สวัสดีสมาชิกทุกท่าน

ย้อนหลังไปเมื่อหลายสิบปีก่อน.. การค้นหาเบอร์โทรศัพท์ใครสักคน ทำได้ด้วยการเปิดหาในสมุดหน้าเหลือง แต่วันนี้.. ทุกคนรู้ว่า เพียงแค่พิมพ์ชื่อของใครบางคนลงในกูเกิล เราก็อาจจะพบทั้งที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรืออะไรอื่นๆ ที่จำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับบุคคลคนนั้น

จะเกิดอะไรขึ้นถ้า กูเกิล กับ เยลโล่เพจเจส แต่งงานกัน

จะเป็นอย่างไร หากเรื่องส่วนตัวของคุณถูกจับตามอง ประวัติเก่าๆ ของคุณถูกขุดคุ้ยโดยคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน

เสิร์ชเอ็นจิ้นอย่างกูเกิลเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการค้นคว้าหาข้อมูล ทั้งทางธุรกิจ การศึกษา เทคโนโลยี บันเทิง รวมถึงเป็นตัวช่วยในการค้นหาเว็บไซต์ ไฟล์เอกสาร แผนที่ ข้อมูลมหาศาลถูกเก็บบันทึกไว้รอให้คุณมาเรียกใช้ ทั้งยังเข้าถึงได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าใครก็สามารถค้นหาข้อมูลได้ทุกซอกมุมราวกับเป็นนักสืบ

อย่างไรเสีย มันก็มีประโยชน์ หลายคนคิดว่าตัวเองคงอยู่ไม่ได้แน่ถ้าไม่มีกูเกิล คำกล่าวที่ว่าเรียนจบได้เพราะกูเกิลเลยก็มีให้เห็นกันมาแล้ว

โลกแคบลงในขณะเดียวกับที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าขึ้น เมื่อเราไม่สามารถจำกัดขอบเขตความสามารถของเสิร์ชเอ็นจิ้นเหล่านี้ได้ การป้องกันที่ดีที่สุด คือการไม่นำข้อมูลสำคัญส่วนตัวไปวางบนพื้นที่สาธารณะ

The Espresso ฉบับนี้เมล็ดกาแฟคั่วในระดับเข้ม คงต้องขอให้สมาชิกทุกท่านอ่านแบบใส่นม และเติมน้ำตาลกันเอาเอง

พบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ

 

* เสนอแนะ ติชมในส่วนของรูปแบบและบทความของ The Espresso ฉบับต่อๆ ไป
ติดต่อผ่านทางอีเมล sayanan@pantip.com

* แนะนำบริการหรือแจ้งปัญหา Cafe & BlogGang ติดต่อผ่านช่องทางใหม่ได้ที่ คลิก


What's on
- Feature ใหม่หน้ากระทู้ Add to สำหรับ Share/Save/Bookmark กระทู้เข้าเว็บต่างๆ

กระทู้กิจกรรมสมาชิก

- กระทู้ขอความเห็น ถ้าจะจัด Meeting ชาวเฉลิมไทยและชาวเฉลิมกรุงร่วมกัน คลิก

- ร่วมประมูลการกุศล เพื่อระดมทุนช่วยเหลือสุนัขจรจัด โครงการสี่ขาหนึ่งหางไม่ต่างกัน คลิก


      กระทู้กิจกรรมที่สมาชิกพันทิปใจบุญหลายท่านให้การสนับสนุน บ่อยครั้ง คือกระทู้ช่วยเหลือสัตว์จากห้องจตุจักร Hilight ฉบับนี้ แนะนำและทำความรู้จักกับ กล้วยไม้สีเงิน สมาชิกอมยิ้มอีกท่านหนึ่ง ผู้เสียสละและอุทิศตัวให้กับการช่วยเหลือสัตว์สี่ขามาโดยตลอด

