ผมไม่เคยสนับสนุนการลาออกจากการเป็น ส.ส.ของคุณเกษม คงมีความเห็นเช่นเดียวกับหลายฝ่าย ที่ทำให้เสียงบประมาณเปล่าๆปี้ๆเป็นเงินร่วมสิบล้านบาท ทั้งยังเสียเวลาที่ประชาชนต้องไปใช้สิทธิอีกครั้งหนึ่ง เพียงแต่เมื่อการลาออกนั้น มันไม่ได้ผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงเป็นสิทธิที่เขาจะลาออก ก็คงเช่นเดียวกับการลาออกของ ส.ส.ท่านอื่นๆที่เคยลาออกมาก่อนหน้านั้น
แต่ถามว่าเป็นการปูทางให้กับคุณเยาวภาเข้าสภา เพื่อเป็นนายกฯสำรองนั้นสมควรหรือไม่ เรื่องนายกฯสำรองนั้น ก็เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น จะถูกหรือไม่ก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้นครับ เพียงแต่การสมัครเป็น ส.ส.ของคุณเยาวภา หรือการลาออกของคุณเกษม ก็เป็นไปตามกฎหมาย เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ นั่นคือการเข้าตามตรอกออกตามประตู ดังนั้นการจะได้เป็นนายกฯสำรองหรือไม่ ขั้นแรกต้องเป็น ส.ส.ก่อน นั่นหมายถึงประชาชนต้องยินดีให้เป็นตัวแทนของพวกเขาก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องนายกฯสำรองกัน จริงไหมครับ
ถ้าถามผมว่า แล้วการเป็นนายกฯสำรองนั้นสมควรหรือไม่ ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า สมควรอย่างยิ่งครับ เพราะจากรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ เราก็เห็นแล้วหลายต่อหลายครั้ง นายกฯไทยไม่ใช่อาศัยแค่อำนาจจากประชาชนเท่านั้น แต่ยังมีอำนาจอื่นอีกมากมาย ที่จะคอยขัดขวางอำนาจของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากปฏิเสธได้ ต่อให้จะทำเป็นตาบอดแค่ไหนก็ตาม แต่อย่างน้อยคงได้ยินกันเต็มสองหูแล้วว่า
การถอดถอนนายกฯสมัครด้วยพจนานุกรมนั้น เป็นการสุกเอาเผากิน
การยุบพรรคถึง 3 พรรค ที่อาจไม่ผิด แต่เป็นเพราะสถานการณ์บ้านเมืองกำลังวิกฤติ ว่าไปโน่น
แต่พออีกพรรค กลับมีคลิปแสดงถึงความพยายามที่จะช่วยไม่ให้ถูกยุบกันอย่างขะมักเขม้น
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พอมีข่าวเรื่องการปล่อยเงินกู้ของคุณยิ่งลักษณ์ที่ให้กับสามีนั้น อยู่ในมือของ ปปช.เท่านั้น ฝ่ายที่ต่อต้าน ก็ตีปีกกันอย่างเริงร่า ตีอกชกหัวด้วยความดีใจ ส่วนฝ่ายสนับสนุนก็พากันทุกข์ร้อนเป็นกังวล เป็นห่วงนายกฯยิ่งลักษณ์จะตกเก้าอี้ตามไปอีกคน
อะไรทำให้ประชาชนมั่นใจ ทั้งๆที่ยังไม่มีการชี้มูลความผิด ถ้าไม่ใช่เพราะประชาชนส่วนใหญ่รู้ถึงมาตรฐานขององค์กรอิสระเหล่านี้ได้ดี แล้วจะเป็นอื่นได้อย่างไร
ก็ดูจากความแตกต่างระหว่างสลายการชุมนุมกับการสลายด้วยอาวุธสงคราม
ก็ดูจากความแตกต่างระหว่างประกันข้าวกับจำนำข้าว
และที่สำคัญ คดีใหญ่อย่าง ปรส.ที่กำลังจะหมดอายุความในไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสุดท้ายคงออกไม่ยกฟ้องก็หมดอายุความตามถนัด
สิ่งเหล่านี้มันกลายเป็นมาตรฐานไปเสียแล้ว ดังนั้นหลายต่อหลายคดี ประชาชนแทบจะรู้ผลคำตัดสินล่วงหน้าเสมอ จะไม่รู้ก็แต่คำวินิจฉัยจะออกมาแนวไหนเท่านั้นเอง
