชอบบรรยายให้พระเอกเอาชนะคนที่เก่งกว่าแบบ "เหลือเชื่อ" หลายครั้งจนน่าเบื่อ ยังดีที่ยอมให้พระเอกบอบช้ำปางตายหลังทำศึกซึ่งยังดีกว่าหลงอิงที่เก่งเป็นเทพเหมือนพระเอกยุค "สมบัติ เมทะนี" ที่ไม่เคยระคายผิวเลยสักครั้งแม้จะเจอยอดฝีมือที่ผู้แต่งวาดภาพไว้ว่าเหนือชั้นกว่าสักแค่ไหนก็ตาม ทำใจกับความกระท่อนกระแท่นที่ไม่ค่อยสมราคาคุยว่าเป็นนิยายที่เทียบเทียม "ภูผามหานที" ได้เมื่อไหร่คงจะตามต่อจนจบ

กับเรื่อง "จอมโจรลักแผ่นดิน" เรื่องนี้กลับรู้สึกว่ารับได้ง่ายกว่าพยัคฆ์คู่ฯมากครับ โครงเรื่องและบุคคลิกของพระเอกนับได้ว่าแปลกพอประมาณ แม้จะเดาได้ว่าเรื่องขาเป๋ของพระเอกจะต้องถูกขจัดได้ไม่ยากเพราะความที่เป็นพระเอก ยังไงๆคงก็ไม่มีทางเป๋ไปทั้งเรื่อง อย่างมากก็แค่เป็นเทคนิคดึงความรู้สึกเอาใจช่วยจากผู้อ่านตอนต้นเรื่อง แต่อย่างน้อยเหตุผลที่ทำให้ขาเป๋ตลอดจนเหตุผลที่ทำให้เลิกขาเป๋ก็ยังมีที่มาที่ไปพอสมเหตุผล

เล่มแรกเปิดเรื่องได้ไหลลื่นและเนื้อเรื่องแน่นพอใช้ได้ การชูวิชาลักขโมยให้เป็นวิชาหลักของเรื่องก็น่าสนใจว่าจะไปได้ถึงไหน การอ้างคำคมโบราณว่า "ลักขโมยทรัพย์สินคืออาชญากร แต่ลักขโมยแผ่นดินสำเร็จได้เป็นพระยา" ยิ่งเร้าความรู้สึกได้ไม่น้อย  มีการวางปมบุคคลลึกลับที่ช่วยพระเอกยามคับขันทิ้งไว้ แล้วก็ทิ้งตัวละครที่มีความผูกพันกับพระเอกให้หายไปเฉยๆอีก 1 คน ปล่อยให้กลับมาดึงความสนใจคนอ่านตอนปลายเล่ม 2 เล็กน้อยแล้วทิ้งให้ฉงนต่อไป

แต่เล่ม 2 กลับเริ่มเข้าแนวนิยายยุคหลังๆที่จะต้องผลักดันให้พระเอกต้องออกผจญภัยต่างแดนอีกแล้ว เหมือนกับเป็นธรรมเนียมบังคับของนิยายกำลังภายในยุคใหม่ไปเสียแล้ว เพียงแต่เรื่องนี้เปลี่ยนบรรยากาศล่องลงมาทางภาคใต้ของจีนไปจนถึงเวียดนาม แทนที่จะขึ้นเหนือออกทะเลทรายหรือไม่ก็ทุ่งหญ้านอกกำแพงใหญ่ตามเรื่องก่อนๆ การเพาะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ห้ำหั่นกันมาก่อนแต่ถูกสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องจับมือกันจนทำท่าเลยเถิดเป็นความผูกพันแบบชายหญิงก็มีพัฒนาการไม่เลว แถมยังมีการหักมุมให้ดูเหมือนจะหักหลังกันเองก่อนจบเล่ม 2 ให้คนอ่านคาใจเล่นๆเสียอีก อย่างน้อยปมนี้ก็ทำให้ผมเตรียมควักกระเป๋ารอซื้อเล่ม 3 มาอ่านเสียแล้ว อยากรู้ว่าจะสะบั้นสัมพันธ์ทางใจจริงหรือจะมีลูกเล่นหลอกคนอ่านอย่างไร

โดยรวมๆแล้ว 2 เล่มแรกทำให้ผมประเมินคุณภาพ 2 เล่มแรกของเรื่อง "จอมโจรลักแผ่นดิน" ว่าพอๆกับนิยายของ "อ้อเล้งเซ็ง" บางเรื่อง เช่น เหนือกว่า "มังกรกอบกู้ภัย" แต่ด้อยกว่า "กระบี่จอมจักรพรรดิ" เล็กน้อย ถึงตอนนี้ยังมีความน่าติดตามระดับค่อนข้างเข้มข้น หวังว่าคงไม่สะเปะสะปะหลงทางตอนกลางเรื่องและออกทะเลไปเลยตอนท้ายเรื่องเหมือนที่ยุคหลังๆของอ้อเล้งเซ็งทำเป็นประจำ แต่ที่แน่ๆ 2 เล่มแรกของเรื่องนี้เหนือกว่า 2 เล่มแรกของ "เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ" ชัดเจน
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ 
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่