อัศวินพเนจร

กระทู้สนทนา
สามก๊กฉบับอ่านซ้ำ

อัศวินพเนจร

เล่าเซี่ยงชุน

รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งตันก๋งก็บอกกับลิโป้ว่า เจ้าเมืองปักเอี้ยงได้หนีออกจากเมืองไปแล้ว แต่ในเมืองนี้ยังมีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อ เตียนซี มีใจสัตย์ซื่อเป็นที่นับถือของชาวเมืองทั้งปวง ควรจะเรียกมาว่ากล่าวให้เข้าเป็นพวก เพื่อทำอุบายล่อลวงโจโฉให้เข้ามาติดกับ ลิโป้ก็เห็นด้วยจึงเรียกมาเกลี้ยกล่อมให้ช่วยมีหนังสือล่อลวงโจโฉ เตียนซีเกรงกลัวอำนาจของลิโป้ ก็จำใจเขียนหนังสือถึงโจโฉความว่า

".....ข้าพเจ้าเตียนซีคำนับมาถึงโจโฉ ซึ่งลิโป้เป็นคนหยาบช้า ยกทหารมาตีเมืองปักเอี้ยงทำอันตรายแก่ราษฎรชาวเมือง ให้ได้ความเดือดร้อนนั้น บัดนี้ลิโป้มีความกำเริบยกทหารไปตีเมืองลิหยง โกซุ่น โฮเสงอยู่รักษาเมือง ขอให้ท่านยกทหารเข้าไปปล้นข้าพเจ้าจะปักธงขาวไว้เป็นสำคัญ แล้วจะคุมชาวเมืองตีกระหนาบ เห็นจะได้เมืองคืนโดยง่าย....."

โจโฉก็มีความยินดี แต่ เล่าหัว ที่ปรึกษาเตือนให้ระวังกลอุบาย จึงจัดทหารเป็นสามกอง อยู่นอกเมืองสองกอง ยกเข้าตีเมืองกองเดียวโดยมีโจโฉนำ พอถึงเวลากลางคืนเดือนมืด ยกทหารเข้าไปใกล้กำแพงเมืองปักเอี้ยง เห็นธงขาวปักอยู่ที่ประตูด้านตะวันตก ก็คอยอยู่จนได้ยินเสียงม้าล่อ และประตูเมืองก็เปิดออก

โจโฉจึงขี่ม้านำหน้าทหารเข้าเมืองไปจนถึงกลางเมืองก็ไม่เห็นผู้คนเลย พอคิดสดุ้งใจว่าจะถูกอุบาย ก็มีเสียงประทัดและทหารโห่ร้องอื้ออึงขึ้นเป็นอันมาก และมีแสงเพลิงลุกโพลงขึ้นทั้งสี่ทิศ กับมีทหารเอกของลิโป้คุมทหารเข้าตีโจโฉ ทางด้านตะวันออกและตะวันตก พอจะหนีไปทางทิศใต้ ก็มีทหารเอกของลิโป้อีกสองนายดักสกัดไว้ ทหารทั้งสองฝ่ายก็รบกันชุลมุนวุ่นวายอยู่ทั่วเมือง

โจโฉนั้นพลัดกับเตียนอุยทหารองครักษ์ ก็ขับม้าฝ่าเพลิงหนีไปทางประตูทิศเหนือ พอดีสวนกับลิโป้ขับม้าถือทวนตรงเข้ามา โจโฉเห็นจวนตัวก็เอามือขวาบังหน้าไว้ มือซ้ายชักบังเยนม้าจะเลี่ยงไป เผอิญไม่มีแสงไฟ ลิโป้คิดว่าเป็นทหารของตน จึงเอาทวนเคาะศีรษะโจโฉแล้วถามว่าเห็นโจโฉไปทางไหน

โจโฉก็เบือนหน้าหลบแล้วชี้ส่งเดชไปอีกทางหนึ่ง ลิโป้ก็ขับม้าไปตามทางที่ชี้

โจโฉรอดได้ก็ชักม้าจะออกไปทางประตูด้านตะวันออก ก็เจอกับเตียนอุย ซึ่งเที่ยววนเวียนหาโจโฉอยู่หลายตลบ เตียนอุยจึงพาโจโฉจะออกประตูเมือง พอดีเพลิงไหม้ขื่อหอรบพังลงมาถูกท้ายม้าของโจโฉล้มลง ตัวโจโฉก็กระเด็นกลิ้งฝ่ากองเพลิงออกมาได้ ทั้งที่เสื้อผ้าและหนวดผมถูกไฟไหม้อยู่หลายแห่ง

