ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นขอกางแผนที่ให้ดู เพื่อทบทวนความจำจากตอนที่แล้ว... ผ่านมาตั้งสิบวันน่ะ.. คือ หลังจากพาเดินสำรวจสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ฝั่งไทย เสร็จแล้ว ภาระกิจต่อไปก็คือ นั่งรถไฟข้ามไป สปป.ลาว ก่อนอื่นก็ต้อง ทำเอกสารผ่านแดน อันมีจุดให้ทำหลายแห่ง แต่ที่ราคาถูกก็คือ ศาลากลาง จังหวัดหนองคาย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟหนองคายมากนัก  (ทีแรก ดูจากแผนที่ นึกว่าอยู่ใกล้ขนาดเดินได้ แต่พอไปจริงๆ ไม่ใกล้เท่าใดนัก แถมเส้นทางยังวกวนเข้าหมู่บ้าน แล้วโผล่มาถึงสถานีรถไฟแบบคาดไม่ถึงจริงๆ) จากแผนที่ข้างล่าง แสดงเส้นทางเดินรถ(ของกระผม) ด้วยเส้นสีชมพู จากเชิงสะพานมิตรภาพ ตรงผ่านโรงแรมที่พัก ไปผ่านหน้าตลาดท่าเสด็จ ด้วยความที่อยากเห็นว่าเป็นอย่างไร คุณตาท่านก็อยากไปเดินซื้อของ แต่พอผ่านไปจริงๆ กลับไม่ได้ลง เพราะคนเยอะ รถติด หาที่จอดรถไม่ได้ และที่สำคัญ อากาศตอนนั้นร้อนมากๆ แถมคาดว่าไม่มีเหลือที่จะไปขึ้นรถไฟแน่นอน เลยตัดสินใจผ่านไปก่อน เพราะถึงอย่างไรก็จะต้องข้ามไปฝั่งโน้นอยู่แล้ว เลยวกรถกลับมาศาลากลางจังหวัดเลย โดยผ่านแยก(ใกล้)อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ เลี้ยวซ้ายมาถนนสายอุดร แล้วกลับรถเข้าไปศาลากลางอีกที จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 14:50:10

ความคิดเห็นที่ 2 มาเข้าโหมดปกติ เพื่อดูภาพกันเลยดีกว่า (โหมดแผนที่ บางคนอาจไม่ชอบ ดูแล้วไม่สนุก...อิอิ)   ภาพบน : ตอนนี้ผ่านโรงแรมที่พักมาเล็กน้อย จะมีป้ายบอกเส้นทางข้างหน้าว่าไปที่ไหนกันได้บ้าง  ในภาพด้านขวา จะสังเกตุเห็นทุ่งหญ้ารกๆ นั่นแหละ คือบริเวณปลายราง สถานีตลาดหนองคาย(เก่า) ที่เคยเป็นจุดที่หัวจักรรถไฟไปกลับตัว..เอ๊ย...ไปตั้งต้นมามาเปลี่ยนรางเพื่อไปต่ออีกด้านของขบวนรถไฟ กันจะพาขบวนรถกลับออกไป ภาพล่าง : เลยไปนิด ก็คือทางเข้า สวนสาธารณะหนองถิ่น ที่ถือว่าอยู่ด้านหลังบ้านพัก พนักงานรถไฟเลย ว่าแต่ป้ายนั้นดูเก่า ทำให้ไม่น่าเข้าไปเที่ยว เพราะคิดว่าข้างในคงจะเก่าเหมือนป้าย...ฮา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 14:55:49