ดังนั้นผมจึงไม่คัดค้าน ที่พรรคของประชาชนส่วนใหญ่จะเตรียมตั้งนายกฯสำรองเอาไว้ และอาจต้องตั้งเผื่อไว้หลายๆคนหน่อย เพราะตราบใดที่รัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับการแก้ไข ตราบนั้นพรรคที่คนส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นรัฐบาล ก็มีโอกาสที่จะตกเก้าอี้ได้ทุกเมื่อ
ส่วนนายกฯสำรองจะเป็นคุณเยาวภาหรือไม่ เมื่อนายกฯยิ่งลักษณ์ต้องกระเด็นไป จะเป็นเพราะสุกเอาเผากินหรือเพื่อสถานการณ์ของบ้านเมืองก็แล้วแต่ ผมก็ไม่ต่อต้านอีกเช่นกัน ตราบที่เป็นการกระทำภายใต้รัฐธรรมนูญ ภายใต้กติกา อย่างน้อยก็สง่างามกว่าการฟอร์มรัฐบาลอย่างแน่นอน
และถ้าการสมมติเป็นจริง จะเป็นการกินรวบของตระกูลชินวัตรหรือไม่นั้น ผมก็ยังคงมองว่า ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯของประชาชน ล้วนแต่อยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจากฝ่ายค้านก็ดี จากพันธมิตรฯก็ดี จากองค์กรอิสระต่างๆที่พร้อมจะกระเด้งออกมารับลูกทันทีทันควัน คงยากที่จะทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเป็นแน่ เพราะอาจเสี่ยงต่อคุกตะรางก็เป็นได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าห่วงแต่ประการใด
ดูอย่างการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภาแท้ๆ เขายังบอกให้ไปทำประชามติก่อน
พอจะทำประชามติ เขาก็บอกให้ไปแก้เป็นรายมาตรา
พอจะแก้เป็นรายมาตรา เขากลับบอกว่าเป็นการลดทอนอำนาจประชาชน ทั้งที่การคงอยู่ของ สว.ที่มาจากการสรรหาของคนไม่กี่คน เป็นการเพิ่มอำนาจประชาชนตรงไหนก็ไม่รู้
แล้วพวกนั้นก็จะออกมาสร้างความขัดแย้ง แล้วนำสู่ความวุ่นวาย เพื่อให้ศาลท่านพิจารณาหาทางออกด้วยการยุบพรรคเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจากผลพวงนั้น
ทำให้มีพรรคบางพรรคจำเป็นต้องร่วมกับพรรคเสียงข้างน้อย เพราะไม่สามารถปฏิเสธอำนาจพิเศษได้
ทำให้มีพรรคงูเห่าเกิดขึ้น แล้วนำไปสู่การฟอร์มรัฐบาลในค่ายทหาร
ดังนั้นที่ผมกลัวจึงไม่ใช่การรวบประเทศไทย แต่เป็นการรวบอำนาจประชาชนต่างหากครับ เพราะพวกรวบอำนาจประชาชนไปนั้น
มันสามารถที่จะกู้มาโกงได้โดยไม่มีคนทักท้วง ไม่ว่าจากโครงการไทยเข้มแข็ง จากชุมชนพอเพียงหรือแม้กระทั่งเสาโรงพักที่ตั้งโด่เด่ประจานอยู่ทุกวันนี้
แต่เหนืออื่นใด กลับเป็นการต้องสูญเสียชีวิตประชาชนอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ประเทศชาติจะถอยหลังกลับไปอีกไม่รู้กี่สิบปี นี่ต่างหากครับมันน่ากลัวกว่าการรวบอำนาจของตระกูลชินวัตรไปไหนไหน
สุดท้ายผมก็เชื่อโดยสุจริตว่า เรื่องนายกฯสำรองของคุณเยาวภานั้น เป็นเพียงแค่การสับขาหลอกเท่านั้นเอง เพราะคนอย่างคุณทักษิณคงไม่คิดอะไรที่ตื้นๆแบบนั้นหรอกครับ คงไม่หวังแค่การสืบอำนาจของตระกูลอย่างแน่นอน ถ้าจะเป็นอย่างที่ทุกคนคาดเดาล่ะก้อ ผมคิดว่า น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่ใช่ชายที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ที่จนป่านนี้ยังเป็นที่รักของประชาชนจำนวนมากหรอกครับ
