สวัสดีสมาชิกทุกท่าน

         พันทิปเพิ่งจะเปิดห้องใหม่ คือ ห้อง "หอศิลป์" ไปได้ไม่นาน แต่ดูเหมือนว่ากระแสตอบรับกลับมาดีเกินคาด เพราะมีเพื่อนๆ สมาชิกให้ความสนใจ เข้ามาพูดคุย แลกเปลี่ยน โชว์ผลงานกันอย่างสนุกสนาน เข้ามาช่วยกันตบแต่งห้องใหม่ให้มีสีสันและอบอุ่นขึ้นได้เพียงเวลาไม่นาน หรือจะเป็นด้วยเพราะห้องนี้เป็นห้องที่คนรักงานอาร์ตๆ เก๋ๆ อย่างงานศิลปะ เขามารวมตัวกันรึเปล่านะ ถึงทำให้เวลาเข้าไปที่กระทู้ไหนก็เจอแต่ภาพสวยๆ แปะหน้าวอลล์เต็มไปหมด!

         เพื่อนสมาชิกคนไหนที่ยังไม่เคยแวะเข้าไป(เดินชม)ห้องหอศิลป์ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงแห่งนี้ The Espresso ฉบับนี้ ขอถือโอกาสแนะนำเพื่อนๆ มาพูดคุยกันก่อนกับเด็กอาร์ตทั้งสามของเรา ซึ่งได้มาปล่อยของโชว์ผลงานไว้ที่ห้องหอศิลป์ ทั้งสามคนจะมีสไตล์ฝีไม้ลายมือที่แตกต่างกันและน่าสนใจอย่างไร ไปทำความรู้จักพวกเขากันเลยค่ะ


    

 


         Ars Longa Vita Brevis : ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น
คือประโยคที่ล็อกอิน preneko อยากฝากถึงคนที่รักในศิลปะเหมือนเขา "ต่อ-นิรันดร์ ชูวิเชียร" หนุ่มที่มีงานประจำเป็นนักเขียนการ์ตูนความรู้ ภาพประกอบ ช่วยงานค้าขายที่บ้าน และทำงานด้านศิลปะเป็นงานอดิเรก
         เริ่มสนใจขีดๆเขียนๆตั้งแต่เด็กๆแล้ว มักจะแอบเขียนเล่นในสมุดหรือกระดาษในห้องเรียนประจำตั้งแต่เด็กจนโต รู้สึกว่าการได้เขียนเล่นทำให้เราเข้าไปอยู่ในโลกส่วนตัวดี(จนไม่ค่อยสนใจเรียน ฮาาา) พอโตขึ้นอยากเขียนการ์ตูนจึงเริ่มเรียนศิลปะแต่ยังไม่ซึมซับหลักการทางศิลปะมากนัก จนเมื่อได้ทำงานและศึกษาด้วยตัวเองเพิ่มเติมเรื่อยๆและประทับใจกับงานศิลปะหลายแขนง และคิดว่าแต่ละแขนงมีอิทธิพลสืบเนื่องกันมา ผมจึงเริ่มนำแนวทางศิลปะต่างๆที่ประทับใจนำมาผสมผสาน และพยายามกลั่นกรองออกมาให้เป็นงานในแนวทางของตนเองครับ

         ช่วงนี้ส่วนใหญ่จะเป็นงานวาดเส้นด้วยปากกาลูกลื่นบนกระดาษครับ จะเป็นงานแนวกึ่งนามธรรมหน่อยๆ ล่าสุดนี้เริ่มทำงานปากกามาร์กเกอร์ตราม้าเพิ่มเติมด้วยครับ เทคนิคปากกาลูกลื่น น่าจะเป็นเทคนิคที่ถนัดที่สุดแล้วขณะนี้ ที่มาเขียนปากกาเพราะเป็นอุปกรณ์ที่ใกล้มือที่สุดเวลาที่ผมเฝ้าร้านขายของ คือเวลานั่งเฝ้าร้านว่างก็หาอะไรมาเขียนและคิดไปเรื่อย ปากกาลูกลื่นจึงเป็นอุปกรณ์ที่คล่องตัวที่สุดในการทำงาน และผมจึงค่อยๆพัฒนาเทคนิคโดยอาศัยปากกาลูกลื่นที่มีสีพื้นฐานที่สุด(แดง เหลือง น้ำเงิน) พยายามนำสีมาผสมกันในภาพเพื่อให้ได้สีที่หลากหลายขึ้น(ก็หมดปากกาไปหลายนะครับ) งานชิ้นล่าสุด ผมพยายามใช้วัสดุที่อยู่รอบตัวในการทำงาน(ค้าขาย)คือกล่องกระดาษและปากกาตราม้า นำมาลองสร้างงานอย่างรวดเร็วในเวลาจำกัด เพื่อต้องการจะรู้ว่า ตัวเองจะสะท้อนแนวคิดและอารมณ์ด้วยวัสดุอุปกรณ์รอบตัวที่จำกัดได้หรือไม่
          ถ้าพูดถึงสไตล์การวาดรูป จริงๆแล้วผมถนัดงานการ์ตูนครับ จึงเห็นงานบางชิ้นที่ดูเป็นงานคาร์แร็กเตอร์ดีไซน์ แต่จะให้เขียนพอร์เทรตหรือแลนด์-ซี สเคป ก็สู้เขาไม่ได้ งานศิลปะที่ทำออกมาส่วนใหญ่จึงเป็นกึ่งนามธรรมที่เน้นสะท้อนอารมณ์และแฝงนัยยะทางความคิดมากกว่าครับ สำหรับผม งานศิลปะช่วยเรื่องสมาธิครับ งานบางชิ้นผมจะเพ่งคิดถึงภาพก่อนที่เขียน แต่บางภาพผมเขียนไปเรื่อยๆ แต่ระหว่างเขียน จะเป็นช่วงที่ผมมีสมาธิ(แม้จะสั้นๆ) และการเสพงานศิลปะก็ให้ผมลดความเครียดลงได้ แถมยังได้มุมมองใหม่ในการมองโลกด้วยครับ

