[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อาเดรียน่า บทที่ 1-2 http://pantip.com/topic/31108562
อาเดรียน่า บทที่ 3 http://pantip.com/topic/31115301
อาเดรียน่า บทที่ 4 http://pantip.com/topic/31122567
อาเดรียน่า บทที่ 5-6 http://pantip.com/topic/31328799
อาเดรียน่า บทที่ 7 http://pantip.com/topic/31340163
บทที่ 8
ซาลาคลอสวิ่งออกมาจากห้องพักของเทเลอัส ท่ามกลางสายตางุนงงของทหารยามที่อยู่ประจำการตามสถานที่ต่างๆ ภายในเขตพระราชฐานวังหลวง หลังจากตั้งสติได้และเห็นเทเลอัสพรวดพราดออกไปจากห้อง ซาลาคลอสจึงออกวิ่งตามหลังมาอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาหรือเสียงฝีเท้าที่ย่ำไปบนพื้นหญ้าของเทเลอัสเลยสักนิด ทำให้เขาต้องคาดเดาเอาเองว่าสมควรจะไปต่อยังทิศทางใด ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็น เพราะหากคิดตามเหตุผลและท่าทีของเทเลอัสแล้ว สถานที่เดียวที่ต้องมุ่งหน้าไปก็คือบ้านของท่านหัวหน้าคณะแพทย์หลวง
ไม่นานหลังจากนั้น เท้าทั้งสองของซาลาคลอสมีอันต้องหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน ขณะที่ดวงตากำลังจ้องมองร่างของคนสองคนที่กำลังยืนประจันหน้ากันอยู่ภายใต้แสงจันทร์ ซึ่งทำให้ซาลาคลอสถึงกับอ้าปากค้างด้วยความสงสัยและงุนงง
“เอ่อ คือว่า...นี่มันเกิด...อะไรขึ้น”
“เจ้าอยู่ตรงนั้นล่ะซาลาคลอส ไม่ต้องเข้ามา ข้าจัดการเอง”
“จัดการ!?”ซาลาคลอสถลึงตามองเทเลอัสที่ยืนหันหลังให้ตน กับอาเดรียน่าที่ยืนนิ่ง ใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ คำพูดนั้นไม่ได้ช่วยให้ความสงสัยของเขาพบกับความกระจ่างเลยสักนิด และดูเหมือนทั้งเทเลอัสและอาเดรียน่าก็ไม่ต้องการอธิบายเพิ่มเติมกับเขาด้วย
นัยน์ตาสีน้ำทะเลของเทเลอัสจับจ้องไปยังร่างของหญิงสาวที่เขาเห็นนางเล็ดลอดปีนออกมาจากหน้าต่างห้องนอนของตนเอง และใช้สันมือข้างขวาฟาดลงไปบนต้นคอของลูกน้องรายหนึ่งของเทเลอัสซึ่งรับหน้าที่อยู่เวรรอบตัวบ้านของโอโดวาคาร์ แรงฟาดนั้นรุนแรงมากพอที่จะส่งผู้ชายตัวโตๆ คนหนึ่งให้หมดสติไปได้ในทันที
“กลับไปนอนซะ แล้วข้าจะแกล้งทำเป็นปิดหูปิดตาให้ข้างหนึ่ง”เทเลอัสบอกกับหญิงสาวที่ส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ
“ข้าต้องไป”อาเดรียน่าเอ่ยเสียงแผ่วเนิบช้า สีหน้ายังคงราบเรียบไร้อารมณ์เช่นเคย “ต้องไป”
“ทำไม”
“ราชครูบาซิลสั่ง”
คิ้วของเทเลอัสเลิกสูงขึ้นข้างเล็กน้อย “ไหนว่าไม่เคยรู้จักกันไง”สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบและสีหน้าที่ยังคงว่างเปล่า ชายหนุ่มจึงถามต่อ “แล้วทำไมต้องเชื่อ”
“ข้าต้องไป”
“แต่ข้าไม่ให้ไป อย่าลืมสิว่าเจ้ายังเป็นนักโทษของข้า”
ความเงียบในยามดึกเริ่มแผ่ขยายตัวออกเป็นวงกว้างเมื่อการสนทนาหยุดลง ร่างของคนทั้งสองหยุดนิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปสลักหิน จะมีก็แต่เพียงซาลาคลอสที่หันซ้ายหันขวาพยายามกระ

กระสนหาคำตอบให้ตัวเอง
แล้วก็เป็นฝ่ายหญิงสาวที่เอ่ยทำลายความเงียบ “หลีกไปให้พ้นทาง”
“ขอปฏิเสธ”เทเลอัสตัดบท “และข้าจะพาเจ้ากลับไปนอนด้วย”
อาเดรียน่าเริ่มขยับตัวพร้อมพูดเสียงหวานแผ่ว “งั้นก็จง...ตายซะ”