ความคิดเห็นที่ 3 ก็อย่างที่บอกไว้แต่ต้นว่า ผมไม่ได้แวะตลาดท่าเสด็จกัน (แต่ที่นั่น นอกจากจะมีตลาดขายของแล้ว ยังมีท่าเรือข้ามไป สปป.ลาว ให้ดูด้วย ซึ่งข้ามได้เฉพาะคนท้องถิ่นที่มีหนังสือผ่านแดนที่มีอายุ 1 ปีเท่านั้น นักท่องเที่ยวต้องข้ามโดยทางรถยนต์ และรถไฟ) ก็เอาไว้คราวหน้า ถ้ามาที่นี่อีก ก็จะลองเดินตลาดดู แต่..อากาศร้อนแบบนี้ ผมคิดว่า คงไม่มาหน้าร้อนอีกแล้วละครับ ภาพบน : ตอนนี้กำลังผ่านสี่แยกวงเวียนน้ำพุพญานาค ใกล้ๆ กับ อนุสาวรีย์ปราบฮ่อ ครับ (ตอนนั้นผมก็ไม่ทราบเช่นกัน จนมาค้นหาข้อมูลในเน็ตจึงทราบ) ภาพล่าง :  ขอเก็บภาพวงเวียนน้ำพุพญานาคเต็มๆ สักรูป  ดูจากแผนที่แล้ว พื้นที่ตรงนี้เป็นลานกว้าง นิยมใช้ประกอบพิธีสำคัญๆ คล้ายกับ ลานพระบรมรูปทรงม้าที่กรุงเทพฯ เลยนะครับ   ผ่านตรงนี้ ผมก็เลี้ยวซ้ายไปถนนมิตรภาพ (หมายเลข 2) ที่มุ่งไปยัง จ.อุดรธานี แต่ผมไปแค่ศาลากลางจังหวัดนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 15:04:20

ความคิดเห็นที่ 4 ภาพซ้าย : เลี้ยวซ้ายจาก วงเวียนน้ำพุพญานาคมาไม่ไกล ก็เจอซุ้มพญานาค(เข้าอีกแล้ว) สวยมากครับ เป็นเหมือนประตูเข้าสู่ เมืองหนองคายเลย ครับ ภาพขวา : น่าเสียดายที่ผมกำลังผ่านออกไป เลยไม่เห็นด้านหน้าซุ้มนี้ ก็ขอแอบๆ เก็บภาพมุมบน ที่หันหลังไปเก็บภาพเท่าที่จะทำได้ สวยจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 15:10:52

ความคิดเห็นที่ 5 ภาพซ้าย : รถกำลังผ่านด้านหน้าศาลากลางจังหวัด แต่อยู่ด้านตรงข้าม ต้องไปหาที่กลับรถมาอีกที ภาพกลาง : กลับรถมาแล้ว ก็พยายามมองหาทางเข้า กว่าจะเจอป้ายบอกทางไป "ที่ออกหนังสือผ่านแดน" ก็สุดรั้วพอดี.. ภาพขวา : เข้ามาแล้ว เป็นซอยเล็กๆ เงียบวังเวงมาก ในใจยังคิดว่ามาผิดหรือเปล่านี่.. แต่เกือบสุดรั้วอีก ก็เจอทางเข้า ไม่ผิดครับ อาคารทำบัตรผ่านแดน อยู่ที่นี่จริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 15:18:43

ความคิดเห็นที่ 6 ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ^^ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 54 16:02:30 จากคุณ : Angletaire เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 15:20:08

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับ คุณAngletaire : ด้วยความยินดีครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทายคนแรกในกระทู้ตอนนี้ครับ เชิญติดตามต่อไป ได้เลยครับ เนื่องจากทางเข้าไปอาคารทำบัตรผ่านแดน นั่นค่อนข้างซับซ้อน เลยขอนำภาพถ่ายดาวเทียม มองจากบนฟ้าลงมาให้เห็นอาคารนี้ครับ (ในอันที่จริง สามารถเข้ามาทางศาลหลักเมืองก็ได้ แต่เนื่องจากป้ายบอกทางเข้าอยู่สุดรั้วเลยต้องเข้าทางนี้  วันทำงานอาจมีรถเยอะกว่านี้นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 15:34:46

