สวัสดีสมาชิกทุกท่าน

       The Espresso ฉบับนี้ ยังคงอยู่กับเรื่องราวการเดินทางสร้างแรงบันดาลใจ "Life is a Journey" ของเหล่าสมาชิกห้องบลูแพลนเน็ตทั้ง 7 ล็อกอิน กับ 7 เส้นทางการเดินทาง ที่จะพาเพื่อนๆ สมาชิกทุกท่านไปร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร และสำหรับ Part 2 เราขอเอาใจเหล่าแบ็คแพ็คเกอร์ขาลุย พานั่งรถไฟตะลุยข้ามทวีปไปกับเจ้าของล็อกอิน cescassawin และ PakaPrich ส่วนฉบับหน้าขอปิดท้ายด้วยทริปของ The Star Backpacker ห้ามพลาดเด็ดขาด!

       Pantip Network กลับมาอีกครั้งกับกิจกรรมพิเศษ "รักแม่ให้โลกรู้ ปี 57" ชวนเพื่อนๆ ทุกคนมาร่วมประกวดออกแบบการ์ดวันแม่ เพื่อเป็นสื่อกลางแทนใจอันล้ำค่าจากลูกที่จะส่งตรงถึงมือแม่ทั่วประเทศ ผู้ชนะเลิศยังจะได้ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท และ OPPO ยังใจป้ำสนับสนุน OPPO Find 7a มูลค่า 15,990 บาท สำหรับผู้ชนะรางวัลขวัญใจทีมงานอีกด้วย!! ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://pantip.com/motherday57     

 

 

2 หมอตะลุยโลก
WorldWantsWandering

       การเดินทางของคนคนหนึ่ง สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนได้ ไม่ต่างจาก หมอวิน น.พ.อัศวิน ชมจิตต์ แพทย์ประจำคลีนิคบัตรทอง และหมอโจ้ อรรควิชญ์ หาญนวโชค หมอชนบท ร.พ.กะเปอร์ ใน จ.ระนอง เจ้าของล็อกอิน cescassawin ทั้งสองออกท่องโลกกว้างไปด้วยกันกับทริปในฝัน 41วัน ครึ่งซีกโลกบนล้อเหล็ก ซึ่งการเดินทางของพวกเขาครั้งนี้ได้จุดประกายให้กับนัก(อยาก)เที่ยวอีกมากมายเริ่มต้นสร้างทริปในฝันของตัวเองให้เป็นจริง
       ตลอดเส้นทางฝันในทุกๆ ทริป สิ่งหนึ่งที่พวกเขาต่างมีเหมือนกันคือ ความสุขที่ได้เห็นสิ่งแปลกใหม่ เห็นในสิ่งที่ไม่ใช่สภาพแวดล้อมปกติของตัวเอง อดทนต่อความยากลำบาก และที่สำคัญที่สุดคือ การมีเพื่อนร่วมเดินทางที่สามารถลุยไปด้วยกันได้ทุกที่

Dream Trips Duo
       หมอวิน : จริงๆ แล้ว การเดินทางแบบไหนก็มีความสนุกในตัวเองครับ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางคนเดียว การเดินทางแบบคู่หูดูโอ การเดินทางเป็นกลุ่มเพื่อน หรือแม้แต่การเดินทางกับครอบครัว แต่การที่คนที่มีจริตแบบเดียวกัน ลุยๆ สกปรกๆ เหมือนๆ กัน ชอบถ่ายรูปเหมือนกัน มันทำให้ยิ่งสนุกครับ เพราะไม่ต้องกลัวว่าเพื่อนเราจะอึดอัด ลำบากใจรึเปล่า ข้อดีคือ มีคนคอยดูหน้าดูหลังให้กันได้ อันนี้สำคัญครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ จะแค่เข้าห้องน้ำ ถ้ามีของพะรุงพะรัง จะไปฝากใคร ก็ต้องมีเพื่อนเนี่ยแหละเฝ้าให้ แล้วยังได้ประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่องที่พักในโรงแรมด้วยครับ แล้วถ้าเดินทางที่ต้องนั่งเครื่อง นั่งรถไฟ หรือนั่งพาหนะอะไรนานๆ ในต่างแดน การได้พูดภาษาไทยมันเหมือนการได้ระบายครับ ทำให้ไม่เหงานะ
       หมอโจ้ : การไปแบบดูโอ มันดีกว่าการไปคนเดียวและการไปเป็นแก๊งส์เยอะครับ อย่างน้อยความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการเดินทางก็ดีกว่าการไปเป็นกลุ่มเยอะ และการมีเพื่อนคู่คิดตลอดทางในดินแดนที่ไม่คุ้นเคยย่อมดีกว่าครับ ยิ่งพวกผมแบกกล้องถ่ายรูปราคาไม่ถูกไปอีก การมีสี่ตา สี่หู ช่วยเฝ้าระวังทรัพย์สินมีค่าเป็นสิ่งที่หาไม่ได้เวลาไปคนเดียวครับ