ซาลาคลอสอุทานเสียงหลง ขณะมองร่างของเทเลอัสและอาเดรียน่าพุ่งเข้าใส่กัน การต่อสู้ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ก็เริ่มต้น
“สรุปว่าที่ท่านหัวหน้าพูดมาตลอดคือเรื่องที่ถูกต้อง นางเป็นสายลับของกอรินธ์ ใช่ไหม! ท่านหัวหน้าราชองครักษ์”
ซาลาคลอสหันไปมองมีรอพส์ที่โผล่มาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ และกำลังยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจมึนงง เช่นเดียวกันกับตน
“สารภาพตามตรง ตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนเท็จ”ซาลาคลอสตอบ ก่อนหันไปยังการต่อสู้ที่ตนถูกห้ามไม่ให้เข้าไปยุ่ง
เทเลอัสเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือของอาเดรียน่าที่พุ่งเข้ามาได้อย่างฉิวเฉียด พร้อมทั้งใช้มือของตนปัดป้องการโจมตีที่ต่อเนื่องมาอีกชุดใหญ่ จนเมื่อเห็นโอกาสเขาจึงขยับเท้าไปด้านข้าง ก่อนพลิกไปอยู่ด้านหลังของหญิงสาว แล้วสอดแขนของตัวเองเพื่อตรึงไหล่บางเอาไว้ แต่อาเดรียน่ากลับดิ้นหลุดอย่างง่ายดาย โดยการย่อตัวลงพร้อมกับดันตัวลอดใต้ขาของเทเลอัสที่ถูกกระชากตาม จนร่างกายสูงใหญ่นั้นเสียการควบคุม ก่อนจะถูกเหวี่ยงจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างแรง
“นางไม่ใช่แค่ผู้หญิงอ่อนแอไร้พิษสงแล้วล่ะ สู้เก่งกว่าข้าอีก”มีรอพส์เอ่ยอย่างตื่นตกใจ กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ พลางเหลือบมองซาลาคลอสเพื่อขอความเห็น แต่สิ่งที่ได้พบคือใบหน้าของหัวหน้าราชองครักษ์ที่กำลังยืนยิ้มกริ่ม ขณะพูดขึ้นอย่างร่าเริงไม่เข้ากับสถานการณ์ว่า
“ที่ผ่านมาเจ้าเคยเห็นเทเลอัสโดนผู้หญิงจับทุ่มแบบนี้เหรอ ดูและจดจำใส่สมองไว้เลยนะมีรอพส์ เพราะชั่วทั้งชีวิตนี้เจ้าอาจไม่ได้เห็นภาพหายากเช่นนี้อีกแล้วก็ได้”
จบคำพูดชวนอึ้งนั้น มีรอพส์ได้แต่มองตาค้าง ก่อนจะค่อยๆ หันไปมองการต่อสู่ที่ยังคงดำเนินต่อไป
พลัก!
คราวนี้ร่างบางที่ถูกจับกระแทกหน้าคว่ำลงพื้น ไหล่ขวาถูกมือหนากดไว้ขณะที่มือซ้ายถูกจับไพล่หลัง แรงที่ถูกส่งมานั้นมากมายจนอาจทำให้กระดูกคนตัวเล็กกว่าแหลกคามือ แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจ พยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์จนเทเลอัสต้องเป็นฝ่ายผ่อนแรงเสียเอง ด้วยเกรงจะส่งผลกระทบต่อดวงจิตเทพธิดาในร่างของหญิงสาว
“ตั้งสติแล้วเลิกบ้าเสียที!”ชายหนุ่มพูดเสียงกร้าว ดึงร่างของอาเดรียน่าให้ลุกขึ้นยืนแต่ยังคงจับไว้มั่น “ข้าไม่ได้ใจดีเหมือนลุงของข้ากับราชครูไบอัสหรอกนะ”
จบคำเตือนกลับกลายเป็นร่างสูงใหญ่ที่ถูกเตะกวาดข้อเท้าจนล้มหงายหลัง ในขณะที่อาเดรียน่าหลุดพ้นจากพันธนาการได้สำเร็จ
“ฮา.... ไม่คิดว่าจะได้เห็นเป็นครั้งที่สองเร็วขนาดนี้ บุญตาแท้ๆ”ซาลาคลอสว่า ดวงตาลุกวาวเป็นประกายวิบวับอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก ต่างจากลูกน้องคนสนิทของสหายที่ตอนนี้ยืนทำสีหน้าราวกับกำลังกลืนยาขมลงคอ
“ท่านคิดว่าคราวนี้...”มีรอพส์หันไปถาม ท่าทางสับสนคิดไม่ตก “ราชครูไบอัสจะหน้าแตกยับไหมขอรับ เพราะตลอดเวลาเขา --”
“มีรอพส์ระวัง!”