ว่าจะเขียนเรื่องนายกฯสำรอง ทำไมมาจบที่คุณทักษิณก็ไม่รู้? งงกับตัวเองจริงๆครับ
วันนี้อยากเขียนถึงเรื่อง นายกฯสำรองครับ
แต่ถามว่าเป็นการปูทางให้กับคุณเยาวภาเข้าสภา เพื่อเป็นนายกฯสำรองนั้นสมควรหรือไม่ เรื่องนายกฯสำรองนั้น ก็เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น จะถูกหรือไม่ก็คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เท่านั้นครับ เพียงแต่การสมัครเป็น ส.ส.ของคุณเยาวภา หรือการลาออกของคุณเกษม ก็เป็นไปตามกฎหมาย เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ นั่นคือการเข้าตามตรอกออกตามประตู ดังนั้นการจะได้เป็นนายกฯสำรองหรือไม่ ขั้นแรกต้องเป็น ส.ส.ก่อน นั่นหมายถึงประชาชนต้องยินดีให้เป็นตัวแทนของพวกเขาก่อน แล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องนายกฯสำรองกัน จริงไหมครับ
ถ้าถามผมว่า แล้วการเป็นนายกฯสำรองนั้นสมควรหรือไม่ ในความคิดเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า สมควรอย่างยิ่งครับ เพราะจากรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ เราก็เห็นแล้วหลายต่อหลายครั้ง นายกฯไทยไม่ใช่อาศัยแค่อำนาจจากประชาชนเท่านั้น แต่ยังมีอำนาจอื่นอีกมากมาย ที่จะคอยขัดขวางอำนาจของประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากปฏิเสธได้ ต่อให้จะทำเป็นตาบอดแค่ไหนก็ตาม แต่อย่างน้อยคงได้ยินกันเต็มสองหูแล้วว่า
การถอดถอนนายกฯสมัครด้วยพจนานุกรมนั้น เป็นการสุกเอาเผากิน
การยุบพรรคถึง 3 พรรค ที่อาจไม่ผิด แต่เป็นเพราะสถานการณ์บ้านเมืองกำลังวิกฤติ ว่าไปโน่น
แต่พออีกพรรค กลับมีคลิปแสดงถึงความพยายามที่จะช่วยไม่ให้ถูกยุบกันอย่างขะมักเขม้น
จึงไม่น่าแปลกใจ ที่พอมีข่าวเรื่องการปล่อยเงินกู้ของคุณยิ่งลักษณ์ที่ให้กับสามีนั้น อยู่ในมือของ ปปช.เท่านั้น ฝ่ายที่ต่อต้าน ก็ตีปีกกันอย่างเริงร่า ตีอกชกหัวด้วยความดีใจ ส่วนฝ่ายสนับสนุนก็พากันทุกข์ร้อนเป็นกังวล เป็นห่วงนายกฯยิ่งลักษณ์จะตกเก้าอี้ตามไปอีกคน
อะไรทำให้ประชาชนมั่นใจ ทั้งๆที่ยังไม่มีการชี้มูลความผิด ถ้าไม่ใช่เพราะประชาชนส่วนใหญ่รู้ถึงมาตรฐานขององค์กรอิสระเหล่านี้ได้ดี แล้วจะเป็นอื่นได้อย่างไร
ก็ดูจากความแตกต่างระหว่างสลายการชุมนุมกับการสลายด้วยอาวุธสงคราม
ก็ดูจากความแตกต่างระหว่างประกันข้าวกับจำนำข้าว
และที่สำคัญ คดีใหญ่อย่าง ปรส.ที่กำลังจะหมดอายุความในไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งสุดท้ายคงออกไม่ยกฟ้องก็หมดอายุความตามถนัด
สิ่งเหล่านี้มันกลายเป็นมาตรฐานไปเสียแล้ว ดังนั้นหลายต่อหลายคดี ประชาชนแทบจะรู้ผลคำตัดสินล่วงหน้าเสมอ จะไม่รู้ก็แต่คำวินิจฉัยจะออกมาแนวไหนเท่านั้นเอง
