เมื่อวานไปดูต้มยำกุ้ง2ค่ะ
แฟนพาไปดู (ดีที่ไม่ออกค่าตั๋ว)
ไปดูของเครือเมเจอร์ (พี่แกขึ้นค่าตั๋ว 20฿ เครืออื่นราคาปกติ)
ไม่ได้หวังอะไรกะภาคนี้อยู่แล้ว แต่ถูกแฟนลากมาดูด้วย
คือมีพี่ชายทำงาน และเรียนเกี่ยวกับภาพยนตร์
พี่ชายบอกว่า การตัดต่อ และเนื้อเรื่องแย่กว่าเดิมมาก
จา พนม แทบจะไม่ได้แสดงฉากบู๊เอง เหมือนภาคแรก
เพราะ จา พนม จัดอยู่ในนักแสดงชั้นผู้ใหญ่
ทีมงานเลยค่อนข้างไม่อยากจะให้จา พนมมาเสี่ยง ค่อนข้างที่จะใช้ตัวสตั๊น หรือนักแสดงแทนเสียมากกว่า
คือ พอเข้าไปดูแล้ว จะบอกว่า CG ยังกะช่องมากสีเลยค่ะ
ระเบิด ไฟไหม้อะไรพวกนี้ มันเน่าจริงๆ
ทั้งเรื่องก็ตามหาช้าง และก็ต่อสู้กันทั้งเรื่องจนคนดูอย่างดิฉันแทบจะนั่งกระอักเลือดไป ดูไป
โดยรวม มันค่อนข้างแย่อะ ไม่สมกะที่ลงทุน??
แต่มีข้อดีที่เราชื่นชมอยู่ ว่าศิลปะมวย มันค่อนข้างใช้ได้กับทักส่วนในร่างกายตามที่ภาพยนตร์พยายามถ่ายทอดนะคะ
ก็ลองไปดูเอาเองละกัน แต่เราไม่ผิดหวัง เพราะมีแต่คนบอกว่าเนื้อเรื่องเดิมๆ เลยเตรียมใจไว้แล้ว
เอาไป เอามาภาคแรก ไม่มีอะไรจะเสีย จาพนม ทุ่มสุดตัว มันเลยดูดีกว่าภาคนี้ค่ะ
ไม่ผิดหวัง เพราะไม่ได้หวัง กับ "ต้มยำกุ้ง2"
แฟนพาไปดู (ดีที่ไม่ออกค่าตั๋ว)
ไปดูของเครือเมเจอร์ (พี่แกขึ้นค่าตั๋ว 20฿ เครืออื่นราคาปกติ)
ไม่ได้หวังอะไรกะภาคนี้อยู่แล้ว แต่ถูกแฟนลากมาดูด้วย
คือมีพี่ชายทำงาน และเรียนเกี่ยวกับภาพยนตร์
พี่ชายบอกว่า การตัดต่อ และเนื้อเรื่องแย่กว่าเดิมมาก
จา พนม แทบจะไม่ได้แสดงฉากบู๊เอง เหมือนภาคแรก
เพราะ จา พนม จัดอยู่ในนักแสดงชั้นผู้ใหญ่
ทีมงานเลยค่อนข้างไม่อยากจะให้จา พนมมาเสี่ยง ค่อนข้างที่จะใช้ตัวสตั๊น หรือนักแสดงแทนเสียมากกว่า
คือ พอเข้าไปดูแล้ว จะบอกว่า CG ยังกะช่องมากสีเลยค่ะ
ระเบิด ไฟไหม้อะไรพวกนี้ มันเน่าจริงๆ
ทั้งเรื่องก็ตามหาช้าง และก็ต่อสู้กันทั้งเรื่องจนคนดูอย่างดิฉันแทบจะนั่งกระอักเลือดไป ดูไป
โดยรวม มันค่อนข้างแย่อะ ไม่สมกะที่ลงทุน??
แต่มีข้อดีที่เราชื่นชมอยู่ ว่าศิลปะมวย มันค่อนข้างใช้ได้กับทักส่วนในร่างกายตามที่ภาพยนตร์พยายามถ่ายทอดนะคะ
ก็ลองไปดูเอาเองละกัน แต่เราไม่ผิดหวัง เพราะมีแต่คนบอกว่าเนื้อเรื่องเดิมๆ เลยเตรียมใจไว้แล้ว
เอาไป เอามาภาคแรก ไม่มีอะไรจะเสีย จาพนม ทุ่มสุดตัว มันเลยดูดีกว่าภาคนี้ค่ะ