เสียงร้องเตือนของเทเลอัสทำให้สองคนดูข้างสนามต้องหันกลับไปมอง ซึ่งเป็นเสี้ยววินาทีเดียวกับที่ร่างของอาเดรียน่าทิ้งโค้งลงจากเบื้องบน แขนข้างขวาเอื้อมจนสุดและกระชากด้ามดาบออกจากตัวฝักที่เกี่ยวอยู่กับเข็มขัดของมีรอพส์ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของถูกซาลาคลอสเหวี่ยงกระชากไปให้พ้นรัศมีการวาดวงดาบที่หมายจะปลิดชีวิตของพวกเขาได้อย่างฉิวเฉียด และก็เป็นเทเลอัสที่เข้ามาขวางไว้ ดาบสองเล่มจึงเข้าปะทะกัน
“ถ้ายังไม่เลิกอาละวาด ข้าจะเอาจริงล่ะนะ”
“หลีกไป!”หญิงสาวกระชากเสียงกลับ
เทเลอัสถอนหายใจ ดูท่าแล้วยังไงก็คงจะพูดกันไม่รู้เรื่อง “ถ้าอย่างนั้น...”เขาเกริ่น ปรายตามองตามเนื้อตัวของหญิงสาวที่เขามั่นใจว่า พรุ่งนี้เช้าคงได้มีรอยฟกซ้ำแทบจะทั่วทั้งตัว “ข้าคงต้องทุบเจ้าแรงๆ สักที”
แต่ฝ่ายชิงรุกลับเป็นอาเดรียน่าที่แทงทะลุแนวป้องกันจนปลายดาบพุ่งตรงอย่างมุ่งร้าย เกือบถึงบริเวณลิ้นปี่ของเทเลอัส หากแต่วินาที่ต่อมาดาบกลับพลาดเป้าหมายอย่างน่าเหลือเชื่อ นั่นเพราะเทเลอัสก้าวถอยหลังหนีได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดดาบของตนเพื่อเหวี่ยงดาบของหญิงสาวออก แล้วบีบบังคับให้อาเดรียน่าต้องถอยร่นกลายเป็นฝ่ายตั้งรับ เมื่อสบโอกาสจึงเบี่ยงตัวก้าวเท้าไปด้านหลัง ก่อนจะใช้สันฝ่ามือซ้ายฟาดลงไปบนต้นคอของอาเดรียน่าอย่างแรง จนซาลาคลอสและมีรอพส์ถึงกับสะดุ้งตาม
“ตั้งใจจะให้สลบหรือให้คอหักกันแน่”
มีรอพส์ว่า ยกมือขึ้นนวดต้นคออย่างนึกหวาดเสียว แต่แล้วก็ต้องตะลึงตาค้างอีกครั้ง เมื่อร่างของหญิงสาวที่น่าจะสลบไปเพราะถูกฟาดอย่างแรงกลับหันมาโจมตีใส่เทเลอัสได้อีกอย่างน่าอัศจรรย์
เทเลอัสเริ่มลุกไล่อย่างรุนแรงและรวดเร็วกว่าเดิม ไม่นานนักดาบในมือของอาเดรียน่าก็ลอยเคว้งห่างออกไป หญิงสาวพยายามจะสู้ต่อ แต่เทเลอัสไม่ยอมเปิดโอกาสให้ เขาพุ่งเข้าประชิดตัวพร้อมกับมือซ้ายซึ่งยกขึ้นจับไปที่ขมับแล้วผลักอย่างแรง จนร่างบางล้มหงายหลัง
ในช่วงเวลานั้น แสงสีขาวได้สว่างวาบขึ้นบนใบหน้างามอยู่ครู่สั้นๆ เมื่อแสงนั้นหายไป ก็เหลือเพียงแต่ร่างของอาเดรียน่าที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ภายในบ้านของโอโดวาคาร์ หลายคนกำลังรอฟังข่าวอย่างกระวนกระวาย จนเมื่อเห็นเทเลอัสอุ้มร่างที่สลบไสลของอาเดรียน่ากลับเข้ามา ความตื่นตกใจก็เข้ามาแทนที่ สารพัดคำถามดังสะท้อนไปมาอยู่ในอากาศจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ถึงจะฟังรู้เรื่องเทเลอัสก็ยังไม่มีอารมณ์จะตอบในตอนนี้
“ในเมื่อยังไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร หมดหน้าที่ของเจ้าแล้ว เดี๋ยวลุงจะให้แพทย์หลวงที่เป็นผู้หญิงจัดการต่อ”
เทเลอัสที่เพิ่งวางร่างของอาเดรียน่าลงบนเตียงในห้องนอนของนาง หันมามองผู้เป็นลุง “ตอนนี้ไม่ใช่หน้าที่ของพวกแพทย์หลวง”