A Surprise is on the Way
       
หมอวิน : เรื่องเซอร์ไพรส์ คือ ทริปครึ่งซีกโลก ตอนนั้นอยู่ระหว่างการเดินทางบนรถไฟจากกรุงมอสโควไปกรุงเคียฟ ก่อนจะลงจากสถานีรถไฟที่เมืองเคียฟ ผมกับโจ้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดพาสปอร์ตไป เพราะว่าเราไม่มีตั๋วรถไฟออกจากประเทศยูเครน เรื่องของเรื่องคือ เที่ยวยูเครนต้องมีวีซ่า แต่ทำยุ่งยากมาก ง่ายสุดคือ การขอ Transit visa แต่ต้องมีตั๋วเครื่องบินหรือรถไฟแสดงการเข้าออกประเทศเขาชัดเจน เราตั้งใจนั่งรถไฟตลอดทริปอยู่แล้ว ก่อนมาก็ทำทุกวิถีทาง ทำไงก็จองตั๋วรถไฟออนไลน์จากกรุงเคียฟไปโปแลนด์ไม่ได้ วีซ่าก็เลยไม่ผ่าน แต่อยู่ดีๆ ก่อนวันเดินทาง ทางสถานกงสุลก็โทรมาบอกว่า ออกวีซ่าให้ได้ไม่มีปัญหา จนกระทั่งมาถึงที่นี่ สถานีตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็งงว่า นี่พวกเอ็ง 2 คนจะเดินทางรอบโลกด้วยรถไฟกันเหรอ เป็นไปได้เหรอวะ แล้วได้วีซ่ามาได้ไง ไม่มีตั๋วยานพาหนะออกนอกประเทศยูเครน สุดท้ายก็ต้องยอมไปแลกเงินเพื่อซื้อตั๋วรถไฟ ซึ่งแพงโคตรๆ ครับ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประกบตลอด ก็ดีนะครับ ประสบการณ์แบบนี้
       สำหรับประสบการณ์สนุกๆ ที่ไม่มีวันลืมเลย คือ การได้โดดร่ม หรือ skydive ฉลองวันเกิด 24 ปี ที่สวิตเซอร์แลนด์กับโดดบันจี้จัมพ์จากยอดมาเก๊าทาวเวอร์ในปีถัดมาครับ มันส์สุดๆ ไปเลย หัวใจแทบวาย…

Somewhere I Love
       หมอวิน : เยอะเลย ขอแบ่งเป็นข้อๆ แล้วกันครับ ถ้าเรื่องคน ผมประทับใจรัสเซีย สาวๆ สวยมาก ชาราโปวาทั้งประเทศเลย (ยิ้ม) ส่วนถ้าเรื่องธรรมชาติ ผมประทับใจอินโดนีเซียครับ ภูเขาไฟโบรโม่ ภูเขาไฟคาวาอีเจี้ยน สวยสุดๆ ไปเลยอ่ะ แต่ถ้าเรื่องเมืองเก่า อันนี้ยกนิ้วให้ เมืองดูบรอฟนิค โครเอเชียครับ
       หมอโจ้ : สถานที่ที่ผมประทับใจคือหลวงพระบางครับ เพราะอะไรก็ตามที่เป็นครั้งแรก เรามักจะจดจำมันได้ดีเสมอ ที่นี่เป็นที่แรกที่ไปถึงด้วยน้ำพักน้ำแรงตัวเอง และสภาพบ้านเมืองดูอบอุ่นและผู้คนอัธยาศัยดีมาก ตรงตามที่คนอื่นๆ บอกไว้เป๊ะๆ มันเลยเป็นความรู้สึกทึ่งอย่างหาที่สุดไม่ได้

