หลวงพ่อ .. ตอนที่ ๑
http://pantip.com/topic/30279817
หลวงพ่อ .. ตอนที่ ๒
ทั้งๆที่เป็นเดือนห้ายังไม่ทันจะถึงวสันตฤดู วันนี้ท้องฟ้ากลับมืดครึ้มทึมเทา หมู่เมฆลอยคล้อยต่ำทำท่าว่าจะมีเม็ดฝนหยดมิหยดแหล่ แต่ถือว่าอากาศเป็นใจอย่างยิ่งที่จะทำการหักร้างถางพงอย่างที่ยายเมี้ยนตั้งใจ แม้จะอบอ้าวไปสักหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าทำงานท่ามกลางเปลวแดดแผดร้อนอย่างที่เคยเป็น
วันนี้ทิดริดรวบรวมแรงงานที่จะมาช่วยได้อีกสองคน นอกจากทิดริดก็ยังมีทิดปลอดและทิดสาย ส่วนยายเมี้ยนนั้นทำกับข้าวกับปลาหาน้ำหาท่ามาพร้อมสรรพ แกช่วยลงแรงไม่ได้ก็เอาน้ำจิตน้ำใจมาตอบแทนกัน ทิดริดแจกแจงงานว่าใครทำอะไร ตรงไหนก็ลงมือทำงานกันทันที งานรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ที่รกๆเริ่มโล่งเตียนเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนจะรวมแรงกันอีกครั้งมาจัดการกับกลุ่มเถาวัลย์กาฝากเป็นเป้าหมายสุดท้าย
ในไม่ช้าวัชพืชที่ไม่พึงประสงค์ถูกตัดถูกรั้งออกไปจนเกือบจะหมด เผยให้เห็นซากสถูปปรักหักพังปรากฏอยู่เบื้องหน้า ที่มีประจักษ์พยานร่วมกันถึงสี่คน แล้วก็เป็นทิดริดที่ตวัดสายตาหันมาที่ยายเมี้ยนในทันใด
“พี่เมี้ยน ..”
แกพยักหน้าให้คนที่เรียกชื่อ โดยไม่พูดอะไรเพราะต่างรับรู้ถึงกันว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น อย่างน้อยแกก็มั่นใจแล้วว่า สิ่งที่แกเห็นในฝันไม่ใช่สิ่งที่เลื่อนลอย หากแกยังไม่เข้าใจว่า ทำไม
สิ้นสุดวันงานก็สิ้นสุดตาม สามคนสามแรงของชายฉกรรจ์ทำให้งานแล้วเสร็จ ที่ตรงนั้นเหี้ยนเตียน ตรงสถูปร้างที่ถูกแอบซ่อนไว้ก็ไม่มีวัชพืชมาบดบังสายตา ขากลับจะด้วยเรี่ยวแรงที่ยังเหลือหรือเพราะดีกว่าเดินกลับเฉยๆ ทั้งสามคนเดินไปก็ถางหญ้าตามเส้นทางที่เข้ามาไปด้วย เพื่อเปิดทางให้เดินไปมาได้สะดวกยิ่งขึ้น
เมื่อกลับออกมาแล้ว ก่อนจะแยกย้ายกันไป ยายเมี้ยนบอกให้ทิดริดและพรรคพวกรอแกประเดี๋ยว ก่อนที่จะก้าวขึ้นบันไดเรือนและลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมถุงผ้าใบย่อมสามถุง แล้วแจกจ่ายให้ทุกคนอย่างทั่วถึงอย่างที่แกตั้งใจไว้แล้วว่า จะต้องมีสินน้ำใจตอบแทนคนมาช่วยงานบ้าง
ทีแรกทั้งสามคนอิดออดไม่อยากรับเพราะถือเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป จนยายเมี้ยนต้องแค่นให้รับไว้ ทั้งสามคนจึงต้องรับน้ำใจของแกอย่างขัดเสียไม่ได้ แล้วสองในสามคนจึงแยกย้ายกันกลับบ้านไป