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพซ้าย : ตรงลานจอดรถข้างอาคารทำบัตรผ่านแดน มีศาลเล็กๆ ของ น.ต.ศานิต(เหยี่ยวเวหา กับอดีตชน สนามบินเก่าเมืองหนองคาย)  ผมลองค้นข้อมูลดู ท่านเป็นนักบินผู้กล้า วีรบุรุษสงครามอินโดจีน(ไทย-ฝรั่งเศส) พ.ศ.2483  ได้เสียชีวิตระหว่างการรบ ร่วมกับ จ.อ.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์  พลปืนหลัง ที่ริมน้ำโขง แถวๆ อ.ท่าบ่อหนองคาย ได้รับเหรียญกล้าหาญ "ดุษฎีมาลา" และเลื่อนยศ เป็น นาวาตรี ที่มา :http://www.oknation.net/blog/narisza/2009/07/19/entry-2 ภาพขวา : เป็นด้านหน้าอาคารทำบัตรผ่านแดน ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 15:52:18

ความคิดเห็นที่ 9 บรรยากาศการเข้าไปทำบัตรผ่านแดน ชื่อที่เรียกถูกต้องว่า "หนังสือผ่านแดนชั่วคราว" มีอายุการใช้งานแค่ 7 วัน (จะแตกต่างกับ คนท้องถิ่นที่มีภูมิลำเนาอยู่ติดชายแดน เขาจะสามารถทำ หนังสือผ่านแดนระยะยาวที่มีอายุการใช้งานนานถึง 1 ปีได้) เดี๋ยวนี้เขาทันสมัย มีเครื่องแจกบัตรคิวให้ ติดแอร์ไม่ร้อน ตอนนั้นเป็นช่วงบ่ายเลยมีคนมาทำน้อย เพราะส่วนใหญ่ไปกันตั้งแต่เช้าแล้วครับ ผมทำกัน 3 คน ไม่รวมเจ้าตัวน้อยในรูปนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 15:57:45

ความคิดเห็นที่ 10 pai duay krubbbb~ จากคุณ : ted_chen เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 16:02:36

ความคิดเห็นที่ 11 เพียงแค่ 10 นาทีก็ได้เอกสาร "หนังสือผ่านแดนชั่วคราว" แล้วครับ เลยถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันหน่อย  นับว่าเป็นโชคดีโดยบังเอิญ เพราะเอกสารนี้ได้ถูกเก็บ หลังจากผ่าน ตม.เข้าไทย  ไม่งั้นคงไม่ได้มีภาพมาให้เห็นอีกแน่นอน สังเกตุดู ช่วงท้ายเอกสารจะมี ข้อความเรื่อง ผู้ติดตาม ซึ่งก็คือข้อมูลเด็กๆ ที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ต้องการนำข้ามไป สปป.ลาวด้วยนั่นเองครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 16:04:00

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีครับ คุณted_chen : ด้วยความยินดีครับ chaen tid tam pai dai leiy krab.... ฮี่ฮี่ ภาษาปะกิตแบบอ่านตามคำไทย ดูตลกดีจัง เสร็จแล้วผมก็รีบออกเดินทางจาก ศาลากลางจังหวัดหนองคาย ตรงไปยัง เชิงสะพานมิตรภาพ เพื่อปล่อยคนที่ไม่ได้ข้ามไป สปป.ลาว ได้มีที่ทางอยู่ระหว่างที่ ผมอยู่ฝั่งโน้นครับ  ก็ใช้เส้นทางตามเส้นสีชมพูวิ่งย้อนกลับไป แต่ขากลับมายังสถานีรถไฟหนองคายนี่ซิ เจอปัญหาคนเล่นน้ำกันมาก รถติดสุดๆ ต้องอ้อมไปทาง อ.ท่าบ่อ (แต่ไปนิดเดียวแล้วใช้ GPS Map หาซอกซอย วกกลับมายังสถานีรถไฟได้ตามรูปข้างล่าง) เกือบไม่ทันแน่ะ... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 16:10:52

ความคิดเห็นที่ 13 เป็นภาพทางเข้าสถานีรถไฟ อันเป็นถนนเลียบรางรถไฟ (คนละทางกับเมื่อคืนที่ผมพาเข้ามาทาง สนามกีฬาจังหวัด) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 16:13:24