ดังนั้นผมจึงไม่คัดค้าน ที่พรรคของประชาชนส่วนใหญ่จะเตรียมตั้งนายกฯสำรองเอาไว้ และอาจต้องตั้งเผื่อไว้หลายๆคนหน่อย เพราะตราบใดที่รัฐธรรมนูญยังไม่ได้รับการแก้ไข ตราบนั้นพรรคที่คนส่วนใหญ่ต้องการให้เป็นรัฐบาล ก็มีโอกาสที่จะตกเก้าอี้ได้ทุกเมื่อ
ส่วนนายกฯสำรองจะเป็นคุณเยาวภาหรือไม่ เมื่อนายกฯยิ่งลักษณ์ต้องกระเด็นไป จะเป็นเพราะสุกเอาเผากินหรือเพื่อสถานการณ์ของบ้านเมืองก็แล้วแต่ ผมก็ไม่ต่อต้านอีกเช่นกัน ตราบที่เป็นการกระทำภายใต้รัฐธรรมนูญ ภายใต้กติกา อย่างน้อยก็สง่างามกว่าการฟอร์มรัฐบาลอย่างแน่นอน
และถ้าการสมมติเป็นจริง จะเป็นการกินรวบของตระกูลชินวัตรหรือไม่นั้น ผมก็ยังคงมองว่า ไม่ว่าใครจะเป็นนายกฯของประชาชน ล้วนแต่อยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจากฝ่ายค้านก็ดี จากพันธมิตรฯก็ดี จากองค์กรอิสระต่างๆที่พร้อมจะกระเด้งออกมารับลูกทันทีทันควัน คงยากที่จะทำอะไรที่ไม่ชอบมาพากลเป็นแน่ เพราะอาจเสี่ยงต่อคุกตะรางก็เป็นได้ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าห่วงแต่ประการใด
ดูอย่างการแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นอำนาจของรัฐสภาแท้ๆ เขายังบอกให้ไปทำประชามติก่อน
พอจะทำประชามติ เขาก็บอกให้ไปแก้เป็นรายมาตรา
พอจะแก้เป็นรายมาตรา เขากลับบอกว่าเป็นการลดทอนอำนาจประชาชน ทั้งที่การคงอยู่ของ สว.ที่มาจากการสรรหาของคนไม่กี่คน เป็นการเพิ่มอำนาจประชาชนตรงไหนก็ไม่รู้
แล้วพวกนั้นก็จะออกมาสร้างความขัดแย้ง แล้วนำสู่ความวุ่นวาย เพื่อให้ศาลท่านพิจารณาหาทางออกด้วยการยุบพรรคเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจากผลพวงนั้น
ทำให้มีพรรคบางพรรคจำเป็นต้องร่วมกับพรรคเสียงข้างน้อย เพราะไม่สามารถปฏิเสธอำนาจพิเศษได้
ทำให้มีพรรคงูเห่าเกิดขึ้น แล้วนำไปสู่การฟอร์มรัฐบาลในค่ายทหาร
ดังนั้นที่ผมกลัวจึงไม่ใช่การรวบประเทศไทย แต่เป็นการรวบอำนาจประชาชนต่างหากครับ เพราะพวกรวบอำนาจประชาชนไปนั้น
มันสามารถที่จะกู้มาโกงได้โดยไม่มีคนทักท้วง ไม่ว่าจากโครงการไทยเข้มแข็ง จากชุมชนพอเพียงหรือแม้กระทั่งเสาโรงพักที่ตั้งโด่เด่ประจานอยู่ทุกวันนี้
แต่เหนืออื่นใด กลับเป็นการต้องสูญเสียชีวิตประชาชนอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ประเทศชาติจะถอยหลังกลับไปอีกไม่รู้กี่สิบปี นี่ต่างหากครับมันน่ากลัวกว่าการรวบอำนาจของตระกูลชินวัตรไปไหนไหน
สุดท้ายผมก็เชื่อโดยสุจริตว่า เรื่องนายกฯสำรองของคุณเยาวภานั้น เป็นเพียงแค่การสับขาหลอกเท่านั้นเอง เพราะคนอย่างคุณทักษิณคงไม่คิดอะไรที่ตื้นๆแบบนั้นหรอกครับ คงไม่หวังแค่การสืบอำนาจของตระกูลอย่างแน่นอน ถ้าจะเป็นอย่างที่ทุกคนคาดเดาล่ะก้อ ผมคิดว่า น่าจะมีอะไรมากกว่านั้น ไม่อย่างนั้นคงไม่ใช่ชายที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ที่จนป่านนี้ยังเป็นที่รักของประชาชนจำนวนมากหรอกครับ
ว่าจะเขียนเรื่องนายกฯสำรอง ทำไมมาจบที่คุณทักษิณก็ไม่รู้? งงกับตัวเองจริงๆครับ