![]() ![]() |
![]() |
|||||||
สวัสดีสมาชิกทุกท่าน หลายวันก่อน มีคนถามว่า "ทำไมคนในเว็บบอร์ดชอบ ตามน้ำ" พฤติกรรมของมนุษย์นั้น มักเป็นไปตามบรรทัดฐานของกลุ่มที่ยอมรับกันทั่วไป อันที่จริงนั้น กลุ่มที่ "ไม่ตามน้ำ" ก็มีอยู่... มีทั้งกลุ่มที่เป็นตัวของตัวเอง และกลุ่มที่ชอบการต่อต้าน หากอาการ "ตามน้ำ" ไม่ได้เกิดจากการที่คนเรามีความคิดเห็นตรงกัน ก็คงเป็นวิธีที่คนเราใช้ในการป้องกันตนเอง และเลี่ยงความขัดแย้งได้อย่างหนึ่ง มนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคม อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่ม ถ้า "ความคิดเห็น" หรือ "วิธีการแสดงออก" ของใครต่างไปจากคนส่วนใหญ่ ก็คงไม่แปลกที่จะถูกเสียดสีหรือขับไล่ออกจากสังคม มีคนถามต่ออีกว่า "ทำไมกระทู้แนะนำมีแต่เรื่องไร้สาระ" กระทู้แนะนำจะเป็นเรื่องมีประโยชน์หรือน่าสนใจอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับสมาชิกส่วนใหญ่ในห้องนั้นต้องการ เมื่อคนคอเดียวกันมาอยู่ด้วยกัน คิดอย่างไรกระแสมันก็เป็นไปอย่างนั้น นี่แหละ รสชาติของเว็บบอร์ด ในมุมของสังคมออนไลน์ การคล้อยตามนั้นมีประโยชน์ในแง่ที่ทำให้สังคมนั้นเข้มแข็งและไม่ถูกดูดกลืน ...ข้อโต้แย้งต่างๆ มักถูกสรุปด้วยวิธีการไม่กี่อย่าง หากไม่ใช่การวิเคราะห์ อันมาจากการศึกษาหรือวิชาการแล้ว มนุษย์เราก็มักตัดสินเอาจากสามัญสำนึก ศีลธรรมจรรยา และวัฒนธรรมที่เป็นที่ยอมรับในสังคมนั้นๆ พบกันใหม่ฉบับหน้า
|
![]() |
![]() |
||||||
อัพเดตกิจกรรมการมอบเงินบริจาคของชาวพันทิปและ CLM Mag จากห้องเฉลิมไทย สมาชิกทั้งหมด 14 คน เดินทางไปยังโรงพยาบาลปศุสัตว์และสัตว์ป่า จ.กาญจนบุรี เพื่อมอบเงินบริจาคแก่มูลนิธิช้างแห่งประเทศไทย หน่วยงานที่ร่วมดูแลช้างพังกาญจนา เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ด้วยยอดบริจาคเงินรวมทั้งสิ้น 197,171.96 บาท คิรัว
สำหรับอาการของช้างพังกาญจนานั้น ได้รับการเยียวยาและฟื้นฟู ทั้งสภาพร่างกายและจิตใจได้ดีขึ้นมาก ไม่กลัวคนแล้ว แผลตามร่างกายก็ดีขึ้นมาก ขนาดลูกช้างในท้องที่โตขึ้นเป็น 2 เท่าจากการอัลตราซาวน์ครั้งก่อน รวมถึงมีการเต้นของหัวใจลูกช้างแล้ว" สำหรับสมาชิกท่านอื่นที่อยากช่วยช้าง สามารถติดต่อไปยังหน่วยงานอื่นๆ ได้ ในเรื่องของการทำกิจกรรม ทำโป่งเทียม อย่างเมื่อวันที่ 5 ก.ย. ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พาไปช่วยขนกระดูกช้างที่เสียชีวิตแล้วไปตาก คุณหมอหนุ่ยและคุณหมอเอกสิทธิ์ ก็พาไปศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยกาญจนบุรี "บ้าน ช.ช้างชรา" ไปปลูกพืชที่เป็นอาหารช้าง อาบน้ำให้กับช้างชรา ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 55-59 ปี ปัจจุบันศูนย์อนุรักษ์ช้าง บ้านช.ช้างชรา ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปจัดกิจกรรม เช่น แค้มป์ปิ้ง ปลูกพืชเลี้ยงช้าง อาบน้ำให้ช้าง เพื่อหารายได้เข้าศูนย์ หากสมาชิกคนใดสนใจปลูกป่าอาหารช้าง อยากใกล้ชิดกับช้าง ไม่ต้องการให้ช้างเข้ามาเร่ในกรุงเทพ ก็สามารถไปสนับสนุนได้ ตามความสมัครใจค่ะ" การเดินทางครั้งนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน
ซึ่งนอกจากจะได้เยี่ยมช้างพังกาญจนาแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิช้างแห่งประเทศไทยยังได้พูดคุย
ทำความเข้าใจ และให้ความรู้เกี่ยวกับช้าง ไม่ว่าจะช้างเร่ ช้างป่ากินผลผลิตของชาวไร่
และปัญหาอื่นๆ โดยเฉพาะปัญหาในเรื่องของช้างเร่ร่อนกับอาชีพควาญช้าง ซึ่งช้างที่ถูกนำมาเดินในเมืองนั้นที่จริงแล้วมีทั้งที่มีใบอนุญาตและผิดกฎหมาย
หลายคนมีมุมมองว่าควรจะนำช้างกลับสู่ภูมิลำเนา แต่อันที่จริงแล้วนั้นควาญช้างนั้นคืออาชีพหนึ่ง
อีกทั้งหญ้าที่อุดมสมบูรณ์นั้นมักอยู่ในแถบชานเมือง ความคิดที่ว่าจะจับช้างเร่ร่อนนั้นกลับถิ่นภูมิลำเนานั้นอาจไม่เป็นผลดีเสมอไป |
![]() |
|||||||
![]() |
![]() |
![]() |
||||||
![]() |
จากการที่ได้ตีพิมพ์หนังสือออกมาหลายเล่ม คุณเห็นอะไรเป็นปัญหาใหญ่ๆ
ของตลาดหนังสือไทยบ้าง เมื่อเทียบกับงานเขียนออนไลน์
ลวิตร์ เป็นไปได้ไหมที่จะมีการทำนิยายออนไลน์แบบเสียเงินอ่าน
...เพราะบางคนมองว่านิยายออนไลน์คือของฟรี พอต้องเสียเงินก็จะไม่อ่าน คุณคิดเห็นอย่างไร? ลวิตร์ ความคิดเห็นเกี่ยวกับวงการวรรณกรรมออนไลน์บ้านเรา
วัฒนธรรมของนักอ่าน เปรียบเทียบระหว่างการอ่านหนังสือเล่ม กับการอ่านออนไลน์ การอ่านหนังสือที่ตีพิมพ์เป็นเล่ม ผู้อ่านจะต้องเสียเงินซื้อหนังสือมาอ่าน ดังนั้นก็น่าจะมีการคัดเลือกและพิจารณา ในการซื้อหามากกว่า มีความคาดหวังมากกว่า แต่สำหรับนิยายออนไลน์ที่อ่านได้ฟรีนั้น ผู้อ่านย่อมมีความคาดหวังน้อยกว่า ยกเว้นกรณีที่ผู้เขียนเคยมีผลงานเก่าๆ ที่ดีมากมาก่อน หรือผู้เขียนที่เคยมีผลงานตีพิมพ์มาแล้ว นอกจากนั้นการที่อ่านฟรีนั้น ผู้อ่านย่อมสามารถเลือกอ่านได้มากกว่า หลากหลายมากกว่า" ลวิตร์ แล้ววัฒนธรรมของนักเขียนนิยายออนไลน์ล่ะ ถนนนักเขียนเมื่อก่อนกับปัจจุบันต่างกันไหม ลวิตร์ เคยสงสัยเหมือนกันว่าการเขียนงานออนไลน์
