Aloha Sunday ... อาทิตย์หรรษา สวัสดีชาวก้นครัวทุกท่านคะ
ติ๊กตอก ติ๊กตอก ดูเวลาแล้วยังไม่เกินเวลาห้าโมงเย็น ยังถือว่าอยู่ในช่วงไฮที
ช่วงบ่ายบางท่านก็จัดหนักแบบรับประทานข้าว เรียกว่ากินกันแบบเป็นเรื่องเป็นราว
ส่วนเรากับวันหยุดอยู่บ้าน ขอแบบสุนทรีจิบชา-กาแฟใต้ต้นมะเฟืองทุกเช้าและบ่าย
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า บ่งบ๊งเคยทำเค้กกล้วยน้ำว้าและลงกระทู้ที่ห้องก้นครัวไปแล้ว
จากนั้นมีเพื่อนสมาชิกได้นำสูตรไปลองทำทานแล้วเกิดติดใจ มีทั้งทำมาส่งการบ้าน
มีทั้งหลังไมค์แจ้งให้ทราบว่าพอทำแจกจ่ายให้ผู้คนได้ชิมกันก็มีการทำขาย ทำแจก
บางท่านแจ้งว่ากลายเป็นเค้กประจำบ้านและเป็นขนมใส่บาตรในวันพระไปแล้วคะ
เมื่อวานบ่งบ๊งได้สูตรเค้กกล้วยหอมมาอีกสูตร ได้มาแล้วก็ต้องรีบลองของ
พอดีมีกล้วยน้ำว้าแบบสุกงอมสองหวี สุกขนาดนี้คงจะไม่มีคนเหลียวแล คงต้องทิ้ง
จะทิ้งก็แอบเสียดาย ยามข้าวของแพงเยี่ยงนี้เอามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์น่าจะดีกว่า
กับวันอยู่บ้านสบาย ๆ ไม่มีภารกิจใด ๆ เปิดเครื่องทำขนมให้ตัวเองกินช่างเป็นสุขล้ำ
จัดไป
"เค้กกล้วยน้ำว้า" ในแบบของบ่งบ๊ง ลองไปทำกินเถอะแล้วคุณจะติดใจ
แอบดูเนื้อน้อง นวลใย
เค้กกล้วยหอม สูตรอาจารย์ไพเราะ
โดย คุณต้อ-สินาภรณ์ [ล๊อกอินแม่สามข้าว]
กล้วยหอมสุกงอม 350 กรัม [เปลี่ยนเป็นกล้วยน้ำว้า]
น้ำตาลทราย 250 กรัม [ลดน้ำตาลเหลือ 150 กรัม]
ไข่ไก่ เบอร์ 0 - 3 ฟอง [ใช้แต่ไข่แดง]
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
* นำส่วนผสมทั้งสี่ข้างต้นใส่ในโถผสม
ใช้หัวตีหัวตะกร้อตีด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 5 นาที
* รินนมจืด 100 กรัม ใส่ลงไปในไข่แดง
ใส่น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
ตีผสมให้เข้ากัน
แป้งเค้ก 270 กรัม
ผงฟู 1 ชช.
ผงโซดา 1 ชช.
* ร่อนส่วนผสมทั้งหมดรวมกัน
รินน้ำมันพืชใส่ไป 100 กรัม ตีด้วยความเร็วต่ำให้พอเข้ากัน
*********************************
หมายเหตุ - น้องต้อเธอให้ส่วนผสมและวิธีทำมาในแบบคร่าว ๆ
บ่งบ๊งนำมาปรับวิธีการทำในแบบของตัวเอง แต่ยังคงขั้นตอนการทำ
ตามแบบฉบับของต้นตำรับเพราะอยากให้ออกมาอร่อยแบบเป๊ะ ๆ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส [เปิดไฟบน-ล่าง]
2. เตรียมพิมพ์ทาเนย โรยแป้ง หรือเตรียมพิมพ์กระดาษ
3. ร่อนแป้ง + ผงฟู + ผงโซดาฯ รวมกัน
ขั้นตอนที่ 1
นำไข่แดงทั้งสามฟองใส่ในโถผสม ตีให้ไข่แดงให้กระจายตัว
ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป [บ่งบ๊งใช้น้ำตาลทรายแดง]
ในส่วนไข่แดงและน้ำตาล ใช้เวลาในการตีประมาณ 5 นาที