      กล้วยไม้สีเงิน : "น่าจะ 2 ปีแล้วที่เล่นพันทิปห้องจตุจักร เมื่อก่อนนั้นก็เป็นเพียงแค่บัตรผ่าน แต่ความที่เป็นคนชอบช่วยเหลือสัตว์อยู่ประจำ ให้อาหาร หรือเจอสุนัขประสบอุบัติเหตุ ก็ใช้เงินส่วนตัวพาไปรักษา

      เคสหนึ่งที่เรารู้สึกว่าเป็นเหมือนจุดเปลี่ยนพันทิปห้องจตุจักร คือเคสของ "บุญช่วย" สุนัขตัวเล็กสีขาว เมื่อช่วงวันแม่ราวๆ 2 ปีก่อน มีนักศึกษาคนหนึ่งมาโพสต์กระทู้เกี่ยวกับ สุนัขที่อาการโคม่าอยู่ตรงกองขยะร้างแถวจตุจักร น้องที่มาโพสต์กระทู้บอกว่าจับสุนัขไม่เป็น อยากให้คนมาช่วย ตอนนั้นมีแต่คนในพันทิปไปด่าน้องว่าทำไมมาโพสต์กระทู้ ทำไมเห็นแล้วไม่ไปช่วยเอง มีแต่คนไม่เชื่อหาว่าเอาเรื่องโกหกมาโพสต์ ด้วยความสงสัยเราก็โทรไปหาน้องแล้วก็พากันออกไปดูสุนัขตอนตี 2 กว่า ตอนที่เห็นมันน่าสงสารมาก ตัวผอม ให้ทานอะไรก็จะถ่ายออกมาหมด ใครเห็นก็ต้องคิดว่ามันคงไม่รอดแล้ว แต่เราก็พาไปส่งรพ. รวมถึงโทรถามข้อมูลคนอื่นๆ ในพันทิป หลังจากนั้นคุณเยาว์ (แม่เก็บตก) ก็นำไปอุปการะต่อ ไปรักษา มีเพื่อนในพันทิปมาช่วยพาไปนวดสมุนไพร ทำกายภาพบำบัด จนมันหายดี เริ่มลืมตา ชูคอ เป็นเคสที่รู้สึกได้ว่า เป็นครั้งแรกที่หลายคนในพันทิปเข้ามามีส่วนร่วมจริงๆ จากจุดนี้เองก็เลยสมัครสมาชิกมีล็อกอิน แล้วก็ช่วยอย่างจริงจังมากขึ้น เคสใหญ่สุดที่เคยช่วยคือที่ Central World ตอนที่มีเรื่องการเรียกจับสุนัขของกทม. ครั้งนั้นช่วยได้ถึง 19 ตัว

      ห้องจตุจักรเป็นเหมือนช่องทางในการหาบ้านให้สุนัข โดยเฉพาะสุนัขที่ประเวศ หลายคนช่วยได้เยอะมาก เข้ามาอ่านแล้วก็ติดต่อมา ส่งรูปมาให้ สุนัขที่ประเวศที่พบนั้นจะเป็นสุนัขที่มีปัญหา ด้อยโอกาส เพราะที่นั่นมีสุนัขกว่าพันตัวแต่มีคนดูแลแค่ไม่กี่คน อาหารการกินก็ไม่ดีต่อสุขภาพ อยู่ในที่แคบ สุนัขพันธุ์เล็กบางทีก็โดนทำร้าย บางตัวเป็นโรค คนส่วนใหญ่ที่รับอุปการะนั้นถือว่าใจถึง และเป็นผู้เสียสละจริงๆ