My Traveling is
       หมอวิน : เมื่อก่อนนี้ สมัยเป็นนักเรียน ผมเคยคิดว่า ได้แค่คณิต-วิทย์ก็พอแล้ว ชีวิตนี้สบายแล้ว พอได้มีโอกาสไปสัมผัสโลกกว้าง ทำให้รู้ว่า "ไอเรานี่แมร่งโคตรกากเลย กบในกะลาชัดๆ" ใบ้กินครับ พูดภาษาอังกฤษก็พูดไม่ได้เวลาเจอฝรั่ง นั่นแหละครับ คือ หนึ่งข้อเลยที่การท่องเที่ยวช่วยเปิดมุมมองโลกทัศน์ของผมให้กว้างขึ้น นิยามการท่องเที่ยวของผมคือ Life is Journey ชีวิตคือการเดินทาง ในหัวผมจะคิดเรื่องการเดินทางอยู่ตลอดเวลา ว่าจะทำยังไงถึงจะไปเที่ยวได้ ต้องวางแผนเที่ยวยังไง ใช้งบเท่าไหร่ ไปนานแค่ไหน ไปกับใคร เหมือนเป็นอาการทางจิตอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ (ยิ้ม)
       หมอโจ้ : โลกใบนี้ของเรามันก็เหมือนหนังสือเล่มใหญ่ที่ความหนาไม่มีที่สิ้นสุด การท่องเที่ยวก็เหมือนกับการแง้มเปิดตำราเล่มนี้ ยิ่งเปิดเยอะ ยิ่งรู้เยอะครับ แถมคนที่เราได้พบเจอระหว่างทางนี่ผมถือว่าเป็นครูคนหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว ผมถือว่าการไปเที่ยวของผมไม่ใช่แค่ไปหาความสุขใส่ตัวอย่างเดียว แต่ยังต้องได้ประสบการณ์และความรู้กลับมาพัฒนาตัวเองด้วยครับ

I Love Blue Planet
       หมอวิน : ผมเริ่มเล่นพันทิปก็ตอนเอาทริปครึ่งซีกโลกมารีวิวในห้องบลูฯ เลยครับ ปกติไม่ได้เล่นเลยครับ แต่พอลงรีวิว ก็ติดหนึบหรือเสพติดกับห้องบลูฯ มาตลอดจนทุกวันนี้ ต้องขอบคุณเว็บพันทิปครับ ที่เป็นสื่อออนไลน์ในการแชร์ให้คนในสังคมได้เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน และเราก็ยังได้รับข้อมูลการท่องเที่ยวดีๆ จากกูรู บล็อกเกอร์ในห้องนี้อีกหลายๆ จังหวัด หลายๆ ประเทศ สุโค่ยเลยครับ ไปเที่ยวไหน คิดอะไรไม่ออก เปิดพันทิป เข้าบลูแพลนเน็ต แป๊ปเดียว เดี๋ยวข้อมูลก็มาอยู่ในมือแล้ว
       หมอโจ้ : ผมเริ่มเล่นมาได้ตั้งแต่สมัยสัก 10 ปีที่แล้วได้ครับ เพราะชอบไปห้างพันธุ์ทิพย์จึงเข้าใจว่าเป็นเว็บของห้าง ก็เลยเข้าแต่เฉพาะห้องไอทีเพราะไปความรู้เรื่องเกมซะส่วนใหญ่ (หัวเราะ) พอโตขึ้นเริ่มอยากรู้อะไรมากขึ้น จึงพบว่าพันทิปเป็นเหมือนชุมชนขนาดยักษ์ที่มีคนมีความรู้มากมายหลายด้าน
       ตอนนี้ห้อง Blue planet เกือบจะกลายเป็นศูนย์กลางของข้อมูลการท่องเที่ยวภาคภาษาไทยของประเทศไทยไปแล้วครับ ผมสามารถที่จะเจอคนที่ไปได้ไกลสุดขอบโลก คนที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ท่องโลกไปทั่ว หรือแม้แต่คนสูงอายุที่แบกเป้เที่ยวเองแบบเหนือความคาดหมายได้ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หาไม่ได้ในสังคมอื่นถ้าไม่ใช่ blue planet ครับ