ความคิดเห็นที่ 14 นี่แหละครับ สถานีรถไฟหนองคาย แห่งใหม่ ที่สร้างเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2543 ซึ่งตรงกับปี ค.ศ.2000 พอดีเลย  จากแต่เดิมที่ใช้สถานีตลาดหนองคาย เป็นสถานีประจำจังหวัดหนองคาย (เดิมก็ใช้ชื่อ สถานีหนองคาย แต่มาเปลี่ยนเพราะมีสถานีหนองคายใหม่แห่งนี้ มาเป็นสถานีตลาดหนองคาย) จึงทำให้ รถเร็ว รถด่วนที่มาจากกรุงเทพฯ มาสุดแค่สถานีแห่งนี้แทน เหลือรถท้องถิ่นที่มาจาก จ.นครราชสีมาเพียงขบวนเดียวที่ยัง เข้าไปจอดที่สถานี ตลาดหนองคาย ว่าแต่สร้างมานานตั้งสิบกว่าปีแล้ว ทำไมยังดูใหม่ เหมือนสร้างมาพร้อมๆ กับการเปิดเดินรถไฟไป สปป.ลาวเลย แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 54 16:31:26 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 16:30:13

ความคิดเห็นที่ 15 มองไปฝั่งตรงข้ามอาคารสถานี ก็จะเห็นตู้รถไฟสีขาว จอดอยู่ 2 ขบวน  นั่นคือ ห้องสมุดรถไฟ ที่สร้างมาทั้งหมด 9 แห่งในประเทศไทย  ผมเองก็เคยเห็นมาแล้วที่ สถานีรถไฟหัวหิน ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 17:24:58

ความคิดเห็นที่ 16 ดูจากภายนอกแล้ว เงียบๆ คิดว่าคงปิดให้บริการอยู่ เหมือนกับที่ ห้องสมุดรถไฟหัวหินที่ปิดทำการในวันหยุดราชการ (นักท่องเที่ยวอย่างผมเลย..อดไปตามระเบียบ) พอหารูปภายในได้จากอินเตอร์เน็ต ดังเช่นในภาพข้างล่างจาก เว็บ holidaythai.com ครับ   แหม..นางแบบเขาน่ารักจริงๆ ครับ http://www.holidaythai.com/9kimjor/blogs-721.htm จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 17:32:43

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพซ้าย : กลับมาเที่ยวของเราต่อ  ตอนนี้กำลังจะเข้าไปในอาคารสถานีหนองคายแล้วครับ ด้านหน้ามีตู้ ATM อยู่ 2 เครื่อง ซึ่งต้องจำไว้เหมือนกันว่าเป็นธนาคารเดียวกับที่เรามีหรือไม่ เพราะอาจเกิดอาการเบิกข้ามแบ๊งค์ไม่ได้ขึ้นมาโดยฉับพลันแล้วจะยุ่ง... ภาพกลาง : เบิกเงินแล้วขึ้นสถานีกัน แต่อย่าลืมว่าเป็นการเบิกข้ามจังหวัดต้องเสียค่าธรรมเนียมนะครับ.. ภาพขวา : เข้าไป  ห้องจำหน่ายตั๋วจะอยู่ด้านซ้ายมือ  ได้ตั๋วแล้วก็นั่งรอข้างหน้านั่นแหละ ยังไม่ไกล้เวลารถออก จนท.ตม. (ตรวจคนเข้าเมือง ขาออก) ยังไม่มาทำการนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 17:37:16

