คลิกชมคลิปวิดีโอ  

สวัสดีสมาชิกทุกท่าน

จากกิจกรรมประกวดภาพถ่าย หัวข้อ "คิดถึงเหลือเกิน" ที่เพิ่งผ่านไป ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รางวัลทั้ง 10 ท่านด้วยนะคะ ซึ่งจากจำนวนภาพถ่ายที่ส่งเข้ามาร่วมกิจกรรมทั้งหมด ทำให้เราได้เห็นภาพน่ารัก น่าประทับใจหลายต่อหลายภาพ ที่สำคัญยังได้เห็นภาพความสัมพันธ์ของคนต่างวัย ในครอบครัวเดียวกันได้น่ารักทีเดียว เพื่อนๆ อาจจะอยากรู้ที่มาที่ไปของภาพในเหตุการณ์วันนั้นใช่ไหมคะ

เพื่อเป็นการสนับสนุนสถาบันครอบครัว และใส่ใจผู้สูงอายุ The Espresso เลยหยิบยกครอบครัวของเจ้าของภาพถ่าย ได้แก่ คุณ ผมเองครับ , คิมบกชิว และ bluedogs2949 มาบอกเล่ากันเรื่องราวน่ารักๆ ที่เกิดขึ้น อาจจะเผลออมยิ้ม และทำให้คิดถึงคนในครอบครัวมากขึ้นก็ได้น้า ชมคลิปวิดีโอ

     



แก้มกอด วันนั้นน้องแก้มหลานอาม่าคนโตรับประกาศณียบัตรจบชั้นอนุบาลค่ะ อีกคนเป็นน้องกิ๊ฟ กลับจากการรับใบประกาศมาถึงบ้าน หลาน 2 คน ก็โผ่เข้ากอดจะหอมอาม่าค่ะ ตอนหลานอายุ 2 กับ 3 ปี เมื่อใดที่อาม่าว่างจากงานก็ไม่เคยละเลยที่จะสอนหลานๆ ร้องเพลงในหลวงทุกเพลง ท่องบทสวดมนต์เจ้าแม่กวนอิม ท่องสูตรคูณ เขียน ก.ไก่ ABC และอาม่าโอบกอด หอมแก้มหลานทุกครั้งที่หลานจะไปโรงเรียนหรือกลับจากโรงเรียน ตอนนี้อากงยังอยู่ ตื่นเช้ามาหลานๆ จะหอมอากงทุกวันค่ะ

แม่จะบอกน้องแก้มน้องกิ๊ฟเสมอให้รักและดูแลอากงเหมือนที่แม่รักและดูแลน้องแก้มน้องกิ๊ฟค่ะ อากงแก่ชราขาไม่มีแรง ก็ให้หลานๆ ออกกำลังกายแล้วให้อากงทำตาม ชวนอากงคุย หรือทำท่าทางตลกๆ ให้อากงได้มีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะค่ะ

deeriary ทุกๆ ปีวันเกิดอาม่า ป๊ากับม๊าจะพาเดียร์กับน้องชายไปแม่กลอง-สมุทรสงครามเพื่อกินเลี้ยงวันเกิดอาม่ากันในครอบครัว ในครอบครัวมีประมาณ 30 กว่าคน วันนั้น 4 กรกฏาคม 2551 ไปกินเลี้ยงกันก่อนที่อีกไม่กี่ปีจากนั้นอาม่าก็เริ่มเป็นอัลไซเมอร์ หลงลืม ในที่สุดอาม่าก็ป่วยหนัก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

วันนั้นไปกันที่ร้านชมเดือน อัมพวา ขณะที่ทุกคนกำลังกิน ทั้งผู้ใหญ่ พวกป๊าม้า หลานโต หลานเด็ก เดียร์มองไปที่อาม่าที่นั่งหัวโต๊ะ ไม่ค่อยมีใครชวนคุยด้วย

