ผมแค่อยากรีวิวเฉยๆ เผื่อคนที่กำลังตัดสินใจ ผิดพลาดขออภัย ผมมือใหม่
__________________
เมื่อคืนวันศุกร์จัดหนักไป 2 เรื่องที่พารากอนดัวยความอยากดูจัด
เรื่องแรก Gravity มฤตยูแรงโน้มถ่วง
ในระบบ IMAX DIGITAL 3D รอบ 21.40 ที่ IMAX สาขาพารากอน
ทะลุจอเต็มตาอีกแล้วด้วยระบบสามมิติ ลิขสิทธิ์การแปลงเฉพาะระบบ IMAX พร้อมระบบเสียงเลเซอร์ดิจิตอล 12,000 วัตต์ สะเทือนทุกการสั่น
แต่เรื่องนี้เสียงไม่ได้กระหึ่มตลอดเวลานะ ขอบอก เพราะอยู่ในอวกาศ และอวกาศไม่มีสื่อนำเสียง ดังนั้น หนังจะค่อนข้างเงียบเป็นส่วนใหญ่ แต่เสียงดนตรีประกอบทำให้ลุ้นระทึกและรู้สึกกดดันจนแทบลืมหายใจทุกวินาทีของหนังได้เลยทีเดียว
เนื้อเรื่องทำออกมาได้กดดันดีมาก คือแบบสมมติถ้าเราได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับไรอัน(นางเอก)ก็คงจะเครียดจนทำอะไรแทบไม่ถูก เพราะในอวกาศจะขอความช่วยเหลือจากใครได้ อากาศก็ไม่มีจะใช้หายใจ ไหนจะอุณหภูมิ ฯลฯ
ภาพสามมิติบนจอ IMAX ช่วยให้กลืนไปอยู่ในหนังได้มาก รู้สึกเหมือนลอยกลางอวกาศอันเวิ้งว้าง, โดดเดี่ยวและกดดันมากๆๆ ยอมรับว่าลืมหายใจไปหลายช็อตอยู่เหมือนกัน
แซนดร้า บุลล็อค แสดงได้ดีทีเดียวกับบทที่ต้องพูดคนเดียวอยู่ตลอดเรื่อง มีคนบอกมาว่าอาจจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ก็เป็นได้
เรื่อง Gravity มฤตยูแรงโน้มถ่วง ส่วนตัวผมให้ 8.5/10 ครับ
______________________________________
เรื่องที่สอง ม.6/5 ปากหมาท้าผี
ในระบบ RealD 3D โรงที่ 14 รอบ 23.00 พารากอนซินีเพล็กซ์
เข้าโรงเลทมากๆ เพราะ Gravity จบช้ากว่าที่ประมาณการณ์เอาไว้หลายนาทีพอสมควร
หนังผีเรื่องแรกที่ผมได้ดูในระบบสามมิติ ผีทะลุจอเต็มตาเหมือนกัน (เพราะนั่งหน้าๆเพื่อซึมซับภาพสามมิติ)
เรื่องนี้พูดได้ว่าการทำภาพสามมิตินั้นทำได้ทั้งดี และไม่ดี
ดีตรงที่ว่าบางฉากมีการแบ่ง Layer ออกเป็นชั้นๆได้ดี มีใกล้มีไกลชัดเจนมาก แต่ที่ไม่ดีคือบางฉากยังใช้ลูกเล่นเก่าๆ คือให้นักแสดงเอาวัตถุมาใกล้ๆกล้องหรือ การแพนกล้องผ่านวัตถุกีดขวางต่างๆ เช่น ต้นไม้ โต๊ะ หรือนักแสดงอีกคน เป็นต้น โดยคหสต.ผมว่าการแพนกล้องผ่านนู่นนั่นนี่เป็นมุขเก่ามากๆ เพราะสามมิติสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องเล่นแง่ความเป็นสามมิติแบบนั้นแล้ว ควรจะเล่นกับการแยกวัตถุใกล้-ไกลมากกว่า
เรื่องเสียง ไม่ขอออกความเห็นมาก เพราะโฟกัสไปที่เนื้อเรื่องกับภาพสามมิติของหนังไทยมากกว่า แต่ผมว่าก็ไม่ได้มิกซ์ซาวด์น่าเกลียดอะไร แต่ก็ยังใช้มุขซาวด์ตุ้งแช่เหมือนๆที่เคยทำกันมาเช่นเคย
ส่วนของเนื้อเรื่อง ผมว่าโอเค ทั้งเอาเรื่องของความเชื่อของคนโบราณมาผสมความเกรียนของเด็กวัยรุ่นได้อย่างลงตัวดี (ผมซื้อตั๋วเพื่อจะดูความเกรียนกับผีที่ไม่มีจริงนี่แหละ555+) อีกทั้งยังสอนใจเด็กวัยรุ่นเกี่ยวกับโรงเรียนและครูบาอาจารย์ได้เป็นอย่างดี ผมคิดเล่นๆ ถ้าโรงเรียนเหมารอบเพื่อให้เด็กนักเรียนดูหนังเรื่องนี้ ผมว่าจรรโลงใจกว่าก้านกล้วยเยอะ
แต่ในขณะเดียวกันก็ยังพอจะเดาเนื้อเรื่องได้ และบางอย่างก็ไม่ค่อย make sense (ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าที่ควร)
ส่วนตัวผมให้ ม.6/5 ปากหมาท้าผี ด้วยคะแนน 6.5/10 ครับ
[CR] [รีวิวแบบมือใหม่] รีวิว Gravity และ ม.6/5 ปากหมาท้าผี @พารากอนซินีเพล็กซ์