Traveler's Diary

       หมอวิน : อาจฟังดูเหมือนคนเพ้อเจ้อนะครับ แต่ผมอยากจะบันทึกทุกประเทศบนโลกใบนี้ลงในสมุดบันทึกเล่มนี้ครับ แล้วอยากนำสมุดบันทึกเล่มนี้ส่งต่อแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครบนโลกใบนี้ได้อ่านมันดูครับ ชีวิตเราแสนสั้น ไม่ต้องคอยอะไรแล้วครับ เที่ยวได้เที่ยวโลด (ยิ้ม)
       หมอโจ้ : ตัวผมเองคงไม่บันทึกอะไรลงไปครับ แต่จะให้คนท้องถิ่นที่ผมประสบพบเจอได้บันทึกอะไรก็ได้ที่เขาอยากเขียน ในภาษาของเขา ในแบบความคิดของเขาลงไปในสมุดเล่มนั้น โดยที่ผมไม่ต้องรู้ความหมายในสิ่งที่เขาเขียนก็ได้ สมุดเล่มนี้ก็เป็นเหมือนสมุดสะสมการเดินทางในชีวิต เมื่อวันที่ถูกเขียนครบเต็มเล่ม มีทุกภาษาทั่วโลก ถึงตอนนั้นก็คงบอกได้ความฝันของผมอย่างหนึ่งได้สำเร็จลุล่วงลงแล้ว

   

PakaPrich
along (rail)way home

       เส้นทางการเดินทางกลับบ้านใน 71 วัน กับ 13 ประเทศ จากนอตทิงแฮมสู่กรุงเทพฯ ของอดีตนักศึกษาปริญญาโทคู่นี้ "โบ๊ตและฝ้าย" เจ้าของล็อกอิน PakaPrich นอกจากจะทำให้เราอดทึ่งไม่ได้กับการเดินทางข้ามทวีปโดยรถไฟของทั้งคู่แล้ว การเดินทางกลับบ้านของพวกเขายังทำให้เราประทับใจไปกับมิตรภาพ และยังเปิดโลกทัศน์มุมมองผ่านเรื่องราวที่น่าอัศจรรย์ของผู้คนอีกมากมายที่พวกเขาค้นพบในระหว่างทาง
        บทสัมภาษณ์นี้จะพาเราไปพิสูจน์ถึงสิ่งที่พวกเขาได้กล่าวไว้ในรีวิวว่า "หลังจากที่พวกเรากลับถึงบ้าน พวกเราก็มองโลกใบนี้ด้วยมุมมองที่เปลี่ยนไปจากเดิม และไม่เคยมองมันด้วยมุมเดิมอีกเลย"

along (rail)way home
       จุดเริ่มต้นการเดินทางเกิดจากตอนที่เรียนอยู่นอตทิงแฮม เราสองคนไม่ค่อยได้ไปเที่ยวเท่าไหร่ เลยตั้งใจว่าก่อนกลับเราน่าจะไปเที่ยวยุโรปกัน พอคุยไปคุยมา ก็นึกถึงพี่หมอ 2 คนที่นั่งรถไฟจากปักกิ่งไปสวิตเซอร์แลนด์ เราเลยเกิดแรงบันดาลใจนั่งรถไฟจากอังกฤษกลับกรุงเทพฯ
        การนั่งรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย เป็นช่วงเวลาที่เราแฮปปี้มาก เพราะเป็นช่วงเวลาที่สบายที่สุด เนื่องจากเราไม่ต้องแบกกระเป๋าเดินทางหนักๆ ทุกวันเพื่อย้ายที่ การนั่งรถไฟเป็นระยะเวลานานๆ โดยที่ไม่ต้องอาบน้ำ (หัวเราะ) แต่ประสบการณ์ที่แปลกมากคือ เราจะเกิดอาการที่เรียกว่า train lag คือเกิดอาการสับสนเวลาขณะที่นั่งรถไฟข้ามประเทศ