คำพูดนั้นทำเอาบรรดาแพทย์หลวงที่เป็นหญิงสาวสองคนหยุดชะงัก ในขณะที่ดวงตาของโอโดวาคาร์เบิกกว้างจนเกือบถลน “อย่าบอกนะว่าเจ้าจะปลุกนางขึ้นมาสอบปากคำตอนนี้”
“ถ้าได้แบบนั้นก็ดี”
“เทเลอัส!”โอโดวาคาร์ตะโกนลั่นบ้านอย่างเหลือทน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยต่อก็ถูกหลานชายชิงแทรกตัดบท
“แต่นางไม่มีทางฟื้นขึ้นมาในสองสามชั่วโมงนี้แน่ ที่สำคัญก็คือ ตอนนี้ไม่ใช่หน้าที่ของพวกแพทย์หลวง”
“ใช่สิ! นางได้รับบาดเจ็บกลับมา หนำซ้ำยังสลบไสลไม่ได้สติ”โอโดวาคาร์ยังยืนยันค้านเสียงแข็ง “หากไม่ใช่หน้าที่ของแพทย์หลวงแล้วจะเป็นหน้าที่ของใครกันเล่า”
“หน้าที่ของข้าเอง”เทเลอัสตอบเสียงเย็น ดวงตาเรียบเฉยไร้อารมณ์จนดูน่าขนลุก “ข้ารู้ว่านางเป็นอะไร ควรจะแก้ไขอย่างไร และมีเพียงข้าเท่านั้นที่ทำได้ ในขณะที่แพทย์หลวงทำไม่ได้”เขาเน้นประโยคหลัง จ้องมองโอโดวาคาร์ที่ดูเหมือนจะรับรู้ได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาว แล้วจึงหันไปคุยกับซาลาคลอส “ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า อาจจะหนักไปสักหน่อย แต่ตอนนี้ --”
“ข้ารู้แล้วน่า ทำส่วนของเจ้าไป ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง”ซาลาคลอสที่เข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีบอก ก่อนจะเดินออกไปจากห้องในทันที
“ส่วนเจ้า”เทเลอัสหันไปสั่งกับมีรอพส์ต่อทันที “ตราบใดที่ข้ายังไม่ได้ออกไปจากห้องนี้ ห้ามให้ใครเข้ามาเด็ดขาด ต่อให้เป็นองค์กษัตริย์ก็เข้ามาไม่ได้”
มีรอพส์พยักหน้ารับอย่างตื่นๆ และถึงแม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก แต่เมื่อสังเกตจากท่าทีเคร่งเครียดของผู้เป็นหัวหน้า เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าเหตุการณ์ในคืนนี้คงมีเบื้องหลังซับซ้อนมากกว่าที่เห็น และแน่นอนว่าเมื่อถึงพรุ่งนี้เช้า เรื่องนี้คงแพร่กระจายไปทั่วทั้งวังหลวง
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่เจ้ารู้ดีใช่ไหมว่าชีวิตของอาเดรียน่าสำคัญมากขนาดไหน
ก็เพราะรู้ไงข้าถึงได้ยั้งมือ
เทเลอัสได้แต่คิดในใจ ก่อนพยักหน้ารับกับโอโดวาคาร์ที่เดินเข้ามาคุยด้วยใกล้ๆ จนเมื่อสัญญาว่าจะพยายามจนสุดความสามารถเพื่อให้หญิงสาวปลอดภัย บรรดาแพทย์หลวงรวมทั้งมิลันโธก็ยอมอพยพออกไปจากห้องแต่โดยดี เทเลอัสจึงเริ่มต้นหน้าที่ของตน
เขาช้อนร่างบางขึ้นมาแล้วจับพลิกให้นอนคว่ำ สองมือจับที่คอเสื้อแล้วฉีกออกลึกไปจนถึงเอว เผยให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียน ซึ่งบนนั้นมีรายเส้นสีดำเป็นรูปมนุษย์เพศชายวาดอยู่เต็มแผ่นหลัง ดวงตาสีแดงก่ำที่หรี่ปรือนั้นกำลังพยายามกระ

กระสนเพื่อลืมขึ้นอีกครั้ง
“อย่าหวังว่าข้าจะให้โอกาสเป็นครั้งที่สองกับท่านเลย ราชครูแห่งกอรินธ์”
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
โรแมนติกแฟนตาซี : อาเดรียน่า บทที่ 8-9
บทที่ 8