โจโฉก็ฉีกเสื้อทิ้งเสีย เอามือทั้งสองลูบดับเพลิง ที่ไหม้หนวดและผมจนดับ แล้วก็โซซัดโซเซออกจากประตูเมือง เตียนอุยกับแฮหัวเอี๋ยนต้องย้อนกลับมาประคองขึ้นม้า พา หนีรอดไปอีก

รุ่งขึ้นอีกวันหนึ่งก็มีข่าวจากค่ายของโจโฉว่า โจโฉซึ่งถูกไฟไหม้ลำบากนั้น พอกลับมาถึงค่ายก็เสียชีวิต ทหารในค่ายก็นุ่งขาวห่มขาวไว้ทุกข์และร้องไห้กันอึงคนึงไปหมด ลิโป้จึงยกทหารออกไปตีค่ายของโจโฉ แต่พอผ่านเขาม้าเล้งก็ถูกทหารของโจโฉซึ่งซุ่มอยู่ เข้าโจมตีแตกพ่ายกลับมารักษาเมืองไว้

ปรากฏว่าเป็นอุบายของโจโฉที่แกล้งลวงให้ลิโป้เข้าไปติดกับ เป็นการแก้มืออย่างทันควัน

แต่ทั้งสองฝ่ายก็เอาชนะกันไม่ได้เพราะเกิดทุพภิกภัย ข้าวในนาและยุ้งฉางเกิดมีหนอนเสียหาย ทหารทั้งปวงก็อดอยากโดยทั่วกันหมด โจโฉจึงถอยทัพไปตั้งอยู่ที่เมืองเอียนเสีย ลิโป้ก็รักษาเมืองปักเอี้ยงไว้ดังเดิม

ต่อมา โตเกี๋ยม เจ้าเมืองชีจิ๋วถึงแก่ความตายด้วยโรคชรา และยกให้ เล่าปี่ เป็นเจ้าเมืองปกครองประชาชนต่อไป โจโฉก็โกรธว่าเล่าปี่ไม่ได้ทำสงคราม ไม่เสียเกาทัณฑ์แม้แต่ดอกหนึ่ง กลับได้ครองเมืองชีจิ๋ว จึงคิดจะยกกองทัพไปแก้แค้น ต่อจากคราวที่แล้ว แต่ที่ปรึกษาเตือนให้ตีเมืองกุนจิ๋วคืนจากลิโป้เสียก่อน

โจโฉก็ยกกองทัพไปตีเมืองกุนจิ๋ว ซึ่ง ลิฮอง กับ ซิหลัน ทหารเอกของลิโป้รักษาอยู่ ขณะนั้นโจโฉได้ทหารเอกมาใหม่คนหนึ่งชื่อ เคาทู ก็อาสาเข้าตีเมือง และฆ่าลิฮองกับซิหลันตาย โจโฉก็เข้ายึดครองเมืองกุนจิ๋วได้ไม่ยาก แล้วก็ยกทัพไปตีเมืองปักเอี๋ยงต่อ

ลิโป้ก็ยกทหารออกมาตั้งรับโจโฉนอกเมือง และร้องประกาศท้าทายว่า ผู้ใดมีกำลังกล้าหาญจะสู้ด้วยก็เร่งออกมา เคาทูก็ขึ้นม้ารำทวนเข้ารบกับลิโป้ได้ยี่สิบเพลง ไม่แพ้ชนะกัน เตียนอุยก็ออกมาช่วยอีกแรงหนึ่ง ก็ยังเอาชนะลิโป้ไม่ได้

คราวนี้โจโฉเลยให้ทหารเอกออกมารุมอีกสี่คน ลิโป้ก็สามารถต้านทานทหารเอกทั้งหกนายของโจโฉไว้ได้ แต่มองไม่เห็นทางที่จะชนะ จึงขับม้าเลี่ยงหนีจะเข้าเมือง

แต่เตียนซีเศรษฐีใหญ่อยู่บนเชิงเทิน กลับบอกให้พรรคพวกชักสะพานที่ทอดข้ามคูเมืองขึ้นเสีย แล้วร้องบอกลิโป้ว่า เราเข้าด้วยโจโฉแล้ว ท่านอย่าเข้ามาในเมืองเราเลย ลิโป้ก็จนปัญญาได้แต่ร้องด่าเตียนซี ด้วยข้อหยาบช้าเป็นอันมาก แล้วก็พาทหารหนีกลับไปยังเมืองตันลิว

ตันก๋งเห็นเหตุการณ์ผันแปรไปดังนั้น จึงพาครอบครัวของลิโป้ตามไปเมืองตันลิวด้วย

โจโฉก็ยกทหารเข้าเมืองปักเอี้ยงได้ แต่ไม่เอาโทษกับเตียนซี ที่หลอกลวงในครั้งก่อน เพราะมีความชอบในคราวนี้ เมื่อจัดแจงบ้านเมืองเรียบร้อยแล้ว โจโฉก็ยกทัพตามลิโป้ไปที่เมืองตันลิวโดยไม่ชักช้า