      ใครที่เลี้ยงสุนัขแล้วเบื่อ ไม่อยากให้คิดว่า เลี้ยงไม่ไหวแล้วจะนำไปทิ้งที่ประเวศ อย่าคิดว่าอยู่ที่นั่นแล้วมันจะสบาย สุนัขป่วยนั้นจะไม่มีการรักษา อีกทั้งตอนนี้ไม่มีนโยบายทำหมันให้สุนัขแล้ว แค่แยกตัวผู้ตัวเมียเท่านั้น ถ้าเบื่อสุนัขไม่อยากเลี้ยงต้องการให้ช่วยจริงๆ ก็ติดต่อมาที่ห้องจตุจักร รับรองว่ามีสมาชิกใจบุญอีกมาก ที่อยากเป็นคนกลางในการประสานงานให้ อย่างทีมงาน "บัญชีฉุกเฉิน" ก็ขอชื่นชมว่าเป็นทีมงานที่แน่นและจ่ายหน้าที่งานค่อนข้างเคลียร์ ทำให้เรารู้สึกสบายใจในการบริจาคเงินซึ่งเป็นเงินเพื่อการรักษาจริงๆ

      สำหรับคนที่อยากเลี้ยงสุนัข อยากให้หาอ่านกฎทองของสุนัข 10 ประการ และให้คิดก่อนว่า "คุณจะอยู่กับมันได้ถึง 10 ปีไหม?" สุนัขต้องการความอบอุ่น ต้องการมือที่คอยไปลูบหัวมัน ส่วนคนที่เกลียดสุนัขก็ขออย่าทารุณ สุนัขบางตัวคนเข้าใจว่ามันเป็นพิษสุนัขบ้าทั้งๆ ที่ลักษณะยังดีอยู่ ขอให้สังเกตอาการก่อน ให้คิดว่ามันมีชีวิตมีความรู้สึก"

      ท้ายสุดของการสนทนา คุณกล้วยไม้สีเงิน ยังได้ฝากขอบคุณสมาชิกชาวจตุจักรทุกคน ที่ทุ่มเทช่วยเหลือ พร้อมกับย้ำว่าไม่ใช่แค่ห้องจตุจักร แต่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะช่วยชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ได้ เธอบอกว่าที่จริงแล้วการช่วยเหลือสุนัขนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นสุนัขในกระทู้เด่นกระทู้แนะนำ ..ขอโอกาสให้สุนัขตัวอื่น ในกระทู้เล็กๆ ข้างล่างบ้าง http://www.pantip.com/cafe/jatujak

 
 

วิธีการสืบค้นข้อมูลในแบบของคุณ

      ว่านน้ำ : "ก็ไม่ได้มีอะไรมากค่ะ เสิร์ชเอ็นจิ้นก็ Google ธรรมดานี่แหละ คิดซะว่าเหมือนเราเล่นเกมปริศนา พอได้ Clue อันหนึ่งมาเราก็เอาไปค้นหาอันอื่นต่อ ดูว่ามันเชื่อมโยงกันยังไงได้บ้าง ทุกเคสก็ช่วยกันหลายๆ คนค่ะ พอโพสต์ลงกระทู้ก็จะได้มุมมองหลากหลายมากขึ้น บางท่านเป็นบัตรผ่านด้วยซ้ำ แต่มุมมองที่น่าสนใจมาก"

      ปลากวน : "แน่นอนว่าเสิร์ชเอ็นจิ้นอย่าง Google มีประโยชน์มากในการค้นหาข้อมูล แต่ก็ต้องตรวจสอบลงลึกไปเป็นกรณีๆ เพื่อแยกแยะให้ออกก่อนว่าใครเป็นใคร มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องแค่ไหน เพื่อจะได้กลั่นกรองความสำคัญและความน่าเชื่อถือที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การค้นหาจากในเน็ตอาจจะไม่เพียงพอ อาจจะมีข้อมูลอะไรที่ถูกบิดเบือน หรือคนเผยแพร่อาจจะไม่ตั้งใจบิดเบือนหลอกลวง แต่อาจจะถูกหลอกมาอีกทีหนึ่งก็เป็นได้ อย่างเช่นพวก Forward Mail ต่างๆ ที่ต้องพิจารณาให้มากๆ คือความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อย อาจจะทำให้ความหมายโดยรวมผิดไป การแอบอ้างลักไก่กันเพียงนิดเดียว อาจจะสร้างความชอบธรรมที่ใหญ่โตได้ และการปิดบังพูดแต่ในด้านดี อาจจะกลบเกลื่อนคำโกหกคำโตที่ซ่อนอยู่"