 

         โบว์ หรือล็อกอิน HuaKheaw Graphic Design ของรายการทีวีแห่งหนึ่ง จากเด็กที่ไม่ชอบวาดภาพเลย แถมยังได้เกรดไม่ดีทุกครั้งแต่กลับสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะออกมาได้อย่างน่าสนใจ
         เป็นคนไม่ชอบวาดภาพเลยค่ะ จำได้ว่าเด็กๆวาดไม่เป็นก๊อปเส้นตลอดเลย พอมาเรียนปริญญาตรีเรียนทางด้านสาขา ออกแบบและพัฒนาเกม ซึ่งสาขานี้จะเน้นวาดภาพออกแบบมากๆ แต่ก็วาดออกมาไม่ดีแถมได้เกรด D ประจำ ยิ่งทำให้ไม่ชอบวาดภาพไปใหญ่เลยค่ะ แต่มาเริ่มสนใจตอนช่วงอกหัก เพราะหาทางออกไหนไม่ได้ไม่รู้จะไปพูดไประบายกับใครได้ พอดีช่วงนั้นได้ซื้อ iPad มาใหม่ แรกๆยังใช้วาดบนโปรแกรมฟรีอยู่ใช้นิ้ววาดๆ เริ่มสนุกและใช้ง่ายดี หลังจากนั้นก็วาดมาเรื่อยๆ ตั้งใจทำเป็นของขวัญวันเกิดให้แฟนเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอกันแล้วต้องเลิกกัน(คิดละเศร้า) แล้วก็จะวาดเกี่ยวกับคน 2 คน ที่แทนตัวเราเองกับแฟน เป็นเรื่องราวเป็นฉากจบใน 1 แผ่นและยังเป็นจุดเริ่มต้นเพจหัวเขียว ส่วนใหญ่วาดตามอารมณ์มากกว่า ชอบแนวน่ารักๆ สีหวานๆ แต่หลังๆเปลี่ยนเป็นแนวดุๆดูบ้าง เพราะสังเกตุว่า แฟนๆในเพจชอบแนวนี้กัน ก็เลยสลับสับเปลี่ยนกันไป

       ส่วนความแตกต่างระหว่างวาดภาพด้วย iPad กับ กระดาษ คุณโบว์ก็ได้บอกว่า "ตอนเรียนปริญญาตรีวาดบนกระดาษต้องถือกระดาน คิดว่ามันวุ่นวาย ยุ่งยาก ถ้าคิดว่าต่างกันยังไงก็ ตรงที่ บนiPad ก็ปากกาสำหรับiPad แค่ 2 อย่าง ไปไหนมาไหนก็สะดวกสบาย วาดผิดก็สามารถ undo ได้เลย ไม่ต้องมาลบให้งานเสียหาย แถมยังสามารถแบ่ง layer ได้อีกต่างหาก โบว์เป็นคนวาดรูป แบบเวลาร่างเส้นแล้วเส้นเยอะมาก การวาดบนกระดาษมันคงไม่เหมาะสำหรับโบว์ บน iPad นี่เหมาะสมที่สุดแล้วค่ะ ลงตัวแล้ว"

     

 


   