ฝ่ายลิโป้ก็ปรึกษากับ เตียวเมา เจ้าเมืองตันลิวแล้ว ก็ให้ทหารขึ้นเชิงเทินรักษาหน้าที่โดยกวดขัน โจโฉตั้งประชิดเมืองอยู่สิบวันก็ไม่เห็นลิโป้ออกไปรบด้วย จึงถอยทัพออกห่างเมืองประมาณสี่ร้อยเส้น แล้วก็ให้ทหารเกี่ยวข้าวมาเป็นเสบียง ลิโป้ก็คุมทหารออกไปจับพวกเกี่ยวข้าวมาเป็นเชลยได้ จึงคิดว่ากองทัพโจโฉอดอยาก ควรจะยกไปตีค่ายให้แตก ตันก๋งก็ท้วงว่า

"....โจโฉนั้นมีความคิดในกลศึกเป็นอันมาก ซึ่งท่านจะยกทัพออกไปทำการนั้น ดำริดูจงควรก่อน....."

ลิโป้ก็ไม่ฟัง ให้ตันก๋งอยู่รักษาเมืองกับเตียวเมา ตนเองยกทหารออกไปตามความคิด พอไปถึงค่ายโจโฉก็เห็นเงียบอยู่ ลิโป้จึงพาทหารเข้าตี ก็ได้ยินเสียงม้าล่อและกลองอื้ออึงขึ้น แล้วทหารของโจโฉก็ล้อมเข้ามา โดยมีทหารเอกของโจโฉทั้งหกนายหน้าเก่า คุมทหารเข้ารบ

ลิโป้ก็รำทวนเข้าปะทะโดยไม่เกรงขาม แต่ทหารนั้นแตกพ่ายล้มตายไปมาก เห็นว่าจะไม่รอดแน่ จึงขับม้าตีฝ่าออกไปกับทหารคนสนิท แต่ไปไม่ได้ไกลคนสนิทก็ถูกยิงด้วยเกาทัณฑ์ตกม้าตาย จึงควบม้าเซ็กเธาว์หนีรอดไปได้แต่เพียงตัวคนเดียว

ตันก๋งที่อยู่ในเมืองรู้ข่าวก็ตกใจ รีบรวบรวมครอบครัวของลิโป้หนีออกจากเมือง ไปเจอทหารเอกของลิโป้อีกสามคน ที่เพิ่งหนีมาจากเมืองปักเอี๋ยง ก็ชวนกันตามหาลิโป้ จนพบอยู่ที่ชายทะเลแดนเมืองตันลิวนั้นเอง

ฝ่ายโจโฉเมื่อเข้าเมืองตันลิวได้ ก็เผาเมืองเสียวอดวาย เตียวเมาเจ้าเมืองหนีรอดไปอาศัยอยู่กับ อ้วนสุด น้องชายของ อ้วนเสี้ยว ที่เมืองลำหยง และอาณาประชาราษฎรชาวเมืองก็อ่อนน้อมต่อโจโฉสิ้น โจโฉก็กลับเป็นใหญ่ ในฝ่ายหัวเมืองตะวันออกดังเดิม

ฝ่ายลิโป้ เมื่อพบกับทหารเอกอีกสี่นาย และ ตันก๋งที่ปรึกษา ซึ่งได้พาครอบครัว มาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว ก็หารือว่าจะไปอาศัยอยู่ที่เมืองใดต่อไป ทีแรกก็ว่าจะไปหาอ้วนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว ซึ่งเคยอยู่มาและมีเรื่องกันมาแล้ว พอดีได้ข่าวว่าอ้วนเสี้ยวส่งกองทัพมาช่วยโจโฉ แต่เผอิญโจโฉยึดเมืองปักเอี้ยง และเมืองตันลิวได้ก่อนจึงยกกลับไป ลิโป้เลยเลิกความคิดที่จะเป็นมิตรกันต่อไป

ตันก๋งกุนซือผู้ซื่อสัตย์ก็แนะนำว่า โตเกี๋ยม เจ้าเมืองชีจิ๋วนั้น ก่อนตายได้ยกเมืองให้ เล่าปี่ปกครอง เล่าปี่เป็นคนมีน้ำใจกว้างขวางอารีต่อคนทั้งปวง ถึงจะเคยรบกันมาบ้าง แต่ตอนนี้ก็กำลังชิงดีชิงเด่นกับโจโฉอยู่ คงจะต้องการผู้ช่วยเหลือเห็นจะพออาศัยได้ ลิโป้ก็เห็นด้วยจึงพาครอบครัวและพวกพ้อง ไปหาเล่าปี่ที่เมืองชีจิ๋ว