กับประเด็นที่มีหลายคนมองว่าคุณเป็นนักสืบ

      ว่านน้ำ : "เคสส่วนมาก ว่านมักไม่ใช่คนที่จุดประเด็นเอง แต่เป็นเหมือนคนที่ช่วยเอาประเด็นมาตีแผ่ และสานต่อมากกว่า แต่อาจจะเพราะว่านเป็นคนที่มีสำนวนการเขียนค่อนข้างเร้าใจในบางอารมณ์ เลยทำให้คนจดจำได้มาก ว่านอยู่พันทิปมานาน ถึงจะไม่ใช่รุ่นแรกๆ แต่ก็เล่นพันทิปอย่างสม่ำเสมอ เปลี่ยนห้องประจำไปเรื่อยๆ ตามความสนใจ อย่างสมัยเรียนก็จะเป็นจตุจักร เฉลิมไทย พอทำงานก็เน้นสีลม โต๊ะเครื่องแป้งมากขึ้น พอคิดจะมีบ้านก็มาอยู่ชายคา ตอนนี้ก็ก้นครัวกับ BP ว่านได้อะไรจากพันทิปไปเยอะมาก คำว่าได้ในที่นี้ ไม่ใช่เรื่องของเม็ดเงินหรือผลประโยชน์ แต่เป็นในเรื่องของความรู้ จุดเริ่มต้นของความรู้ความสนใจหลายๆ อย่างของว่านมาจากพันทิป ยิ่งอยู่มานาน ผ่านหลายช่วงของชีวิตมาด้วยกัน ก็ทำให้เกิดความผูกพันกับที่นี่ค่อนข้างมาก เวลาเห็นอะไรที่น่าสงสัย ก็จะคิดว่าให้คนอื่นช่วยกันดูช่วยกันตรวจสอบ มันก็เหมือน pay it forward ค่ะ เราได้อะไรดีๆ จากที่นี่มา เราก็อยากตอบแทนสังคมพันทิปเหมือนกัน

      เรื่องราวที่เราได้รับรู้นั้น ไม่อยากให้มองว่าเป็นเรื่องหลอกลวงไปวันๆ หรือไม่เกี่ยวกับเราก็ไม่เห็นเป็นไร อยากให้มองและใช้สติวิเคราะห์มากกว่าว่า "แค่นี้ยังทำกันได้" แล้วที่ยิ่งกว่านี้ล่ะ ? วันนี้มันเกิดขึ้นกับคนอื่น แต่วันนึงมันอาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณก็ได้ เช่นเรื่องหลอกให้โอนเงินทางเอทีเอ็ม เรื่องล่อซื้อจับลิขสิทธิ์ พวกนี้เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณทั้งนั้น กลั่นกรองให้ดีรับรู้ให้มาก ก็ทำให้ทันเกมมิจฉาชีพอยู่แล้ว แต่ในเรื่องบางเรื่อง ที่เผินๆ เหมือนจะ "ดูดี" ก็อยากจะให้ฉุกคิดไว้บ้าง.. คนใช้เน็ตมากขึ้น ง่ายขึ้น.. คนที่เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ก็มากขึ้นตามไปด้วย"