จะกระทบกับรูปแบบการเขียนไหม แต่ในที่สุดส่วนตัวก็คิดว่า ขึ้นอยู่กับพื้นฐานของคนเขียนเองมากกว่า
ถ้าคนเขียนเคยอ่านหนังสือเล่มมาก่อน ก็จะเขียนในรูปแบบเดียวกับหนังสือเล่ม
ถ้าไม่เคยหรืออ่านหนังสือเล่มน้อย แต่รู้สึกอยากเขียน ก็จะยึดติดกับรูปแบบน้อยกว่า
ในระยะหลังก็จะมีอีกกรณีหนึ่ง คนเขียนหนังสือที่อ่านหนังสือเล่มน้อย ก็เขียนแบบไม่ยึดติดรูปแบบ
และมีคนอ่านอ่านหนังสือสไตล์ไม่ยึดติดรูปนี้ พอเวลาเขียนก็จะพลอยกลายเป็นเขียนแบบเดียวกันไปด้วย
ไปๆ มาๆ จากที่ไม่มีรูปแบบ ก็อาจจะกลายเป็นรูปแบบใหม่ขึ้นมาก็ได้" ในรุ่นของคุณ ดูเหมือนจะเป็นช่วงที่มีนักเขียนออนไลน์
ผุดขึ้นมาไม่กี่คน คุณคิดเห็นอย่างไร จะแนะนำอะไรกับนักเขียนสมัครเล่นท่านอื่นๆ
เกี่ยวกับการเขียนเพื่อให้ประสบความสำเร็จ และมีโอกาสได้ตีพิมพ์? สำหรับนักเขียนที่ยังไม่เคยตีพิมพ์ผลงานมาก่อน
ก็แน่ใจได้ว่าจะมีผู้อ่านส่วนหนึ่งที่รู้จักและให้ความสนใจในผลงานชิ้นนั้นๆ
...ส่วนตัวคิดว่าเป็นสนามเริ่มต้นที่ดีมากค่ะ การเริ่มต้นงานเขียนง่ายที่สุด
คือเขียนในสิ่งที่รู้จริง เขียนในสิ่งที่อยากเขียน ห้ามลอกเลียนผลงานของคนอื่นเป็นอันขาด
ควรเขียนให้จบทีละเรื่อง เพราะจะทำให้เกิดกำลังใจว่าสามารถเขียนจนจบได้ ลวิตร์ ก่อนนี้เมื่อตัวเองเริ่มเขียนนิยายเป็นชิ้นเป็นอันใหม่ๆ นั้น ไม่มีความหวังเลยว่าจะได้พิมพ์ เพราะตลาดหนังสือไทยยังแคบกว่านี้ และยังไม่มีการตื่นตัวเรื่องช่องว่างทางการตลาดหลายๆ ช่อง ตอนนั้นเป็นสมัยที่มีเว็บบอร์ดนักเขียนแรกๆ คือ "ถนนนักเขียน" ของพันทิป ...คิดว่าการที่เราตัดสินใจโพสต์เรื่องลงในบอร์ดพันทิปในตอนนั้น เป็นเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เราสามารถเขียนต่อมาจนถึงตอนนี้ได้ ตอนนั้นถ้าหากไม่โพสต์ ก็ไม่เกิดปฏิสัมพันธ์กับคนอ่านอื่นๆ ไม่ทราบว่าจะมีคนอ่านเรื่องอย่างนี้หรือไม่ ไม่ทราบว่านิยายของเราดีหรือไม่ดี การโพสต์ทำให้เราสามารถมีตัวตนในโลกของการเขียนได้ แม้ว่าจะไม่ได้ตีพิมพ์ ก็ยังไม่ต้องเก็บไว้อ่านเอง สมัยก่อนจะมีอินเทอร์เน็ต คงมีคนหลายคน