ความคิดเห็นที่ 18 ตารางเวลาเดินรถไฟ ของสถานีหนองคายแห่งนี้ จะแบ่งเป็นเที่ยวล่อง กับ เที่ยวขึ้น ไปยืนดูแล้วอาจรู้สึกงงๆ กับคำภาษาอังกฤษ "Time Table from Nongkhai" และ "Time Table to Nongkhai"  เมื่อดูรายการรถไฟข้างล่าง ที่ไป สถานีท่านาแล้ง เพราะอย่างเช่น from Nongkhai แต่ขบวน 914 กับ 918 กับเป็นจาก สถานีท่านาแล้ง ไป สถานีหนองคายซะนี่..  ที่เป็นเช่นนี้เพราะ คำว่า เที่ยวล่อง นั้นหมายถึง การเดินรถที่มุ่งกลับเข้าสู่ สถานีกรุงเทพฯ  ถ้าหากสถานีหนองคายอยู่ปลายทางก็ไม่แปลก ที่จะเริ่มเดินรถจาก หนองคาย แต่ สถานีท่านาแล้งดันอยู่ปลายทาง เลยต้องเดินรถจาก ท่านาแล้งมาหนองคายแทน... จากตารางเวลารถไฟ ผมสรุปให้ง่ายๆ ว่า มีรถไฟจากกรุงเทพฯมาหนองคายอยู่ 3 ขบวน  กับรถไฟจาก จ.นครราชสีมามา หนองคายอยู่ 1 ขบวน โดย รถไฟ จ.นครราชสีมานี้จัดเป็นรถท้องถิ่นธรรมดา ใช้รถชุดเดียวกัน วิ่งจาก สถานี นครราชสีมา แต่เช้าตรู่ (06:15 น.) มาถึงหนองคายตอนเที่ยง (12:25 น.) จอดประมาณ ครึ่งชั่วโมงก็วิ่งกลับไป นครราชสีมา ถึงตอนค่ำ (19:25 น.) ส่วนรถจากกรุงเทพฯนั้น เป็นรถสองชุดวิ่งสวนทางกัน ต่างฝ่ายต่างออกจากปลายทาง ตอนค่ำ (ยกเว้นขบวน 76 ที่ออกจาก หนองคายตอนหกโมงเช้า) ผมได้ใส่ลำดับขบวนที่ไว้ให้แล้ว ทั้ง 3 ขบวนครับ ที่เหลืออีก 2 ขบวนคือ ไป-กลับสถานีท่านาแล้งที่ สปป.ลาว แบ่งเป็น 2 รอบ รอบเช้าไป 9:00 น. กลับ 11:30 น. รอบบ่าย ไป 14:45 น. กลับ 17:15 น. ซึ่ง รอบบ่ายนี่แหละ ที่ผมจะเดินทางไปด้วย แต่ขากลับ จะขอกลับทางรถยนต์ เพื่อได้บรรยากาศ และภาพอีกแบบหนึ่ง ครับ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 54 17:59:59 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 17:56:36

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพซ้าย : คืออัตราค่าโดยสารจากสถานีหนองคายไป สถานีกรุงเทพฯ โดยคิดรวมค่าธรรมเนียมต่างๆ แล้ว   (แม้จะไม่มีป้ายบอกว่าไป สถานีกรุงเทพฯ ผมได้ตรวจสอบราคา ค่าธรรมเนียมจากเว็บการรถไฟแล้ว) ซึ่งผมได้แยกแยะมาให้ดูแล้ว งงกันเล่นๆ....ฮา  ว่ามีการคิดซับซ้อนขนาดไหน เริ่มจาก อัตราค่าโดยสาร รถทั้ง 3 ชั้น จากหนองคายไปกรุงเทพฯ คือ ชั้นสาม 103 บาท  ชั้นสอง 238 บาท ชั้นหนึ่ง 498 บาท มีค่าธรรมเนียมรถเร็ว 110 บาท รถด่วน 150 บาท ค่าธรรมเนียมรถนั่งปรับอากาศ 110 บาท รถนอน(มีอาหาร) 170 บาท ส่วนรถนอนนี้ ต้องแยกราคาเป็น 3 แบบ คือ ค่าธรรมเนียมรถนอน แบบพัดลม เตียงบน 100 บาท กับ เตียงล่าง 150 บาท ค่าธรรมเนียมรถนอนปรับอากาศชั้นสอง เตียงบน 130 บาท กับ เตียงล่าง 200 บาท ค่าธรรมเนียมรถนอนปรับอากาศชั้นหนึ่ง เตียงบน 300 บาท กับ เตียงล่าง 500 บาท เมื่อนำตัวเลขมาบวกเข้าด้วยกัน ก็จะได้ตามแสดงในตาราง เช่น รถนอนชั้นหนึ่ง ปรับอากาศเตียงบน คือ 497 + 150 + 170 + 500 = 1,317 บาท ครับ ภาพขวา : ผมไม่อยากนั่งรอ ไปเก็บภาพรอบๆ กันดีกว่า จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 18:12:41