เล่าปี่ก็หารือกับที่ปรึกษาว่า ลิโป้เสียทีแก่โจโฉจะมาขออาศัยอยู่ด้วยจะสมควรรับไว้หรือไม่ ที่ปรึกษาก็ว่าน้ำใจลิโป้นั้นหยาบช้าร้ายกาจดังเสือ บัดนี้ตกถังอยู่ ถ้ารับมาเลี้ยงดูไว้ นานไปมีกำลังขึ้นก็จะทำอันตรายเอาได้

เล่าปี่ก็ว่าโจโฉนั้นน้ำใจก็หยาบช้า เมื่อคราวก่อนจะมาตีเมืองชีจิ๋วให้ราบเป็นหน้ากลอง ก็ได้ลิโป้ช่วยไปตีเมืองกุนจิ๋วไว้ โจโฉจึงถอยกลับไป คราวนี้ลิโป้บ่ายหน้ามาหาแล้ว ครั้นจะมิรับไว้ก็เหมือนคนหาไมตรีไม่

เตียวหุย น้องชายคนเล็กก็ออกปากว่า น้ำใจเล่าปี่นั้นอารีต่อคนทั้งปวงจะรับลิโป้ไว้ก็ตามใจเถิด แต่ให้คิดระวังตัวจงดี

เล่าปี่ก็พา กวนอู เตียวหุย กับทหารทั้งปวงออกไปรับลิโป้ก่อนถึงเมือง ประมาณสามร้อยเส้น แล้วพาเข้ามาในเมือง เมื่อนั่งในที่อันสมควรแล้ว ลิโป้ก็เล่าเรื่องของตนที่คิดว่าเล่าปี่ยังไม่รู้ ให้ฟังตั้งแต่ต้นว่า

"...เดิม อ้องอุ้น กับข้าพเจ้าคิดกันฆ่า ตั๋งโต๊ะ ซึ่งเป็นศัตรูราชสมบัติเสีย ครั้นอยู่มา ลิฉุย กุยกี ได้เป็นใหญ่ขึ้นจะฆ่าข้าพเจ้าเสีย ข้าพเจ้าจึงหนีไปพึ่งเป็นหลายเมือง เจ้าเมืองมิให้อยู่ ข้าพเจ้าจึงได้อยู่ด้วย เตียวเมา เจ้าเมืองตันลิว โจโฉยกมารบเมืองนี้ ข้าพเจ้ารู้ข่าวว่าท่านยกมาช่วยโตเกี๋ยม ข้าพเจ้าก็มีความยินดี จึงยกทหารไปตีเมืองกุนจิ๋วให้เป็นกังวล หวังจะช่วยธุระท่าน ครั้งนี้ข้าพเจ้าแตกโจโฉมา เสียทหารเป็นอันมาก ข้าพเจ้าพึ่งท่านหวังจะคิดการใหญ่กับท่านสืบไป แต่ยังไม่แจ้งในใจท่านว่า จะพร้อมร่วมคิดกันด้วยข้าพเจ้า หรือประการใด....."

เล่าปี่ก็ถ่อมตัวว่า

".....โตเกี๋ยมถึงแก่ความตายแล้ว แลเมืองชีจิ๋วนี้เราอยู่ปกป้องรักษาไว้ เพราะหาผู้ใดจะเป็นผู้ใหญ่มิได้ บัดนี้ตัวท่านมาแล้ว ก็สมควรที่จะว่าราชการเมือง เรามีความยินดียกเมืองชีจิ๋ว ให้ท่าน ท่านจะได้ทำการสืบไป...."

ว่าแล้วเล่าปี่ก็เอาตราประจำเมืองมามอบให้ ลิโป้ก็ดีใจที่ได้ลาภโดยไม่รู้ตัว ขยับจะรับตราตำแหน่งอยู่แล้ว แต่แลไปเห็นสายตาของกวนอูและเตียวหุย ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเล่าปี่นั้น จ้องมองเขม็งอย่างจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ จึงชงักมือ ทำเป็นหัวเราะแล้วว่า

".....ตัวข้าพเจ้าเป็นแต่ทหาร ซึ่งจะว่าราชการเมืองนั้นเหลือสติปัญญานัก....."

ตันก๋งก็รีบช่วยเสริมว่า พวกตนเป็นแขกมาขอพึ่งพาอาศัย จะบังอาจเก็บเอาทรัพย์สมบัติของเจ้าเรือนได้อย่างไร ลิโป้เพียงแต่จะมาขอพึ่งบารมีเล่าปี่ มิได้คิดที่จะมาแย่งชิงเอาเมือง ขออย่าได้สงสัยเลย

เล่าปี่จึงให้จัดโต๊ะมาเลี้ยงต้อนรับ และจัดบ้านให้ลิโป้อยู่ในเมืองชีจิ๋ว.

##########
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่