A Surprise is on the Way
       การที่เราได้พบเจอผู้คนเยอะมากคือเรื่องเซอร์ไพร์สที่เราได้สัมผัสในระหว่างทาง พวกเขาต่างก็มีเรื่องราวที่น่าสนใจ อย่างการที่เราได้ไปเจอสาวฮ่องกงคนหนึ่งที่มองโกเลีย เขาเป็นนักท่องเที่ยวที่ขี่จักรยานจากตุรกีมาจนถึงอูลานบาตอร์ที่มองโกเลีย เป็นระยะทางประมาณหมื่นกว่ากิโล ที่สำคัญคือเธอขี่เพียงลำพังคนเดียว เราเลยรู้สึกทึ่งมาก รวมถึงการได้เจอนักท่องเที่ยวที่หลากหลายไปตลอดเส้นทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย

Somewhere I Love

       ทะเลทรายโกเบที่มองโกเลีย เป็นที่ที่มีแต่ความเวิ้งว้าง อ้างว้าง และเป็นที่ที่เรารู้สึกว่าได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ เพราะว่าที่นี่ไม่มีอะไรเลย และการมาเที่ยวที่นี่ก็ค่อนข้างลำบากหน่อย เพราะต้องใช้เวลาประมาณ 8 วัน นั่งรถเข้าไปในทะเลทรายที่เป็นทางลูกรังวันละ 7 ชั่วโมง ตอนไปเที่ยวเราต้องไปนอนในเกอร์ คล้ายๆ กับเต้นท์ และก็มีเตาไฟจุดให้ความอบอุ่นข้างใน เพราะที่นี่เป็นทะเลทรายที่มีหิมะตก แต่สื่งที่ทำให้เราประทับใจที่สุดคือ การเดินขึ้นสันทรายความสูงประมาณ 300 เมตร หรือสูงประมาณเท่าหอไอเฟล ซึ่งเราใช้เวลาปีนขึ้นไป 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงยอด เพราะเราเดินขึ้นผิดฝั่ง (หัวเราะ) แต่พอจังหวะที่เราขึ้นไปถึงบนนั้น ก็รู้สึกว่าคุ้มมากกับวิวที่สวยชวนติดตาสุดๆ

My Traveling is

       นิยามการท่องเที่ยวของเราคือ การออกไปเจออะไรใหม่ๆ และได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ไปฟังเรื่องราวของผู้คนที่เราได้พบเจอ ส่วนใหญ่เวลาเราไป เราจะเล่าเรื่องของเราจบภายใน 1 นาที (หัวเราะ) แต่พอได้ฟังเรื่องราวของคนอื่น จะนานมาก เพราะเรื่องของเขามันเยอะมาก
        ความสุขระหว่างทาง คือ เราได้รู้จักและได้คุยกับผู้คนที่มหัศจรรย์ ซึ่งเราไม่คิดว่าจะได้เจอบนโลกใบนี้ หรือได้เจอกับคนท้องถิ่นที่น่ารัก มีน้ำใจ ใจดีช่วยเหลือเราก็เยอะ การท่องเที่ยวยังทำให้เรารู้สึกว่าเราผูกพันกับโลกใบนี้มากขึ้น จริงๆ เราไม่ได้ต้องการอะไรเยอะแยะเพื่อที่จะอยู่บนโลกใบนี้ แค่มีที่นอน มีอาหารกินเราก็อยู่ได้แล้ว และรู้สึกถึงความสวยงามอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่สร้างโลกใบนี้

I Love Blue Planet

       ก่อนหน้านี้เข้ามาเล่นพันทิป เพื่อหาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะทำอาหารหรือท่องเที่ยว คิดว่าห้องบลูแพลนเน็ตเป็นห้องที่มีข้อมูลแน่นมาก เป็นที่ที่เราใช้หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เที่ยว ที่พักตลอดทุกทริป เพื่อนๆ ทุกคนก็น่ารัก ให้ข้อมูลกับเราเต็มที่

Tip* ของที่ต้องติดตัวไปด้วย
       หนังสือท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ เช่น Lonely Planet สำคัญมากเพราะว่ามีข้อมูลทุกอย่างที่เราต้องการรู้หรือไม่ต้องการรู้อยู่ในนั้น สำหรับฝ้าย ด้วยตัวฝ้ายเองเป็นคนลุยๆ อยู่แล้ว ก็จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่เราต้องมี คือ สมาร์ทโฟน เพราะว่ามี GPS ใช้ในการเดินทาง

   
     
 (c) 2009 Pantip.com All Rights Reserved. คลิกที่นี่ หากท่านไม่ต้องการรับข่าวสารจากเราอีกต่อไป