ความคิดเห็นที่ 20 เดินผ่านออกมาหน้าชานชาลา แล้วหันกลับไปดูในสถานี  ด้านซ้ายเป็นป้ายประชาสัมพันธ์เรื่องการเดินรถไป สปป.ลาว  ด้านขวาเป็นสวนหย่อมหน้าสถานี ออกแบบทำได้สวยเหมือน ปราสาทหินสร้างใหม่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 18:17:56

ความคิดเห็นที่ 21 ป้ายประชาสัมพันธ์รถไฟไป สปป.ลาว ชัดๆ สักภาพ เพราะถือเป็นข้อมูลปัจจุบันจริงๆ (ตอนที่ผมค้นหาข้อมูลก่อนเดินทางนี่ พบว่าข้อมูลในเน็ตไม่ตรงกัน ในเรื่องเวลาเดินรถไป สถานีท่านาแล้ง) จากแผ่นป้าย 20 บาทราคาเดียว ไปสปป.ลาวแล้วพัก 2 ชั่วโมง ค่อยกลับ ถ้าจะไปเที่ยวอาคารสถานีท่านาแล้งอย่างเดียว อาจเบื่อได้เหมือนกัน แต่ถ้านั่งรถไปเที่ยว เวลาแค่นี้ก็ไม่พอ คิดว่าควรไปรอบเช้าแล้วกลับรอบบ่าย จะได้เที่ยวลาวเต็มที่หน่อยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 18:23:58

ความคิดเห็นที่ 22 ผมลองออกมาที่ชานชาลาเพื่อดูทางรถไฟบ้าง จะเห็นว่ามีรถไฟจอดอยู่ในรางหลีก ซึ่งคาดว่าจะเป็นขบวนรถไฟเที่ยวกลับกรุงเทพฯ ที่มาจากกรุงเทพฯ ในเวลาช่วงเช้า ของทุกวัน ในภาพขวา ตรงปลายสุดขบวนรถไฟอันยาวเหยียด นั้นมีรถไฟไป สปป.ลาวจอดอยู่ ซึ่งตอนนั้นผมไม่ทันได้สังเกตุเห็น ก็เลยไม่ทราบว่าจะไปขบวนไหนกัน ในใจผมเองยังหลงลืม นึกภาพรถไฟขบวนแรกที่ข้ามไป สปป.ลาว ที่ใช้ หัวจักรลากอังสตอร์ม ไปด้วยซ้ำ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 18:37:44

ความคิดเห็นที่ 23 อ้าว..ขอโทษ ผมลืมวางรูปลงไปครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 18:39:15

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพซ้าย : ใกล้เวลารถไฟออกแล้ว ผมเดินมาทางเหนือ พบตู้ตรวจคนเข้าเมือง(ต.ม.) ขาออก ที่ปกติเจ้าหน้าที่จะปิดทำการ จนกว่ารถไฟใกล้จะออกครับ (เพราะถ้าตรวจเอกสารแล้ว ผู้โดยสารต้องเข้าไปนั่งใน ส่วนที่พักผู้โดยสารขาออก จะมาเดินเปะปะไม่ได้... ภาพขวา : หันกลับไปมองชานชาลาหน้าสถานีอีกครั้ง นับเป็นสถานีที่สวยแบบทันสมัย สีสรรสดใสมากๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 18:54:34

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพขวา : ตอนนี้ผ่านกระบวนการตรวจเอกสาร ประทับตราออกนอกประเทศแล้วครับ  นี่คือห้องพักผู้โดยสารขาออก  แต่เนื่องจากรถไฟใกล้ออกเลยไม่ต้องพักกัน เดินผ่านออกไปประตูริมสุดโน้นได้เลย ภาพซ้าย : มองออกมาที่รางรถไฟข้างนอก นี่แหละคือรถไฟที่จะพาเราข้ามแดนไป สปป.ลาว ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 18:57:41