ซาลาคลอสวิ่งออกมาจากห้องพักของเทเลอัส ท่ามกลางสายตางุนงงของทหารยามที่อยู่ประจำการตามสถานที่ต่างๆ ภายในเขตพระราชฐานวังหลวง หลังจากตั้งสติได้และเห็นเทเลอัสพรวดพราดออกไปจากห้อง ซาลาคลอสจึงออกวิ่งตามหลังมาอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาหรือเสียงฝีเท้าที่ย่ำไปบนพื้นหญ้าของเทเลอัสเลยสักนิด ทำให้เขาต้องคาดเดาเอาเองว่าสมควรจะไปต่อยังทิศทางใด ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็น เพราะหากคิดตามเหตุผลและท่าทีของเทเลอัสแล้ว สถานที่เดียวที่ต้องมุ่งหน้าไปก็คือบ้านของท่านหัวหน้าคณะแพทย์หลวง
ไม่นานหลังจากนั้น เท้าทั้งสองของซาลาคลอสมีอันต้องหยุดชะงักลงอย่างกะทันหัน ขณะที่ดวงตากำลังจ้องมองร่างของคนสองคนที่กำลังยืนประจันหน้ากันอยู่ภายใต้แสงจันทร์ ซึ่งทำให้ซาลาคลอสถึงกับอ้าปากค้างด้วยความสงสัยและงุนงง
“เอ่อ คือว่า...นี่มันเกิด...อะไรขึ้น”
“เจ้าอยู่ตรงนั้นล่ะซาลาคลอส ไม่ต้องเข้ามา ข้าจัดการเอง”
“จัดการ!?”ซาลาคลอสถลึงตามองเทเลอัสที่ยืนหันหลังให้ตน กับอาเดรียน่าที่ยืนนิ่ง ใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ คำพูดนั้นไม่ได้ช่วยให้ความสงสัยของเขาพบกับความกระจ่างเลยสักนิด และดูเหมือนทั้งเทเลอัสและอาเดรียน่าก็ไม่ต้องการอธิบายเพิ่มเติมกับเขาด้วย
นัยน์ตาสีน้ำทะเลของเทเลอัสจับจ้องไปยังร่างของหญิงสาวที่เขาเห็นนางเล็ดลอดปีนออกมาจากหน้าต่างห้องนอนของตนเอง และใช้สันมือข้างขวาฟาดลงไปบนต้นคอของลูกน้องรายหนึ่งของเทเลอัสซึ่งรับหน้าที่อยู่เวรรอบตัวบ้านของโอโดวาคาร์ แรงฟาดนั้นรุนแรงมากพอที่จะส่งผู้ชายตัวโตๆ คนหนึ่งให้หมดสติไปได้ในทันที
“กลับไปนอนซะ แล้วข้าจะแกล้งทำเป็นปิดหูปิดตาให้ข้างหนึ่ง”เทเลอัสบอกกับหญิงสาวที่ส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ
“ข้าต้องไป”อาเดรียน่าเอ่ยเสียงแผ่วเนิบช้า สีหน้ายังคงราบเรียบไร้อารมณ์เช่นเคย “ต้องไป”
“ทำไม”
“ราชครูบาซิลสั่ง”
คิ้วของเทเลอัสเลิกสูงขึ้นข้างเล็กน้อย “ไหนว่าไม่เคยรู้จักกันไง”สิ่งที่ตอบกลับมามีเพียงความเงียบและสีหน้าที่ยังคงว่างเปล่า ชายหนุ่มจึงถามต่อ “แล้วทำไมต้องเชื่อ”
“ข้าต้องไป”
“แต่ข้าไม่ให้ไป อย่าลืมสิว่าเจ้ายังเป็นนักโทษของข้า”
ความเงียบในยามดึกเริ่มแผ่ขยายตัวออกเป็นวงกว้างเมื่อการสนทนาหยุดลง ร่างของคนทั้งสองหยุดนิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปสลักหิน จะมีก็แต่เพียงซาลาคลอสที่หันซ้ายหันขวาพยายามกระ
แล้วก็เป็นฝ่ายหญิงสาวที่เอ่ยทำลายความเงียบ “หลีกไปให้พ้นทาง”
“ขอปฏิเสธ”เทเลอัสตัดบท “และข้าจะพาเจ้ากลับไปนอนด้วย”
อาเดรียน่าเริ่มขยับตัวพร้อมพูดเสียงหวานแผ่ว “งั้นก็จง...ตายซะ”
ซาลาคลอสอุทานเสียงหลง ขณะมองร่างของเทเลอัสและอาเดรียน่าพุ่งเข้าใส่กัน การต่อสู้ที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ก็เริ่มต้น
“สรุปว่าที่ท่านหัวหน้าพูดมาตลอดคือเรื่องที่ถูกต้อง นางเป็นสายลับของกอรินธ์ ใช่ไหม! ท่านหัวหน้าราชองครักษ์”