สิ่งที่อยากฝากถึงสมาชิกคนอื่นๆ

      ว่านน้ำ : "ที่อยากฝากไว้จริงๆ กับสังคมพันทิปปัจจุบันนี้ ก็แค่ว่า "อย่าแห่ตามกันไป" พูดง่ายๆ ก็คืออยากให้มี "สติ" ให้มาก เวลาเห็นอะไรน่าสงสาร เช่นมีคนมาตั้งกระทู้ว่ากำลังลำบาก ลงเบอร์บัญชีธนาคารไว้ อย่าพึ่งน้ำหูน้ำตาไหลรีบรี่ไปโอนเงินให้.. อยากให้ช่วยกันตรวจสอบก่อน เวลาเห็นอะไรไม่เข้าที มันดูแล้วว่าแปลกพิกลยังไง จริงๆ ก็ใช้สิทธิ์ของคุณเอง ตั้งกระทู้สอบถามได้ แต่ควรอยู่บนบรรทัดฐานว่าชัดเจน สุภาพ ไม่หยาบคาย และมีหลักฐานแน่นหนาพอที่จะสนับสนุนถึงข้อสงสัยของคุณ ตัวคนที่ถูกสงสัยเองก็ไม่ควรตีโพยตีพาย น้อยใจ.. ในเมื่อตัวคุณไม่ชัดเจนพอ ก็ไม่แปลกที่จะมีคนสงสัย ถ้าคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์ใจ ก็ว่ากันไปตามหลักฐาน ดีซะอีก จะได้เป็นเครื่องยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจของคุณจริง รวมถึงคนที่ตั้งกระทู้ถามเองด้วยต้องหนักแน่น และมีหลักฐานพอในระดับหนึ่ง พูดง่ายๆ ว่าทำอะไรไป ก็ต้องพร้อมรับผลที่จะตามมาทั้งสองฝ่าย กระทู้ก็คือกระทู้ ย่อมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและมาเสนอข้อโต้แย้ง คนที่มาอ่านเขาก็เห็นเองว่าอะไรเป็นอะไร เชื่อว่าสังคมพันทิปยังเข้มแข็ง และยังมีสมาชิกที่มีวิจารณญาณมากพอ"

      "มีสติ-ระวังได้ แต่อย่าระแวง" ว่านน้ำเธอทิ้งท้ายไว้อย่างนี้

 
 

      คำว่า "อินเทอร์เน็ต" ในวันนี้คงไม่ได้ถูกจำกัดความอยู่แค่สื่อที่เป็น New Media อย่างเดียวแล้ว หากแต่มันได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของพื้นที่สาธารณะแห่งใหญ่ ที่มีบทบาทในการสร้างสรรค์และชักนำความคิดสังคมไปในทางต่างๆ เรากำลังพูดถึง "ชุมชนออนไลน์" แหล่งรวมกลุ่มของผู้ที่มีความสนใจร่วมกัน

      "พันทิปคาเฟ่" สภากาแฟแห่งใหญ่ มีผู้แวะเวียนมาพบปะสนทนากันอย่างคึกคัก ที่แห่งนี้เต็มเกลื่อนไปด้วยความคิด ประสบการณ์ เรื่องราวส่วนตัวและความรู้ต่างๆ ถูกแบ่งปันให้กับผู้อื่น ในขณะเดียวกันมันเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง มีข้อมูลข่าวสารไหลเวียนและถูกผลิตใหม่อยู่ตลอดเวลา ผ่านหน้ากระทู้ ที่ผู้ใช้สามารถสวมบทบาทได้ทั้งผู้ส่งสารและผู้รับสาร

      ในฐานะผู้เสพผู้รับสาร คุณมีการกลั่นกรองข้อมูลที่ล้นทะลักเหล่านี้อย่างไร? ข่าว เรื่องราว เหตุการณ์ ข้อเท็จจริง และความคิดความเห็นต่างๆ ก่อนตัดสินใจเชื่อ คุณแน่ใจแค่ไหนว่ามันถูกส่งมาอย่างถูกต้อง ไม่ได้ถูกบิดเบือน? การวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลเป็นสิ่งที่คุณเคยให้ความสำคัญหรือไม่?

      The Espresso ฉบับนี้พูดคุยกับสมาชิก 2 ท่าน เกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูลของชาวชุมชนออนไลน์ ในแง่ของการตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร ในฐานะผู้รับสาร

อ่านกระทู้ทุกวัน มีการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารอย่างไร?