ความคิดเห็นที่ 26 นี่เป็นป้ายบอกระยะทางระหว่างสถานี แต่สำหรับที่นี่ทำด้วยหินแกรนิต คงทน สวยหรูดูดีมีระดับ แต่กลับไม่มีระบุระยะทางไปสถานีท่านาแล้ง  ผมเลยค้นหาเอาจากเว็บรถไฟดอทคอมได้มาดังที่เห็นในภาพครับ อ้อ..นอกจากนี้ ป้ายนี้ตอนเปิดให้บริการเดินรถไปสถานีท่านาแล้งใหม่ๆ ยังมีการพิมพ์ชื่อ สปป.ลาวผิด เป็น "สาธารณะรัฐฯ"  ด้วยซ้ำไป (ขออภัยที่หาภาพหลักฐานมาให้ดูกันไม่ได้ จำไม่ได้ว่าเห็นจากที่ไหน ครับ) แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 54 19:35:21 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 19:00:06

ความคิดเห็นที่ 27 มองไปข้างหน้า ป้ายชื่อสถานี ป้ายประเพณีที่ไม่ควรพลาดในการเก็บภาพไว้เมื่อได้มาเยือน ว่าแต่ไกลจริงๆ แต่ก็ไม่ไกลเกินความพยายามครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 19:37:15

ความคิดเห็นที่ 28 เสร็จแล้วก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพป้ายสถานีอีกมุมมอง ที่รวมเอาสถานีและรถไฟเข้าไปด้วย  จะเห็นว่าชานชาลานี้ยาวจริงๆ  ระหว่างนี้ผมก็โดนเรียกตัวให้รีบไปขึ้นรถไฟ รถไฟกำลังจะออกแล้ว พขร.ขึ้นนั่งแล้ว....  มีเวลาน้อยจัง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 19:39:18

ความคิดเห็นที่ 29 ความจริงภาพข้างบน (คห.28)นี้มีที่มา คือประทับใจในภาพของคุณ palm_gea ที่เคยลงทุนเดินจากสถานีท่านาแล้งมาถึงที่นี่ (แยกการเดินเป็นสองช่วงเพื่อขึ้นรถข้ามด่านเหมือนผมนะครับ) ขั้นบันไดที่ก้าวขึ้นสถานี แม้เพียง 4 ขั้น ผมก็รู้สึกเหมือนว่าเป็นเส้นชัยของน้องเขานะครับ  ดูท่าเดินของน้องที่เดินตามหลังซี คงจะเหนื่อยน่าดูเลย.... ทำได้อย่างไรกัน...ต้องปรบมือให้ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 54 19:58:29 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 19:47:19

ความคิดเห็นที่ 30 หันมองไปทางเหนือ เส้นทาง(ราง) ที่จะไปสู่ สปป.ลาว ช่างยาวไกลเสียจริง นี่ขนาดสุดสายตาก็แค่ ถนนตัดข้ามตรงปากทางเข้าสถานีแค่นั้น นับถือน้องpalm_gea และเพื่อนๆ จริงครับ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 54 19:58:51 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 19:57:44

ความคิดเห็นที่ 31 รีบเดินกลับมายังรถไฟที่กำลังจะออกแล้ว ได้ยินเสียงเครื่องดังกระหึ่มเลย แม้ว่าจะไม่ใช่หัวจักรลากอังสตอร์ม  ว่าแต่ เป็นรถที่ใหม่มากๆ ดูแล้วไม่น่าเป็นรถเก่าที่นำมาทำสีใหม่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:01:46

ความคิดเห็นที่ 32 ภาพขวา : ก่อนขึ้นรถให้ดูป้ายด้านข้างก่อนทุกครั้ง ตามระเบียบ ภาพซ้าย : เมื่อใช่ก็ก้าวขึ้นเลย  คุณตาผมท่านดูกระฉับกระเฉงมาก ก้าวขึ้นก่อนใครเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:03:20

ความคิดเห็นที่ 33 ภาพซ้าย :  ท่าน พขร. ได้ขึ้นนั่งเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว ภาพขวา : เหลือแต่ ผู้โดยสาร จะพร้อมหรือยัง  ว่าแต่ทำไมมีแค่นี้ล่ะ... ผมไม่ได้เหมาขบวนรถนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:05:26