ใส่เกลือป่น, ใส่กล้วยน้ำว้าบดละเอียด [บ่งบ๊งใส่กลิ่นวานิลา-บัตเตอร์ไปในกล้วยด้วย]
ใส่นมสดที่ผสมน้ำส้มสายชูลงไป [บ่งบ๊งใช้น้ำส้มแอปเปิ้งไซเดอร์]
ค่อย ๆ รินน้ำมันพืชใส่ไป
ด้วยความเร็วต่ำ ทยอยใส่แป้งเค้กลงไป
คนผสมให้เข้ากันดี ปาดก้นโถขึ้นมาด้วย
บ่งบ๊งอยากให้เค้กกล้วยน้ำว้าบ้าน ๆ มีความพิเศษขึ้นด้วยการเพิ่มลูกเกดดำเข้าไป
แอบคิดถึงเค้กกล้วยหอมครัมเบิ้ลของน้องทนายอ้วน [ทนายบอล]
สูตรใส่ถั่วลิสงคั่วบดเข้าไปด้วย เป็นการเพิ่มอรรถรสเค้กบ้าน ๆ ให้เลอเลิศ
ตักแบทเธอร์ใส่ในพิมพ์กระดาษ ต้นฉบับทำใส่ในพิมพ์โลฟขนมปัง
ถ้าอยากให้เค้กรูปทรงสูง ๆ แบบโหนกนูน ใส่ประมาณ 3/4 ของถ้วย
แต่ถ้าท่านชอบเค้กรูปทรงแบบไม่สูง ก็ให้ใส่ไปประมาณครึ่งถ้วย
นำเข้าอบด้วยไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 180 C
บ่งบ๊งอบด้วยไฟล่างก่อนที่ 200 C นานประมาณ 15 นาที
จากนั้นปรับเป็นไฟบน-ล่างที่ 180 C ประมาณ 5 นาที
และปรับเป็นไฟบนอย่างเดียวตอนสุดท้ายประมาณ 5 นาที
อบออกมาเนื้อเค้กกำลังพอดี [ขึ้นอยุ่กับพิมพ์ที่ใช้อบด้วย]
เราไม่อยากจะเชื่อ ปกติคุณพี่สาวบ่งบ๊งเธอไม่เคยสนใจกับการทำขนมของเรา
แต่วันนี้พอเราอบเค้กเสร็จ นางเดินเข้ามาในครัวพอดี นางเอ่ยปากขอชิมหน่อย
เราบอกไปว่าเพิ่งออกจากเตา รสชาติยังไม่เข้าที่ นางบอกไม่เป็นไร ฉันอยากชิม
เรารีบจัดไปให้ในทันที เพราะไม่เคยได้ยินนางเอ่ยปากว่าอยากจะลองชิมเลย อิอิ
นางปลื้มเค้กชนิดเดียวคือ "ชีสเค้ก" แล้วต้องเป็นชีสเค้กแบบไม่มีท๊อปปิ้งด้วย
เราทำใส่พิมพ์มัฟฟินรูปทรงแบบนี้ ใช้เวลาอบ 25 นาที
คุณพี่ชิมไปแล้ว ได้เวลาที่คุณน้องจะได้ชิมสีมือตัวเอง
บ่ายสี่โมงไปจัดการชงชา วันนี้นึกอยากจิบชาดำลิปตั้น
ใส่ลูกเกดดำเข้าไป ให้กลิ่นหอมที่กินแล้วฟินสุด ๆ
ครั้งหน้าบ่งบ๊งจะเพิ่มกล้วยตากใส่เข้าไปด้วย
คงจะได้กลิ่นหอมของทั้งกล้วยตากและลูกเกด
ใครที่ชอบทานกล้วยน้ำว้าแล้วหลงลืมกิน หรือทิ้งไว้จนเปลือกดำ
ไม่ต้องเก็บทิ้งแล้วนะคะ เปลือกยิ่งดำ ดำมาก ๆ เนื้อกล้วยยิ่งหวาน
เอามาทำเค้กกล้วยน้ำว้าแบบนี้คุณก็จะได้ขนมกล้วยที่ทำง่ายมาก ๆ
มีขนมประจำบ้านไว้รับประทาน ทำไว้รับรองแขกผู้มาเยี่ยมเยือน
หรือทำไปฝากผู้คนที่คุณนึกถึง เค้กแบบโฮมเมดที่ดูดีและอร่อยเชียว
เค้กสีมือตัวเอง กับชาร้อน ๆ ... โอ้วว สุขเช่นนี้อยากนักจะลืม
เรื่องราวขนมอบแบบบ้าน ๆ เค้กกล้วยน้ำว้าจบแล้วนะคะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ แวะมาให้กำลังใจบ่งบ๊ง
ขอให้มีความสุขกับการเข้าครัว มีความสุขกับการทำอาหารและทำขนม
กินอิ่ม นอนหลับ อิ่มอร่อยกับมื้อเย็นในวันหยุดทุกท่านนะคะ .....