      ว่านน้ำ : "ในชีวิตจริง วันหนึ่งๆ เราพูดคุยกับคนกี่คน 5 คน 10 คน 20 คน? เรารับรู้เรื่องราวหลอกลวงจากคนในโลกจริงได้น้อยกว่า แต่ในพันทิป ที่นี่เราอาจจะได้รับฟังเรื่องราวหลอกลวง จากคนนับแสนคนที่มาชุมนุมอยู่ที่นี่ อาจจะแค่ 1 เรื่องต่อวัน ผ่านไปซัก 3 เรื่อง 3 วัน ก็รู้สึกว่ามากแล้ว เมื่อเราออนไลน์เชื่อมต่อกับโลกไซเบอร์ เราจึงควรมีสติในการที่จะฉุกคิด และพิจารณากับสารที่ถาโถมเข้ามา

      ถ้าพันทิปเป็นสังคมที่ต่างคนต่างอยู่ มีแต่คนเข้ามาเพื่อถ่มถุย พล่าม ระบายออกและจากไป คงไม่มีเรื่องราวหลอกลวง ซ่อนกล ฉ้อฉลใดๆ สามารถเกิดขึ้นได้ แต่เพราะพันทิปเป็นเว็บบอร์ดที่น่าจะเรียกได้ว่า เป็นชุมชนไซเบอร์ ที่มีโครงสร้างทางสังคมที่เข้มแข็ง และใหญ่ที่สุดในเมืองไทยมากกว่า เลยเป็นเหมือนภาพจำลองของสังคมจริงที่เกิดขึ้น และเป็นภาพจำลองที่ควบแน่นเข้ามาค่อนข้างมาก"

      ปลากวน : "การตรวจสอบและตีแผ่ข้อเท็จจริงสำหรับผม ไม่ใช่เรื่องที่ทำเล่นๆ เพื่อความสนุกสะใจ หรืออยากปกป้องผดุงความยุติธรรม เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่จะกำจัดความไม่ถูกต้อง การหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบกันในสังคม ให้หมดไปได้ มันจะต้องมีคนที่คิดจะหลอกลวงผู้คน เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวเกิดขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างน้อยเราไม่นิ่งดูดาย เห็นความไม่ชอบมาพากล เห็นพวกค้าขายมิชอบหลอกลวงผู้บริโภคอยู่ฝ่ายเดียว จริงอยู่ที่เราอาจจะเข้าไปปราบปรามพวกนี้ให้หมดไปไม่ได้ แต่เราสามารถหยิบยื่นข้อเท็จจริงให้ผู้บริโภคด้วยกัน ได้รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมกลโกง และหาทางรับมือได้

      เหมือนเราผ่านไปเห็นคนกำลังตีกัน คนหนึ่งถือไม้ในมือ อีกคนไม่มีอาวุธอะไรโดนไม้ตีเอาๆ อยู่ฝ่ายเดียว บางคนอาจจะนิ่งดูดายไม่ใช่เรื่องของตน คนโดนตีซวยเองช่วยไม่ได้ บางคนอาจจะปราดเข้าไปช่วย และอาจจะพลอยเจ็บตัวไปด้วย บางคนอาจจะแจ้งตำรวจ แต่กว่าตำรวจจะมาคนโดนตีก็คงอ่วมไปแล้ว สำหรับผมคงไม่พุ่งเข้าไปกั้น หรือเข้าไปร่วมวงตีกับเขา แต่ผมจะโยนอาวุธให้กับทั้งสองฝ่าย อาวุธที่ว่าก็คือ ข้อเท็จจริงที่ตีแผ่ออกมา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าจะใช้อาวุธที่หามาได้นี้อย่างไรให้เกิดประโยชน์"

 
 (c) 2009 Pantip.com All Rights Reserved.
คลิกที่นี่ หากท่านไม่ต้องการรับข่าวสารจากเราอีกต่อไป | ติดต่อทีมงาน