ซาลาคลอสหันไปมองมีรอพส์ที่โผล่มาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ และกำลังยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความตกใจมึนงง เช่นเดียวกันกับตน
“สารภาพตามตรง ตอนนี้ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องไหนจริงเรื่องไหนเท็จ”ซาลาคลอสตอบ ก่อนหันไปยังการต่อสู้ที่ตนถูกห้ามไม่ให้เข้าไปยุ่ง
เทเลอัสเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือของอาเดรียน่าที่พุ่งเข้ามาได้อย่างฉิวเฉียด พร้อมทั้งใช้มือของตนปัดป้องการโจมตีที่ต่อเนื่องมาอีกชุดใหญ่ จนเมื่อเห็นโอกาสเขาจึงขยับเท้าไปด้านข้าง ก่อนพลิกไปอยู่ด้านหลังของหญิงสาว แล้วสอดแขนของตัวเองเพื่อตรึงไหล่บางเอาไว้ แต่อาเดรียน่ากลับดิ้นหลุดอย่างง่ายดาย โดยการย่อตัวลงพร้อมกับดันตัวลอดใต้ขาของเทเลอัสที่ถูกกระชากตาม จนร่างกายสูงใหญ่นั้นเสียการควบคุม ก่อนจะถูกเหวี่ยงจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับพื้นดินอย่างแรง
“นางไม่ใช่แค่ผู้หญิงอ่อนแอไร้พิษสงแล้วล่ะ สู้เก่งกว่าข้าอีก”มีรอพส์เอ่ยอย่างตื่นตกใจ กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ พลางเหลือบมองซาลาคลอสเพื่อขอความเห็น แต่สิ่งที่ได้พบคือใบหน้าของหัวหน้าราชองครักษ์ที่กำลังยืนยิ้มกริ่ม ขณะพูดขึ้นอย่างร่าเริงไม่เข้ากับสถานการณ์ว่า
“ที่ผ่านมาเจ้าเคยเห็นเทเลอัสโดนผู้หญิงจับทุ่มแบบนี้เหรอ ดูและจดจำใส่สมองไว้เลยนะมีรอพส์ เพราะชั่วทั้งชีวิตนี้เจ้าอาจไม่ได้เห็นภาพหายากเช่นนี้อีกแล้วก็ได้”
จบคำพูดชวนอึ้งนั้น มีรอพส์ได้แต่มองตาค้าง ก่อนจะค่อยๆ หันไปมองการต่อสู่ที่ยังคงดำเนินต่อไป
พลัก!
คราวนี้ร่างบางที่ถูกจับกระแทกหน้าคว่ำลงพื้น ไหล่ขวาถูกมือหนากดไว้ขณะที่มือซ้ายถูกจับไพล่หลัง แรงที่ถูกส่งมานั้นมากมายจนอาจทำให้กระดูกคนตัวเล็กกว่าแหลกคามือ แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจ พยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์จนเทเลอัสต้องเป็นฝ่ายผ่อนแรงเสียเอง ด้วยเกรงจะส่งผลกระทบต่อดวงจิตเทพธิดาในร่างของหญิงสาว
“ตั้งสติแล้วเลิกบ้าเสียที!”ชายหนุ่มพูดเสียงกร้าว ดึงร่างของอาเดรียน่าให้ลุกขึ้นยืนแต่ยังคงจับไว้มั่น “ข้าไม่ได้ใจดีเหมือนลุงของข้ากับราชครูไบอัสหรอกนะ”
จบคำเตือนกลับกลายเป็นร่างสูงใหญ่ที่ถูกเตะกวาดข้อเท้าจนล้มหงายหลัง ในขณะที่อาเดรียน่าหลุดพ้นจากพันธนาการได้สำเร็จ
“ฮา.... ไม่คิดว่าจะได้เห็นเป็นครั้งที่สองเร็วขนาดนี้ บุญตาแท้ๆ”ซาลาคลอสว่า ดวงตาลุกวาวเป็นประกายวิบวับอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก ต่างจากลูกน้องคนสนิทของสหายที่ตอนนี้ยืนทำสีหน้าราวกับกำลังกลืนยาขมลงคอ
“ท่านคิดว่าคราวนี้...”มีรอพส์หันไปถาม ท่าทางสับสนคิดไม่ตก “ราชครูไบอัสจะหน้าแตกยับไหมขอรับ เพราะตลอดเวลาเขา --”
“มีรอพส์ระวัง!”