[CR] +*""*+ ลั้ลลาวันหยุด บ่งบ๊งชวนจิบชา-กาแฟพร้อม "เค้กกล้วยน้ำว้า" +*""*+
ติ๊กตอก ติ๊กตอก ดูเวลาแล้วยังไม่เกินเวลาห้าโมงเย็น ยังถือว่าอยู่ในช่วงไฮที
ช่วงบ่ายบางท่านก็จัดหนักแบบรับประทานข้าว เรียกว่ากินกันแบบเป็นเรื่องเป็นราว
ส่วนเรากับวันหยุดอยู่บ้าน ขอแบบสุนทรีจิบชา-กาแฟใต้ต้นมะเฟืองทุกเช้าและบ่าย
มาเข้าเรื่องกันดีกว่า บ่งบ๊งเคยทำเค้กกล้วยน้ำว้าและลงกระทู้ที่ห้องก้นครัวไปแล้ว
จากนั้นมีเพื่อนสมาชิกได้นำสูตรไปลองทำทานแล้วเกิดติดใจ มีทั้งทำมาส่งการบ้าน
มีทั้งหลังไมค์แจ้งให้ทราบว่าพอทำแจกจ่ายให้ผู้คนได้ชิมกันก็มีการทำขาย ทำแจก
บางท่านแจ้งว่ากลายเป็นเค้กประจำบ้านและเป็นขนมใส่บาตรในวันพระไปแล้วคะ
พอดีมีกล้วยน้ำว้าแบบสุกงอมสองหวี สุกขนาดนี้คงจะไม่มีคนเหลียวแล คงต้องทิ้ง
จะทิ้งก็แอบเสียดาย ยามข้าวของแพงเยี่ยงนี้เอามาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์น่าจะดีกว่า
กับวันอยู่บ้านสบาย ๆ ไม่มีภารกิจใด ๆ เปิดเครื่องทำขนมให้ตัวเองกินช่างเป็นสุขล้ำ
จัดไป "เค้กกล้วยน้ำว้า" ในแบบของบ่งบ๊ง ลองไปทำกินเถอะแล้วคุณจะติดใจ
แอบดูเนื้อน้อง นวลใย
เค้กกล้วยหอม สูตรอาจารย์ไพเราะ
โดย คุณต้อ-สินาภรณ์ [ล๊อกอินแม่สามข้าว]
กล้วยหอมสุกงอม 350 กรัม [เปลี่ยนเป็นกล้วยน้ำว้า]
น้ำตาลทราย 250 กรัม [ลดน้ำตาลเหลือ 150 กรัม]
ไข่ไก่ เบอร์ 0 - 3 ฟอง [ใช้แต่ไข่แดง]
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
* นำส่วนผสมทั้งสี่ข้างต้นใส่ในโถผสม
ใช้หัวตีหัวตะกร้อตีด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 5 นาที
* รินนมจืด 100 กรัม ใส่ลงไปในไข่แดง
ใส่น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
ตีผสมให้เข้ากัน
แป้งเค้ก 270 กรัม
ผงฟู 1 ชช.
ผงโซดา 1 ชช.
* ร่อนส่วนผสมทั้งหมดรวมกัน
รินน้ำมันพืชใส่ไป 100 กรัม ตีด้วยความเร็วต่ำให้พอเข้ากัน
*********************************
หมายเหตุ - น้องต้อเธอให้ส่วนผสมและวิธีทำมาในแบบคร่าว ๆ
บ่งบ๊งนำมาปรับวิธีการทำในแบบของตัวเอง แต่ยังคงขั้นตอนการทำ
ตามแบบฉบับของต้นตำรับเพราะอยากให้ออกมาอร่อยแบบเป๊ะ ๆ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส [เปิดไฟบน-ล่าง]
2. เตรียมพิมพ์ทาเนย โรยแป้ง หรือเตรียมพิมพ์กระดาษ
3. ร่อนแป้ง + ผงฟู + ผงโซดาฯ รวมกัน
ขั้นตอนที่ 1
นำไข่แดงทั้งสามฟองใส่ในโถผสม ตีให้ไข่แดงให้กระจายตัว
ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป [บ่งบ๊งใช้น้ำตาลทรายแดง]
ในส่วนไข่แดงและน้ำตาล ใช้เวลาในการตีประมาณ 5 นาที