>>>>>
.. หลวงพ่อ .. ตอนที่ ๒
หลวงพ่อ .. ตอนที่ ๒
ทั้งๆที่เป็นเดือนห้ายังไม่ทันจะถึงวสันตฤดู วันนี้ท้องฟ้ากลับมืดครึ้มทึมเทา หมู่เมฆลอยคล้อยต่ำทำท่าว่าจะมีเม็ดฝนหยดมิหยดแหล่ แต่ถือว่าอากาศเป็นใจอย่างยิ่งที่จะทำการหักร้างถางพงอย่างที่ยายเมี้ยนตั้งใจ แม้จะอบอ้าวไปสักหน่อยแต่ก็ยังดีกว่าทำงานท่ามกลางเปลวแดดแผดร้อนอย่างที่เคยเป็น
วันนี้ทิดริดรวบรวมแรงงานที่จะมาช่วยได้อีกสองคน นอกจากทิดริดก็ยังมีทิดปลอดและทิดสาย ส่วนยายเมี้ยนนั้นทำกับข้าวกับปลาหาน้ำหาท่ามาพร้อมสรรพ แกช่วยลงแรงไม่ได้ก็เอาน้ำจิตน้ำใจมาตอบแทนกัน ทิดริดแจกแจงงานว่าใครทำอะไร ตรงไหนก็ลงมือทำงานกันทันที งานรุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ที่รกๆเริ่มโล่งเตียนเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนจะรวมแรงกันอีกครั้งมาจัดการกับกลุ่มเถาวัลย์กาฝากเป็นเป้าหมายสุดท้าย
ในไม่ช้าวัชพืชที่ไม่พึงประสงค์ถูกตัดถูกรั้งออกไปจนเกือบจะหมด เผยให้เห็นซากสถูปปรักหักพังปรากฏอยู่เบื้องหน้า ที่มีประจักษ์พยานร่วมกันถึงสี่คน แล้วก็เป็นทิดริดที่ตวัดสายตาหันมาที่ยายเมี้ยนในทันใด
“พี่เมี้ยน ..”
แกพยักหน้าให้คนที่เรียกชื่อ โดยไม่พูดอะไรเพราะต่างรับรู้ถึงกันว่า นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น อย่างน้อยแกก็มั่นใจแล้วว่า สิ่งที่แกเห็นในฝันไม่ใช่สิ่งที่เลื่อนลอย หากแกยังไม่เข้าใจว่า ทำไม
สิ้นสุดวันงานก็สิ้นสุดตาม สามคนสามแรงของชายฉกรรจ์ทำให้งานแล้วเสร็จ ที่ตรงนั้นเหี้ยนเตียน ตรงสถูปร้างที่ถูกแอบซ่อนไว้ก็ไม่มีวัชพืชมาบดบังสายตา ขากลับจะด้วยเรี่ยวแรงที่ยังเหลือหรือเพราะดีกว่าเดินกลับเฉยๆ ทั้งสามคนเดินไปก็ถางหญ้าตามเส้นทางที่เข้ามาไปด้วย เพื่อเปิดทางให้เดินไปมาได้สะดวกยิ่งขึ้น
เมื่อกลับออกมาแล้ว ก่อนจะแยกย้ายกันไป ยายเมี้ยนบอกให้ทิดริดและพรรคพวกรอแกประเดี๋ยว ก่อนที่จะก้าวขึ้นบันไดเรือนและลงมาอย่างรวดเร็วพร้อมถุงผ้าใบย่อมสามถุง แล้วแจกจ่ายให้ทุกคนอย่างทั่วถึงอย่างที่แกตั้งใจไว้แล้วว่า จะต้องมีสินน้ำใจตอบแทนคนมาช่วยงานบ้าง
ทีแรกทั้งสามคนอิดออดไม่อยากรับเพราะถือเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยช่วยกันได้ก็ช่วยกันไป จนยายเมี้ยนต้องแค่นให้รับไว้ ทั้งสามคนจึงต้องรับน้ำใจของแกอย่างขัดเสียไม่ได้ แล้วสองในสามคนจึงแยกย้ายกันกลับบ้านไป
>>>>>