เสียงร้องเตือนของเทเลอัสทำให้สองคนดูข้างสนามต้องหันกลับไปมอง ซึ่งเป็นเสี้ยววินาทีเดียวกับที่ร่างของอาเดรียน่าทิ้งโค้งลงจากเบื้องบน แขนข้างขวาเอื้อมจนสุดและกระชากด้ามดาบออกจากตัวฝักที่เกี่ยวอยู่กับเข็มขัดของมีรอพส์ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของถูกซาลาคลอสเหวี่ยงกระชากไปให้พ้นรัศมีการวาดวงดาบที่หมายจะปลิดชีวิตของพวกเขาได้อย่างฉิวเฉียด และก็เป็นเทเลอัสที่เข้ามาขวางไว้ ดาบสองเล่มจึงเข้าปะทะกัน
“ถ้ายังไม่เลิกอาละวาด ข้าจะเอาจริงล่ะนะ”
“หลีกไป!”หญิงสาวกระชากเสียงกลับ
เทเลอัสถอนหายใจ ดูท่าแล้วยังไงก็คงจะพูดกันไม่รู้เรื่อง “ถ้าอย่างนั้น...”เขาเกริ่น ปรายตามองตามเนื้อตัวของหญิงสาวที่เขามั่นใจว่า พรุ่งนี้เช้าคงได้มีรอยฟกซ้ำแทบจะทั่วทั้งตัว “ข้าคงต้องทุบเจ้าแรงๆ สักที”
แต่ฝ่ายชิงรุกลับเป็นอาเดรียน่าที่แทงทะลุแนวป้องกันจนปลายดาบพุ่งตรงอย่างมุ่งร้าย เกือบถึงบริเวณลิ้นปี่ของเทเลอัส หากแต่วินาที่ต่อมาดาบกลับพลาดเป้าหมายอย่างน่าเหลือเชื่อ นั่นเพราะเทเลอัสก้าวถอยหลังหนีได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับตวัดดาบของตนเพื่อเหวี่ยงดาบของหญิงสาวออก แล้วบีบบังคับให้อาเดรียน่าต้องถอยร่นกลายเป็นฝ่ายตั้งรับ เมื่อสบโอกาสจึงเบี่ยงตัวก้าวเท้าไปด้านหลัง ก่อนจะใช้สันฝ่ามือซ้ายฟาดลงไปบนต้นคอของอาเดรียน่าอย่างแรง จนซาลาคลอสและมีรอพส์ถึงกับสะดุ้งตาม
“ตั้งใจจะให้สลบหรือให้คอหักกันแน่”
มีรอพส์ว่า ยกมือขึ้นนวดต้นคออย่างนึกหวาดเสียว แต่แล้วก็ต้องตะลึงตาค้างอีกครั้ง เมื่อร่างของหญิงสาวที่น่าจะสลบไปเพราะถูกฟาดอย่างแรงกลับหันมาโจมตีใส่เทเลอัสได้อีกอย่างน่าอัศจรรย์
เทเลอัสเริ่มลุกไล่อย่างรุนแรงและรวดเร็วกว่าเดิม ไม่นานนักดาบในมือของอาเดรียน่าก็ลอยเคว้งห่างออกไป หญิงสาวพยายามจะสู้ต่อ แต่เทเลอัสไม่ยอมเปิดโอกาสให้ เขาพุ่งเข้าประชิดตัวพร้อมกับมือซ้ายซึ่งยกขึ้นจับไปที่ขมับแล้วผลักอย่างแรง จนร่างบางล้มหงายหลัง
ในช่วงเวลานั้น แสงสีขาวได้สว่างวาบขึ้นบนใบหน้างามอยู่ครู่สั้นๆ เมื่อแสงนั้นหายไป ก็เหลือเพียงแต่ร่างของอาเดรียน่าที่นอนหมดสติอยู่บนพื้น
ภายในบ้านของโอโดวาคาร์ หลายคนกำลังรอฟังข่าวอย่างกระวนกระวาย จนเมื่อเห็นเทเลอัสอุ้มร่างที่สลบไสลของอาเดรียน่ากลับเข้ามา ความตื่นตกใจก็เข้ามาแทนที่ สารพัดคำถามดังสะท้อนไปมาอยู่ในอากาศจนฟังไม่ได้ศัพท์ แต่ถึงจะฟังรู้เรื่องเทเลอัสก็ยังไม่มีอารมณ์จะตอบในตอนนี้
“ในเมื่อยังไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร หมดหน้าที่ของเจ้าแล้ว เดี๋ยวลุงจะให้แพทย์หลวงที่เป็นผู้หญิงจัดการต่อ”
เทเลอัสที่เพิ่งวางร่างของอาเดรียน่าลงบนเตียงในห้องนอนของนาง หันมามองผู้เป็นลุง “ตอนนี้ไม่ใช่หน้าที่ของพวกแพทย์หลวง”