อาจจะเพราะอาม่าเป็นคนที่แก่ที่สุดคนเดียว แต่อาม่าก็นั่งยิ้มมองลูกหลานอย่างใจดี เดียร์เลยเอากล้องไปชวนอาม่าที่หัวโต๊ะถ่ายรูป อาม่าดีใจมาก อาม่าจัดท่าทางไม่ถูก รู้สึกจะเป็นน้องชายถ่ายรูปให้ เดียร์ก็ช่วยจัดท่าทางให้อาม่า ทุกคนลูกหลานมองมาที่เดียร์กับอาม่า ทุกคนหัวเราะครื้นเครงกันมีความสุข ที่หลานๆ มาชวนอาม่าถ่ายรูป จากนั้นลูกหลานอีกหลายคนมาชวนอาม่าชู 2 นิ้วถ่ายรูปกัน เชื่อว่าเป็นงานเลี้ยงที่อาม่ามีความสุขค่ะ

อากงอาม่ารักหลานมาก ตั้งแต่เล็ก ๆ ชอบจับหลานทีละคนไปกอด เรียกชื่อหลานๆ เดียร์เคยถูกเอาไปกอดไว้นานจนอึดอัด อากงอาม่าชอบเรียกชื่อเดียร์ไม่ชัด เป็น อาเลีย อาเลีย ตลอด ก็ตลกดีนะคะ พอเราโตขึ้น ท่านแก่ตัวลง ท่านจำชื่อหลานสลับกันไปหมดเลย น่ารักดีนะคะ คนแก่หลายคนก็คงเป็นแบบนี้ อยากให้นึกถึงวันที่ท่านดูแลอุ้มชูเรามาจนเติบใหญ่ ลูกหลานบางคนอาจจะเป็นความหวังเดียวของท่าน อย่าได้ทำให้ท่านผิดหวังเลย เห็นใจท่านบ้าง นึกถึงตัวเราบ้าง หากวันนึงเราแก่ตัวลงไปก็อยากให้มีลูกหลานใส่ใจเราเหมือนกัน คนแก่หลายคนกลัวการถูกทอดทิ้ง ดังนั้นอยากให้เห็นใจท่าน อยากให้เอาใจเขามาใส่ใจเรามาก ๆ ค่ะ ท่านอยากให้เรากลับมาหา มาให้ความรักมาดูแล เพราะเมื่อท่านแก่ตัวลงไปการช่วยเหลือตัวเองก็สามารถทำได้น้อยลงด้วยค่ะ การแสดงความรักไม่เห็นยากเลย แค่ให้เวลากับท่าน พาท่านไปกินข้าว ดูแลท่านตามอัตภาพค่ะ

~Yimlamai~ เรากำลังป้อนข้าวลูกชายอยู่คะ แล้วอากงเดินผ่านมาพอดี พอหลานเห็นเข้าก็ยกมือให้อุ้ม อากงก็เลยอุ้มตลอดมื้อนั้นเลยคะ อากงก็จะหยอก และเชียร์ให้หลานหม่ำๆ จนหมดถ้วยคะ เราเห็นเป็นภาพที่น่ารักมาก อดใจไม่ไหวเลยไปแช๊ะเก็บไว้ค่ะ

มีอยู่วันหนึ่งพาลูกไปค้างบ้านปู่-ย่า ไปค้างหลายวันจนคืนสุดท้ายก่อนกลับบ้าน ย่าก็เข้ามาเล่นด้วย (ปกติลูกจะนอนกับม้า) แล้วก็บอกว่ามาให้ย่ากอดหน่อยเดี๋ยวไม่ได้เจอกันอีกนาน หลานก็คลานไปให้กอด (ปกติจะออกแนวเรียกไม่ไปหา) แล้วก็ซบตักย่า แล้วก็ยิ้มซะ เป็นเหตุการณ์ที่ประทับใจค่ะ

ทุกวันนี้สังคมเราเป็นครอบครัวเดี่ยวมาก แต่เราต้องหาเวลาพาหลานไปหาปู่ย่า ตายาย เพราะลูกหลานคือน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจของท่านเหล่านั้น รักและดูแลท่านให้มากๆ ก่อนที่ท่านจะไม่อยู่กับเราค่ะ

 

 



khaiped วันนั้นก็เป็นวันที่พี่ๆ ที่แต่งงานออกไปแล้วมาหาที่บ้านค่ะ มาเยี่ยมอากงอาม่าและหลาน ทุกสุดสัปดาห์ คนที่ถ่ายรูปคือหลานสาว ทำท่ายิ้มหวานอยู่