ที่ปล่อยให้ความอยากเขียนของตัวเองตายไป เพราะไม่รู้ว่าจะแสดงมันออกมา ให้คนอื่นเห็นได้อย่างไร อีกอย่างหนึ่งก็คือ เว็บบอร์ดเป็นที่ที่ให้อิสระเกือบเต็มที่ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องกลัวการทดลอง คงคล้ายๆ กล้องดิจิตอล ที่ทำให้คนถ่ายรูปมากขึ้น จนถึงเดี๋ยวนี้ เราก็ยังใช้บอร์ดเป็นที่ทดลอง ทำอะไรเล่นใหม่ๆ เพื่อจะดูว่าคนอ่านจะว่าอย่างไรเสมอ อินเทอร์เน็ตมีส่วนสำคัญที่ทำให้ตลาดหนังสือโตขึ้น คงมีคนไม่น้อยบ่นเรื่องตลาดหนังสือทุกวันนี้ แต่คิดว่าเราควรจะมองดีๆ และมองยาวๆ ไม่มีอะไรที่จะหยุดอยู่กับที่ได้ และไม่มีอะไรที่จะอยู่ถาวรตลอดไป แต่อะไรที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ก็แสดงว่ามันคงทนอยู่กับที่ไม่ได้ เมื่อมันคงทนอยู่ที่ไม่ได้ เราก็ควรจะมองมันอย่างฉลาด มองด้วยความเข้าใจให้ถึงแก่น ไม่ใช่หวาดกลัวจึงไม่กล้ามอง มองว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งคุกคามต้องติเตียนไว้ก่อน หรือมองว่าเป็นเรื่องเฉพาะหน้าอย่างเดียว เชื่อว่าไม่ว่าเป็นสถานการณ์อะไร หรืออยู่ที่ไหน ทุกคนจะได้ผลดีร่วมกันหมด ถ้าหากเรามองอะไรยาวๆ ถามว่าข้อเสีย มีอย่างไร เท่าที่เห็นมา ก็มีหลายกรณี ถามใครๆ ก็ตอบได้ อินเทอร์เน็ตทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า "ความมั่ว" (chaos) อย่างยิ่งขึ้นมา เป็นพื้นที่ที่ควบคุมได้ยาก เกิดพฤติกรรมทั้งดีทั้งเลวขึ้นมาปะปนกันไปหมด แต่ก็คิดว่า การให้อิสระก็ดีกว่าการบังคับไว้จนไม่มีอะไรโตเลย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย.." |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
||||||
"ถนนนักเขียน" มุมเล็กๆ ภายใต้สภากาแฟแห่งใหญ่ของพันทิป ที่นี่เปรียบเสมือนคลังงานเขียนและบทประพันธ์ และแหล่งรวมตัวของเหล่านักเขียนและนักอ่าน ทั้งนักเรียน นักศึกษา รวมถึงบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพ เข้ามาพูดคุย นำเสนอผลงาน แลกเปลี่ยนความเห็น และวิพากย์วิจารณ์งานเขียน ...อย่างที่หลายๆ คนได้ให้คำจำกัดความที่แแห่งนี้ไว้ว่าเป็น "แหล่งเพาะพันธุ์นักเขียนหน้าใหม่" ...กฎกติกามารยาทของถนนนักเขียน มีอยู่ว่า ห้ามแตกงานเขียนเกิน 1 กระทู้ เพื่อไม่ให้นักเขียนเสียโอกาสในการแสดงผลงาน และนักอ่านก็จะไม่เสียโอกาสในการได้อ่านผลงานดีๆ ห้องถนนนักเขียนจึงไม่เหมือนห้องอื่นที่กระทู้ตกเร็วมาก The Espresso ฉบับนี้ชวนมาพูดคุยกับสมาชิก 2 ท่าน ท่านแรก "ดร.