    
       itsAriecha
แอม-กชกร ฐิติไพสิฐ" นักศึกษาสาวเอกแอนิเมชั่น จากรั้วพระจอมเกล้าธนบุรีคนนี้ เธอยืนยันกับเราแล้วว่า ศิลปินหรือจิตรกรมักเป็นคนอ่อนไหว หรือหวั่นไหวง่าย แถมอารมณ์อ่อนไหวนี้เองก็ยังถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพๆ หนึ่งที่บอกเล่าความรู้สึกแทนคำพูดได้มากมาย "จากการที่รอบตัวเต็มไปด้วยเพื่อนอาร์ตๆ เราเลยเห็นความอาร์ต ความอ่อนไหวของตัวเรากับเพื่อนมาเยอะ พวกเราถูกกระตุ้นให้มีอารมณ์ร่วมได้ง่ายมากๆ ในเรื่องที่สนใจ แถมถ้าอินกับอะไรมากๆ อารมณ์จะออกรุนแรงด้วยซ้ำ เลยทำให้ภาพของเราสามารถสื่อสารอารมณ์ออกมาได้ตามความรู้สึกขณะนั้น เพราะการวาดรูป ก็เหมือนกับการระบายอารมณ์ลงไปในภาพ อย่างแวนโก๊ะที่ระบายอารมณ์เครียด หดหู่ของเขาลงบนภาพ แล้วเราก็รู้สึกได้ อย่างนั้นเลยค่ะ ส่วนเรื่องเยียวยาความรู้สึกนี่ก็จริงค่ะ เคยมีครั้งหนึ่งตอนย่าเสีย เราร้องไห้จะเป็นจะตาย พอเริ่มสงบสติอารมณ์ได้ จึงเปิดคอมพิวเตอร์ วาดรูป หลังจากวาดเสร็จ รู้สึกจิตใจเยือกเย็นขึ้น คงเพราะเราใช้สมาธิไปกับการวาดรูปมาก เลยทำให้เราใจเย็นลงแล้วก็ควบคุมอารมณ์ได้น่ะค่ะ"
       และเหตุผลที่สาวแอมสารภาพกับเราว่าเป็นคนอ่อนไหว (แถมยังอาร์ตอีกด้วย) อาจจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ "เซเลอร์มูน" !!"แรงบันดาลใจให้จับปากกาวาดรูปมาจากการ์ตูนล้วนๆ เลย (เราสิงอยู่ห้องการ์ตูนเป็นส่วนใหญ่) และเริ่มวาดเหมือนกับเด็กผู้หญิงทั่วไปเลย คือเริ่มจาก "เซเลอร์มูน" ค่ะ ดูเซเลอร์มูนแล้วชอบมากๆ เลยหัดวาดตาม บางทีก็เอาตุ๊กตากระดาษมาวาด จนตอนนี้เรียนแอนิเมชั่น ก็ได้แรงบันดาลใจจากการ์ตูนแอนิเมชั่นที่เราชอบดูมากๆ นี่แหละค่ะ"

       พอพูดถึงเสน่ห์และความสนุกของการวาดรูปลงบนหน้าจอคอมพ์ เธอบอกว่า การลงสีที่ต้องใช้ทักษะอย่างสูงหากวาดด้วยมือ เช่น สีเรืองแสงเหมือนไฟ หรือประกายกากเพชร การไล่สีรุ้ง สีโปร่งแสง เป็นต้น คอมพิวเตอร์สามารถทำได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องอาศัยทักษะมาก แถมยังได้เปรียบอยู่อย่างตรงที่เราสามารถ 'undo' ได้เวลาลงสีพลาด (ฮา) ส่วนเอกลักษณ์ภาพวาดที่เธอต้องการสื่อสารนั้น เธอบอกว่า "คงเป็นลายเส้นคมๆ ที่ตัดกับการ์ตูนตาหวานๆ กับการลงสีในโทนสดใส ที่เน้นสื่ออารมณ์ร่าเริง มากกว่าออกหวานแหวว ซึ่งอาจจะยังไม่ใช่เอกลักษณ์ที่โดดเด่นพอให้คนทั่วไปจดจำได้ และเธอเองก็ยังสนุกกับการลองเปลี่ยนสไตล์ใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ เพราะอยากให้คนดูรูปเราแล้วชอบ มีความสุข และรู้สึกสดใสร่าเริงเหมือนในรูปค่ะ"
       สุดท้ายสาวอาร์ตคนนี้ เธอได้ฝากถึงเพื่อนๆ ที่มีใจรักงานศิลปะด้วยว่า "วาดรูปต่อไปนะ เราอยากเห็นคนวาดรูปเยอะขึ้นๆ ขยันวาด ขยันเสพงานศิลปะ เพราะศิลปะมันกว้างขวางมาก ถ้าเราได้ศึกษา เราจะเรียนรู้อะไรเยอะเลยค่ะ ทั้งประวัติศาสตร์ อารมณ์ความรู้สึกของศิลปิน องค์ประกอบของศิลปะ เทคนิคการใช้สี ฯลฯ เราเลยอยากให้คนมาสนใจศิลปะมากขึ้นๆ ค่ะ
"

ชิ้นงานที่ภูมิใจนำเสนอ : ภาพนี้ต้องการสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวัด และให้ความรู้สึกที่สงบสุขและร่มเย็น (ต้นแบบจากวัดโสธรวรารามวรวิหาร ที่จ.ฉะเชิงเทรา บ้านเราเอง) เป็นงานที่ทำส่งอาจารย์ค่ะ ซึ่งใช้เวลาทำนานมากๆ ต้องศึกษาวิธีลงสีแม่น้ำ เงาสะท้อนของน้ำ และการลงสีท้องฟ้าที่สาดแสงลงมายังวัด ให้สามารถสื่อถึงอารมณ์ศักดิ์สิทธิ์ และยิ่งใหญ่ของวัดได้
   
 


 
 (c) 2009 Pantip.com All Rights Reserved.
คลิกที่นี่ หากท่านไม่ต้องการรับข่าวสารจากเราอีกต่อไป