คำพูดนั้นทำเอาบรรดาแพทย์หลวงที่เป็นหญิงสาวสองคนหยุดชะงัก ในขณะที่ดวงตาของโอโดวาคาร์เบิกกว้างจนเกือบถลน “อย่าบอกนะว่าเจ้าจะปลุกนางขึ้นมาสอบปากคำตอนนี้”
“ถ้าได้แบบนั้นก็ดี”
“เทเลอัส!”โอโดวาคาร์ตะโกนลั่นบ้านอย่างเหลือทน แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยต่อก็ถูกหลานชายชิงแทรกตัดบท
“แต่นางไม่มีทางฟื้นขึ้นมาในสองสามชั่วโมงนี้แน่ ที่สำคัญก็คือ ตอนนี้ไม่ใช่หน้าที่ของพวกแพทย์หลวง”
“ใช่สิ! นางได้รับบาดเจ็บกลับมา หนำซ้ำยังสลบไสลไม่ได้สติ”โอโดวาคาร์ยังยืนยันค้านเสียงแข็ง “หากไม่ใช่หน้าที่ของแพทย์หลวงแล้วจะเป็นหน้าที่ของใครกันเล่า”
“หน้าที่ของข้าเอง”เทเลอัสตอบเสียงเย็น ดวงตาเรียบเฉยไร้อารมณ์จนดูน่าขนลุก “ข้ารู้ว่านางเป็นอะไร ควรจะแก้ไขอย่างไร และมีเพียงข้าเท่านั้นที่ทำได้ ในขณะที่แพทย์หลวงทำไม่ได้”เขาเน้นประโยคหลัง จ้องมองโอโดวาคาร์ที่ดูเหมือนจะรับรู้ได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาว แล้วจึงหันไปคุยกับซาลาคลอส “ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า อาจจะหนักไปสักหน่อย แต่ตอนนี้ --”
“ข้ารู้แล้วน่า ทำส่วนของเจ้าไป ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง”ซาลาคลอสที่เข้าใจสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีบอก ก่อนจะเดินออกไปจากห้องในทันที
“ส่วนเจ้า”เทเลอัสหันไปสั่งกับมีรอพส์ต่อทันที “ตราบใดที่ข้ายังไม่ได้ออกไปจากห้องนี้ ห้ามให้ใครเข้ามาเด็ดขาด ต่อให้เป็นองค์กษัตริย์ก็เข้ามาไม่ได้”
มีรอพส์พยักหน้ารับอย่างตื่นๆ และถึงแม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากนัก แต่เมื่อสังเกตจากท่าทีเคร่งเครียดของผู้เป็นหัวหน้า เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าเหตุการณ์ในคืนนี้คงมีเบื้องหลังซับซ้อนมากกว่าที่เห็น และแน่นอนว่าเมื่อถึงพรุ่งนี้เช้า เรื่องนี้คงแพร่กระจายไปทั่วทั้งวังหลวง
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่เจ้ารู้ดีใช่ไหมว่าชีวิตของอาเดรียน่าสำคัญมากขนาดไหน
ก็เพราะรู้ไงข้าถึงได้ยั้งมือ
เทเลอัสได้แต่คิดในใจ ก่อนพยักหน้ารับกับโอโดวาคาร์ที่เดินเข้ามาคุยด้วยใกล้ๆ จนเมื่อสัญญาว่าจะพยายามจนสุดความสามารถเพื่อให้หญิงสาวปลอดภัย บรรดาแพทย์หลวงรวมทั้งมิลันโธก็ยอมอพยพออกไปจากห้องแต่โดยดี เทเลอัสจึงเริ่มต้นหน้าที่ของตน
เขาช้อนร่างบางขึ้นมาแล้วจับพลิกให้นอนคว่ำ สองมือจับที่คอเสื้อแล้วฉีกออกลึกไปจนถึงเอว เผยให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียน ซึ่งบนนั้นมีรายเส้นสีดำเป็นรูปมนุษย์เพศชายวาดอยู่เต็มแผ่นหลัง ดวงตาสีแดงก่ำที่หรี่ปรือนั้นกำลังพยายามกระ
“อย่าหวังว่าข้าจะให้โอกาสเป็นครั้งที่สองกับท่านเลย ราชครูแห่งกอรินธ์”