เรื่องประทับใจมีมากมาย ทุกวันก็ว่าได้ เพราะเมื่อไหร่ที่เด็กๆ ทำอะไรที่แปลกใหม่ และตลกๆ อากง อาม่าก็จะหัวเราะ มีรอยยิ้มเกิดขึ้นมา อย่างเช่นเมื่อวันก่อน ซูโม่อยากกินน้ำแข็ง อาม่าก็เอาให้กินไป 2-3 ก้อน แล้วสักพักอาม่าก็ยกแก้วเดินหนีไป ซูโม่ก็ทำท่าจะร้อง แต่อาม่าเดินกลับมาพร้อมน้ำแข็งเต็มแก้วมากกว่าเดิม พอซูโม่เห็นเท่านั้น ก็หัวเราะ แล้วก็ตบมือใหญ่ อาม่านี่ขำก๊ากเลยคะ

ถ้ากับอากงก็มีอย่างเช่น ซูโม่แปรงฟันแล้ว ให้อากงดมซิว่าปากเหม็นมั้ย อะซูโม่ดมปากอากงมั้งซิ ซูโม่ก็จะปัดมือที่จมูกแล้วบอกเหม็นๆ ทั้งๆ ที่เพิ่งแปรงฟันมาเหมือนกัน

ท่านอายุมาก ทำอะไรก็ไม่ได้มาก การที่มีลูกหลานอยู่ด้วยก็ทำให้ท่านไม่เบื่อค่ะ อยากที่จะเห็นการเติบโตของหลาน เด็กหัวเราะท่านก็หัวเราะด้วย บางทีก็ทิ้งหลานไว้เล่นกับท่านบ้าง 10 นาที 15 นาที ท่านก็มีความสุขนะคะ

น้องนู๋ เด็ก ณ วันวาน น้องนู๋ฯ เกิด 17 ต.ค. 2545 หลังออกจากรพ.และอยู่บ้านเกือบ 1 เดือน ก็พาไปเยี่ยมยาย ซึ่งยายกับยายทวดอาศัยอยู่ใกล้ๆ กัน ก็เลยแวะเยี่ยมยายทวดด้วย สำหรับรูปยายทวดกับเหลนนี้ พอดีจังหวะวันนั้นมีกล้องถ่ายรูปไปด้วยเลยถ่ายมา และคิดว่าจะถ่ายคู่นี้อยู่บ่อยๆ เพราะคงจะได้เจอกันไม่นาน ก็ต้องจากกัน แต่ก็ไม่ได้พกกล้องไปตลอด แต่ก็มีรูปชุดนี้แค่ 4 รูป และมีอีกรูปหนึ่งหลังจากนั้นสัก 3 ปี แต่หาไม่เจอ ยายทวดเสียไปแล้วเมื่อปี 53 อายุ 96 ปี

 

หมู ภูดินแดง เท่าที่จำความได้นะครับ ภาพถ่ายที่ผมโพสต์นั้นถ่ายเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2511 ตอนผมอายุ 7 ขวบ ในภาพนั้น ประกอบด้วย คุณปู่จันทร์ นายจันทร์ วิภาวิน อดีตศึกษาธิการอำเภอวานรนิวาส (เสียชีวิตแล้ว) ผม (นั่งบนหลังควาย) อาต๋อง คนใส่เสื้อขาว (พงษ์พัฒน์ วิภาวิน ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) และอาเล็กคนที่ยืนหน้าอาต๋อง (สุรจิต วิภาวิน ปัจจุบันรับราชการทหาร) คนที่ถ่ายภาพเป็นพ่อผมเอง นายอวยพร วิภาวิน ผมกำพร้าแม่ตั้งแต่อายุ 2 ขวบ พ่อนำผมมาฝากให้ปู่และย่าเลี้ยงที่อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ตั้งแต่ พ.ศ. 2506 ปัจจุบันผมอายุ 51 ปี ผมเกิดเมื่อ พ.ศ. 2504 รับราชการครู ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนคำยางพิทยาคม อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร

 

 

 (c) 2009 Pantip.com All Rights Reserved.
คลิกที่นี่ หากท่านไม่ต้องการรับข่าวสารจากเราอีกต่อไป | ติดต่อทีมงาน