เมื่อวันที่ 3 กรกฏา 54 ผมออกไปใช้สิทธิ ในการเลือก ผู้แทน ฯ
หนึ่งเสียง ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่ง ทุกคน ในประเทศนี้ มีเสียง เท่ากัน
ในวันนี้ วันเดียว
ผมเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคนี้ สัญญา ว่า จะ นำความยุติธรรม
และความถูกค้อง ที่ถูก วี่งราวไป เมื่อวันที่ 19 กันยา 49 เมื่อมี การเลือกตั้ง
ครั้งใด ผม ก็ใช้ สิทธิ ของผม เลือก พรรคที่ผมชอบ นโยบายเสมอ เช่นพรรคพลังประชาชน
และมาถึงพรรคเพื่อไทย
ในระบอบประชาธิปไตย สมัย ไหม่ ประชาชน อย่างผม จะเลือกพรรค ที่เคยทำ
ตามคำพูดไว้ ทุกประการ ผมเชื่อว่า พรรคที่ผม เลือก จะทำประโยชน์ ให้ พี่น้อง
ประชาชน จริงจังกว่า พรรคอื่น
เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคที่ผมเลือก ได้รับ ชัยชนะ และตั้งแต่บัดนั้น
พรรคเพื่อไทย ก็ทำตามทคำมั้นสัญญา ไว้ หลายอย่าง แม้จะ ได้รับ การขัดขวาง
จาก ฝ่ายค้าน ทุกเรื่อง ผมเฝ้าดู พรรค ที่ผมเลือก ตลอดเวลา เพื่อมิให้ พรรค ออกนอกลู่ นอกทาง
มีอะไร ก็รีบ ทักท้วง ตามประสา คนที่รักกัน
ผมเชื่อแน่ว่า ในระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมือง จะต้องฟังเสียง ประชาชนเสมอ เพราะ
เขามาจา่ก ประชาชน นโยบายทุกอย่าง มาจาก ประชาชน ๆ เสนอความต้องการไป แล้ว
พรรคการเมือง ไปแปร เป็นนโยบายพรรค เสนอต่อประชาชน อีกครั้ง
นั่นหมายถึง ทุกเรื่อง พรรคการเมือง จะตะแคงหูฟัง ประชาชน อยู่ตลอดเวลา ว่า ประชาชน
จะมีความคิดเห็นในเรื่อง ทึ่ พรรคหรือรัฐบาล จะเดินหน้า ทำงาน
นั่น ก็หมายควา่มว่า ประชาชน เป็นใหญ่ ในแผ่นดิน เพราะประชาชน เป็นคนเลือก นักการเมือง
ประชาชน ก็หวังที่ได้ นักการเมืองที่ดี ทำงานตามที่สัญญาไว้ กับประชาชน
ในระบอบประชาธิปไตย จะไม่มีใครใหญ่กว่าประชาชน ไม่ว่ามือที่มองไม่เห็น ผู้มีอำนาจ นอกรัฐธรรมนูญ
พวกเหล่านี้ ต้องเล็กกว่า ประชาชน ผมเลือก พรรคเพื่อไทย รวมทั้งอีก 15 ล้านคน ก็คิดแบบนี้
ผมเลือก พรรคเพื่อไทย เพื่อให้เข้าไป แก้ใขในสี่งที่ผิด ๆ แก้ใข ในสี่งที่ไม่ยุติธรรม แก้ใข ในสี่งที่ประชาชน
ไม่ได้รับความเป็นธรรม แก้ใข ให้เอาคน ที่สั่งฆ่าประชาชน เข้าสู่ ขบวนการยุติธรรม
ไม่ได้ อณุญาติให้ พรรคเพื่อไทย ทำในสี่ง ที่ประชาชนไม่ต้องกา่ร