ภูวดี ตู้จินดา" เจ้าของล็อกอินและนามปากกา "Clear Ice" งานเขียน บทความ และงานแปลของเธอ ปัจจุบันถูกตีพิมพ์กว่า 30 เรื่องในหลายสำนักพิมพ์ เส้นทางงานเขียนของเธอนั้น เริ่มต้นจากห้องถนนนักเขียนเมื่อ 9 ปีก่อน ตั้งแต่การเขียนบทกลอน พัฒนามาเป็นเรื่องสั้น และเรื่องยาว โดยนิยายเรื่องยาวเรื่องแรกเธอ ที่เขียนและได้รับความสนใจ คือเรื่อง ฝากรักไว้...ในใจเธอ อีกท่านหนึ่ง คือ "พัณณิดา ภูมิวัฒน์" หรือเจ้าของล็อกอินและนามปากกา "ลวิตร์" เธอเล่าว่าชอบการเขียนหนังสือตั้งแต่อยู่ป.4 และเป็นสมาชิกพันทิปตั้งแต่อยู่ม.6 (เกือบสิบปีแล้ว) ใช้พื้นที่ถนนนักเขียนในการโพสต์งานเขียนของตัวเอง นิยายแนววิทยาศาสตร์ชื่อ "ฯพณฯแห่งกาลเวลา" (ภัทรกาลกัป) เป็นนิยายเรื่องแรกของเธอที่เขียนลงในถนนนักเขียน เมื่อประมาณสิบปีก่อนสมัยที่หน้าเว็บบอร์ดยังเป็นสีดำ ปัจจุบันเธอมีหนังสือนิทาน แฟนตาซี นิยายวิทยาศาสตร์ และเล่าเรื่องตำนานเทพเจ้า ที่ถูกตีพิมพ์รวมแล้ว 12 เรื่อง เกือบทุกเรื่องล้วนเคยถูกโพสต์ลงในถนนนักเขียนพันทิป ก่อนจะนำไปตีพิมพ์ เริ่มเลยดีกว่า... ใช้เวลาช่วงไหนอ่านหนังสือ? ลวิตร์ : "ไม่มีเวลากำหนดแน่นอน อยากอ่านเมื่อไหร่ก็อ่านเลย (ถ้าไม่ใช่เวลาทำงาน) เป็นคนชอบอ่านหนังสือค่ะ" ในแต่ละวันใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเยอะไหม? ลวิตร์ คุณมีแฟนคลับงานเขียนออนไลน์หรือไม่ วันหนึ่งใช้เวลากี่ชั่วโมง
ในการคุยกับคนที่เขียนทักทายเข้ามาในเว็บ ลวิตร์ นักเขียนยุคใหม่มักทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ ต่างจากเมื่อก่อนที่ใช้มือเขียน
แล้วคุณล่ะ?
ลวิตร์ คุณมีเวลาที่เหมาะสมของตัวเองในการสร้างสรรค์งานเขียนไหม.. ก่อนนอน
หรือว่าตอนตื่นเช้า? ลวิตร์ เขียนนิยาย ประสบการณ์ตรงจำเป็นไหมสำหรับการสร้างสรรค์งาน? ลวิตร์ นิยายออนไลน์มักมีปัญหาเรื่องก็อปปี้หรือลอกเลียน
คุณเคยลอกงานเขียนของคนอื่นไหม? ลวิตร์ มีคนบอกว่า การเขียนลงเว็บมีความเสี่ยงในการถูกก็อปปี้หรือลอกเลียนไอเดีย
จึงควรเก็บไว้แล้วเอาไปเสนอสำนักพิมพ์โดยตรงจะดีกว่า คุณมีความคิดเห็นอย่างไร? ลวิตร์
|
||||||||
![]() |
||||||||
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
(c) 2009 Pantip.com All Rights Reserved. |