ผมแค่อยากรีวิวเฉยๆ เผื่อคนที่กำลังตัดสินใจ ผิดพลาดขออภัย ผมมือใหม่
__________________
เมื่อคืนวันศุกร์จัดหนักไป 2 เรื่องที่พารากอนดัวยความอยากดูจัด
เรื่องแรก Gravity มฤตยูแรงโน้มถ่วง
ในระบบ IMAX DIGITAL 3D รอบ 21.40 ที่ IMAX สาขาพารากอน
ทะลุจอเต็มตาอีกแล้วด้วยระบบสามมิติ ลิขสิทธิ์การแปลงเฉพาะระบบ IMAX พร้อมระบบเสียงเลเซอร์ดิจิตอล 12,000 วัตต์ สะเทือนทุกการสั่น
แต่เรื่องนี้เสียงไม่ได้กระหึ่มตลอดเวลานะ ขอบอก เพราะอยู่ในอวกาศ และอวกาศไม่มีสื่อนำเสียง ดังนั้น หนังจะค่อนข้างเงียบเป็นส่วนใหญ่ แต่เสียงดนตรีประกอบทำให้ลุ้นระทึกและรู้สึกกดดันจนแทบลืมหายใจทุกวินาทีของหนังได้เลยทีเดียว
เนื้อเรื่องทำออกมาได้กดดันดีมาก คือแบบสมมติถ้าเราได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับไรอัน(นางเอก)ก็คงจะเครียดจนทำอะไรแทบไม่ถูก เพราะในอวกาศจะขอความช่วยเหลือจากใครได้ อากาศก็ไม่มีจะใช้หายใจ ไหนจะอุณหภูมิ ฯลฯ
ภาพสามมิติบนจอ IMAX ช่วยให้กลืนไปอยู่ในหนังได้มาก รู้สึกเหมือนลอยกลางอวกาศอันเวิ้งว้าง, โดดเดี่ยวและกดดันมากๆๆ ยอมรับว่าลืมหายใจไปหลายช็อตอยู่เหมือนกัน
แซนดร้า บุลล็อค แสดงได้ดีทีเดียวกับบทที่ต้องพูดคนเดียวอยู่ตลอดเรื่อง มีคนบอกมาว่าอาจจะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ก็เป็นได้
เรื่อง Gravity มฤตยูแรงโน้มถ่วง ส่วนตัวผมให้ 8.5/10 ครับ
______________________________________
เรื่องที่สอง ม.6/5 ปากหมาท้าผี
ในระบบ RealD 3D โรงที่ 14 รอบ 23.00 พารากอนซินีเพล็กซ์
เข้าโรงเลทมากๆ เพราะ Gravity จบช้ากว่าที่ประมาณการณ์เอาไว้หลายนาทีพอสมควร
หนังผีเรื่องแรกที่ผมได้ดูในระบบสามมิติ ผีทะลุจอเต็มตาเหมือนกัน (เพราะนั่งหน้าๆเพื่อซึมซับภาพสามมิติ)
เรื่องนี้พูดได้ว่าการทำภาพสามมิตินั้นทำได้ทั้งดี และไม่ดี
ดีตรงที่ว่าบางฉากมีการแบ่ง Layer ออกเป็นชั้นๆได้ดี มีใกล้มีไกลชัดเจนมาก แต่ที่ไม่ดีคือบางฉากยังใช้ลูกเล่นเก่าๆ คือให้นักแสดงเอาวัตถุมาใกล้ๆกล้องหรือ การแพนกล้องผ่านวัตถุกีดขวางต่างๆ เช่น ต้นไม้ โต๊ะ หรือนักแสดงอีกคน เป็นต้น โดยคหสต.ผมว่าการแพนกล้องผ่านนู่นนั่นนี่เป็นมุขเก่ามากๆ เพราะสามมิติสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องเล่นแง่ความเป็นสามมิติแบบนั้นแล้ว ควรจะเล่นกับการแยกวัตถุใกล้-ไกลมากกว่า
เรื่องเสียง ไม่ขอออกความเห็นมาก เพราะโฟกัสไปที่เนื้อเรื่องกับภาพสามมิติของหนังไทยมากกว่า แต่ผมว่าก็ไม่ได้มิกซ์ซาวด์น่าเกลียดอะไร แต่ก็ยังใช้มุขซาวด์ตุ้งแช่เหมือนๆที่เคยทำกันมาเช่นเคย
ส่วนของเนื้อเรื่อง ผมว่าโอเค ทั้งเอาเรื่องของความเชื่อของคนโบราณมาผสมความเกรียนของเด็กวัยรุ่นได้อย่างลงตัวดี (ผมซื้อตั๋วเพื่อจะดูความเกรียนกับผีที่ไม่มีจริงนี่แหละ555+) อีกทั้งยังสอนใจเด็กวัยรุ่นเกี่ยวกับโรงเรียนและครูบาอาจารย์ได้เป็นอย่างดี ผมคิดเล่นๆ ถ้าโรงเรียนเหมารอบเพื่อให้เด็กนักเรียนดูหนังเรื่องนี้ ผมว่าจรรโลงใจกว่าก้านกล้วยเยอะ
แต่ในขณะเดียวกันก็ยังพอจะเดาเนื้อเรื่องได้ และบางอย่างก็ไม่ค่อย make sense (ไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าที่ควร)
ส่วนตัวผมให้ ม.6/5 ปากหมาท้าผี ด้วยคะแนน 6.5/10 ครับ