วันนี้ ผมอยากให้พรรคเพื่อไทย กลับไป ทบทวน ตัวเอง ทั้งพรรค ตั้งแต่ นายกยี่งลักษณ์ ลงไปเลยว่า
พรรคได้ทำอะไร ลงไป อยากให้ พรรค กลับ ไป รื้อฟื้น คำพูดของตนเอง ตอนหาเสียง ว่า พรรคจะทำอย่างไร
ทำตาม ที่ประชาชน ฝากไว้หรือไม่
ผมมอบอำนาจ ให้ ผู้แทนราษฏร์ ไปแล้ว มอบให้ พรรคไปแล้ว และมอบให้ รัฐบาลไปแล้ว แต่มิใช่ว่า จะทำตาม อำเภอใจ
อยากให้พรรคเพื่อไทย กลับ ไป ถามประชาชน ดูว่า เขาพอใจ เสียใจ หรือดีใจ ที่พรรคการเมือง ที่เขามอบอำนาจไปแล้ว
ใช้อำนาจ แบบ ที่ประชาชน ไม่ได้คาดคิด ว่า จะทำตามอำเภอใจ ตามความพอใจของตนเอง โดยนไม้ฟังประชาชน
ประชาธิปไตย แบบที่ผมคิด คือประชาชน ต้องใหญ่ กว่า พรรคการเมือง ใหญ่กว่า สส แม้กระทั่ง นายกรัฐมนตรี
วันนี้ของพรรคเพื่อไทย ทำตา่มแบบที่ผมว่าหรือยัง ก็ฝากเอาไว้ให้ กับ พรรคการเมือง เอาไปคิด เอาไปตรองดู
ว่าวันนี้ ของพรรคเพื่อไทย ท่านยังเห็นประชาชนเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน อีกหรือเปล่า
ถ้ายัง ก็ ปรับปรุงเสีย แต่ ถ้าคิดว่าประชาชน เล็กกว่า พรรคการเมือง แล้ว ประชาชน ก็มีสิทธิ คิดใหม่ พิจารณาใหม่
ใช่หรือเปล่า พรรคเพื่อไทย ประชาชนอย่างผม ให้โอกาศ กับคนที่เคยรักกันเสมอ
พรรคเพื่อไทย
หนึ่งเสียง ตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่ง ทุกคน ในประเทศนี้ มีเสียง เท่ากัน
ในวันนี้ วันเดียว
ผมเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคนี้ สัญญา ว่า จะ นำความยุติธรรม
และความถูกค้อง ที่ถูก วี่งราวไป เมื่อวันที่ 19 กันยา 49 เมื่อมี การเลือกตั้ง
ครั้งใด ผม ก็ใช้ สิทธิ ของผม เลือก พรรคที่ผมชอบ นโยบายเสมอ เช่นพรรคพลังประชาชน
และมาถึงพรรคเพื่อไทย
ในระบอบประชาธิปไตย สมัย ไหม่ ประชาชน อย่างผม จะเลือกพรรค ที่เคยทำ
ตามคำพูดไว้ ทุกประการ ผมเชื่อว่า พรรคที่ผม เลือก จะทำประโยชน์ ให้ พี่น้อง
ประชาชน จริงจังกว่า พรรคอื่น
เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา พรรคที่ผมเลือก ได้รับ ชัยชนะ และตั้งแต่บัดนั้น
พรรคเพื่อไทย ก็ทำตามทคำมั้นสัญญา ไว้ หลายอย่าง แม้จะ ได้รับ การขัดขวาง
จาก ฝ่ายค้าน ทุกเรื่อง ผมเฝ้าดู พรรค ที่ผมเลือก ตลอดเวลา เพื่อมิให้ พรรค ออกนอกลู่ นอกทาง
มีอะไร ก็รีบ ทักท้วง ตามประสา คนที่รักกัน
ผมเชื่อแน่ว่า ในระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมือง จะต้องฟังเสียง ประชาชนเสมอ เพราะ