ใส่เกลือป่น, ใส่กล้วยน้ำว้าบดละเอียด [บ่งบ๊งใส่กลิ่นวานิลา-บัตเตอร์ไปในกล้วยด้วย]
ใส่นมสดที่ผสมน้ำส้มสายชูลงไป [บ่งบ๊งใช้น้ำส้มแอปเปิ้งไซเดอร์]
ค่อย ๆ รินน้ำมันพืชใส่ไป
ด้วยความเร็วต่ำ ทยอยใส่แป้งเค้กลงไป
คนผสมให้เข้ากันดี ปาดก้นโถขึ้นมาด้วย
บ่งบ๊งอยากให้เค้กกล้วยน้ำว้าบ้าน ๆ มีความพิเศษขึ้นด้วยการเพิ่มลูกเกดดำเข้าไป
แอบคิดถึงเค้กกล้วยหอมครัมเบิ้ลของน้องทนายอ้วน [ทนายบอล]
สูตรใส่ถั่วลิสงคั่วบดเข้าไปด้วย เป็นการเพิ่มอรรถรสเค้กบ้าน ๆ ให้เลอเลิศ
ตักแบทเธอร์ใส่ในพิมพ์กระดาษ ต้นฉบับทำใส่ในพิมพ์โลฟขนมปัง
ถ้าอยากให้เค้กรูปทรงสูง ๆ แบบโหนกนูน ใส่ประมาณ 3/4 ของถ้วย
แต่ถ้าท่านชอบเค้กรูปทรงแบบไม่สูง ก็ให้ใส่ไปประมาณครึ่งถ้วย
นำเข้าอบด้วยไฟบน-ล่างที่อุณหภูมิ 180 C
บ่งบ๊งอบด้วยไฟล่างก่อนที่ 200 C นานประมาณ 15 นาที
จากนั้นปรับเป็นไฟบน-ล่างที่ 180 C ประมาณ 5 นาที
และปรับเป็นไฟบนอย่างเดียวตอนสุดท้ายประมาณ 5 นาที
อบออกมาเนื้อเค้กกำลังพอดี [ขึ้นอยุ่กับพิมพ์ที่ใช้อบด้วย]
เราไม่อยากจะเชื่อ ปกติคุณพี่สาวบ่งบ๊งเธอไม่เคยสนใจกับการทำขนมของเรา
แต่วันนี้พอเราอบเค้กเสร็จ นางเดินเข้ามาในครัวพอดี นางเอ่ยปากขอชิมหน่อย
เราบอกไปว่าเพิ่งออกจากเตา รสชาติยังไม่เข้าที่ นางบอกไม่เป็นไร ฉันอยากชิม
เรารีบจัดไปให้ในทันที เพราะไม่เคยได้ยินนางเอ่ยปากว่าอยากจะลองชิมเลย อิอิ
นางปลื้มเค้กชนิดเดียวคือ "ชีสเค้ก" แล้วต้องเป็นชีสเค้กแบบไม่มีท๊อปปิ้งด้วย
เราทำใส่พิมพ์มัฟฟินรูปทรงแบบนี้ ใช้เวลาอบ 25 นาที
คุณพี่ชิมไปแล้ว ได้เวลาที่คุณน้องจะได้ชิมสีมือตัวเอง
บ่ายสี่โมงไปจัดการชงชา วันนี้นึกอยากจิบชาดำลิปตั้น
ใส่ลูกเกดดำเข้าไป ให้กลิ่นหอมที่กินแล้วฟินสุด ๆ
ครั้งหน้าบ่งบ๊งจะเพิ่มกล้วยตากใส่เข้าไปด้วย
คงจะได้กลิ่นหอมของทั้งกล้วยตากและลูกเกด
ใครที่ชอบทานกล้วยน้ำว้าแล้วหลงลืมกิน หรือทิ้งไว้จนเปลือกดำ
ไม่ต้องเก็บทิ้งแล้วนะคะ เปลือกยิ่งดำ ดำมาก ๆ เนื้อกล้วยยิ่งหวาน
เอามาทำเค้กกล้วยน้ำว้าแบบนี้คุณก็จะได้ขนมกล้วยที่ทำง่ายมาก ๆ
มีขนมประจำบ้านไว้รับประทาน ทำไว้รับรองแขกผู้มาเยี่ยมเยือน
หรือทำไปฝากผู้คนที่คุณนึกถึง เค้กแบบโฮมเมดที่ดูดีและอร่อยเชียว
เค้กสีมือตัวเอง กับชาร้อน ๆ ... โอ้วว สุขเช่นนี้อยากนักจะลืม
เรื่องราวขนมอบแบบบ้าน ๆ เค้กกล้วยน้ำว้าจบแล้วนะคะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ แวะมาให้กำลังใจบ่งบ๊ง
ขอให้มีความสุขกับการเข้าครัว มีความสุขกับการทำอาหารและทำขนม
กินอิ่ม นอนหลับ อิ่มอร่อยกับมื้อเย็นในวันหยุดทุกท่านนะคะ .....