เขามาจา่ก ประชาชน นโยบายทุกอย่าง มาจาก ประชาชน ๆ เสนอความต้องการไป แล้ว
พรรคการเมือง ไปแปร เป็นนโยบายพรรค เสนอต่อประชาชน อีกครั้ง
นั่นหมายถึง ทุกเรื่อง พรรคการเมือง จะตะแคงหูฟัง ประชาชน อยู่ตลอดเวลา ว่า ประชาชน
จะมีความคิดเห็นในเรื่อง ทึ่ พรรคหรือรัฐบาล จะเดินหน้า ทำงาน
นั่น ก็หมายควา่มว่า ประชาชน เป็นใหญ่ ในแผ่นดิน เพราะประชาชน เป็นคนเลือก นักการเมือง
ประชาชน ก็หวังที่ได้ นักการเมืองที่ดี ทำงานตามที่สัญญาไว้ กับประชาชน
ในระบอบประชาธิปไตย จะไม่มีใครใหญ่กว่าประชาชน ไม่ว่ามือที่มองไม่เห็น ผู้มีอำนาจ นอกรัฐธรรมนูญ
พวกเหล่านี้ ต้องเล็กกว่า ประชาชน ผมเลือก พรรคเพื่อไทย รวมทั้งอีก 15 ล้านคน ก็คิดแบบนี้
ผมเลือก พรรคเพื่อไทย เพื่อให้เข้าไป แก้ใขในสี่งที่ผิด ๆ แก้ใข ในสี่งที่ไม่ยุติธรรม แก้ใข ในสี่งที่ประชาชน
ไม่ได้รับความเป็นธรรม แก้ใข ให้เอาคน ที่สั่งฆ่าประชาชน เข้าสู่ ขบวนการยุติธรรม
ไม่ได้ อณุญาติให้ พรรคเพื่อไทย ทำในสี่ง ที่ประชาชนไม่ต้องกา่ร
วันนี้ ผมอยากให้พรรคเพื่อไทย กลับไป ทบทวน ตัวเอง ทั้งพรรค ตั้งแต่ นายกยี่งลักษณ์ ลงไปเลยว่า
พรรคได้ทำอะไร ลงไป อยากให้ พรรค กลับ ไป รื้อฟื้น คำพูดของตนเอง ตอนหาเสียง ว่า พรรคจะทำอย่างไร
ทำตาม ที่ประชาชน ฝากไว้หรือไม่
ผมมอบอำนาจ ให้ ผู้แทนราษฏร์ ไปแล้ว มอบให้ พรรคไปแล้ว และมอบให้ รัฐบาลไปแล้ว แต่มิใช่ว่า จะทำตาม อำเภอใจ
อยากให้พรรคเพื่อไทย กลับ ไป ถามประชาชน ดูว่า เขาพอใจ เสียใจ หรือดีใจ ที่พรรคการเมือง ที่เขามอบอำนาจไปแล้ว
ใช้อำนาจ แบบ ที่ประชาชน ไม่ได้คาดคิด ว่า จะทำตามอำเภอใจ ตามความพอใจของตนเอง โดยนไม้ฟังประชาชน
ประชาธิปไตย แบบที่ผมคิด คือประชาชน ต้องใหญ่ กว่า พรรคการเมือง ใหญ่กว่า สส แม้กระทั่ง นายกรัฐมนตรี
วันนี้ของพรรคเพื่อไทย ทำตา่มแบบที่ผมว่าหรือยัง ก็ฝากเอาไว้ให้ กับ พรรคการเมือง เอาไปคิด เอาไปตรองดู
ว่าวันนี้ ของพรรคเพื่อไทย ท่านยังเห็นประชาชนเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน อีกหรือเปล่า
ถ้ายัง ก็ ปรับปรุงเสีย แต่ ถ้าคิดว่าประชาชน เล็กกว่า พรรคการเมือง แล้ว ประชาชน ก็มีสิทธิ คิดใหม่ พิจารณาใหม่
ใช่หรือเปล่า พรรคเพื่อไทย ประชาชนอย่างผม ให้โอกาศ กับคนที่เคยรักกันเสมอ