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพซ้าย : มองลงไปข้างล่าง ฝั่งสถานี ยังมีคำกำลังขึ้นรถอยู่ ภาพขวา : มองไปอีกฝั่ง มีคนยืนอยู่ข้างล่าง ไม่ยอมขึ้นรถ สงสัยจะมาส่งกันเฉยๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:07:13

ความคิดเห็นที่ 35 ลองเอาตั๋วมาดู กัน เวลารถออก 14:45 น. ถึง 15:00 น.ใช้เวลาเดินทางเพียง 15 นาที  ห้ามกระพริบตาเลยนะครับเป็นการเดินทางในประวัติศาสตร์...ของผม..อิอิ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:11:06

ความคิดเห็นที่ 36 ณ..บัดนี้ ได้ถึงเวลารถออกแล้วครับ ภาพซ้าย : ทาง พขร. ได้เริ่มโยกปุ่มบังคับรถให้ค่อยๆ ออกตัวอย่างช้าๆ ด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นกันเอง พร้อมอนุญาตให้เก็บภาพได้ตามสะดวก เพราะ ดูผมแล้วว่าเป็นนักท่องเที่ยว มากกว่า ชาวบ้านที่ข้ามไปมาเป็นประจำ  นานๆ จะได้มีโอกาสสักที ที่จะได้เก็บภาพด้านหน้ารถไฟแบบนี้ ภาพขวา : หันออกไปดูสถานีหนองคายอีกครั้ง ขณะที่รถเคลื่อนตัวออก..... ตื่นเต้นมากครับ ขนาดลืมเปลี่ยนซิมหน่วยความจำกล้อง ที่ใกล้จะหมดเต็มที เกือบไปแล้ว โชคดีที่ยังนำซิมสำรองติดกระเป๋าขึ้นมาด้วย ไม่งั้นงานนี้ จบกันจริงๆ. จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:15:48

ความคิดเห็นที่ 37 จากป้ายบอกระยะห่างระหว่างสถานีในคห.26 พอดีผมค้นเจอ ป้ายก่อนที่แก้ไขแล้วครับ เป็นของคุณ black express จากเว็บรถไฟดอทคอม ครับ http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3446&postdays=0&postorder=asc&start=80 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:37:11

ความคิดเห็นที่ 38 ตามขึ้นรถไฟไปเที่ยวลาวด้วยคนเด้อ จากคุณ : narasri เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:38:56

ความคิดเห็นที่ 39 พอดีค่ำแล้ว ขอพักกระทู้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้มาต่อกัน เราจะนั่งรถไฟข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ไปด้วยกัน   ก่อนพัก ผมขอวางภาพแผนที่ดาวเทียม ของเส้นทางรถไฟช่วง สถานีหนองคาย -  สถานีท่านาแล้ง และด่านรถยนต์ทั้งสองฝั่งให้ดูไปพลางๆ ก่อนจะเห็นภาพจริงในวันพรุ่งนี้ คอยติดตามชมกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:41:31

ความคิดเห็นที่ 40 ชอบทุกรูปทุกที่ค่ะ โดยเฉพาะห้องสมุดรถไฟสีขาว  อยากมีโอกาสได้ไปนั่งอ่านหนังสือ  อากาศเย็นสบาย  เผลอๆ ตีตั๋วหลับได้อีก จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 20:46:29

ความคิดเห็นที่ 41 สนุกมากค่ะ   หัวรถจักรทาสีได้เด็ดดวงจริงๆ เลย   อยากมีห้องสมุดรถไฟแบบนี้ที่จังหวัดบ้างจัง.. จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 21:59:19

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณสำหรับรีวิวและข้อมูลที่ครบถ้วนครับ อยากไปนั่งรถไฟข้ามประเทศบ้างจัง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 22:11:50

ความคิดเห็นที่ 43 เห็นสีสรรของรถไฟ ทาสีได้สวยจัง อยากนั่งรถไฟเที่ยวข้ามเมืองมั่งอ่ะ จากคุณ : sa_bkk เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 22:17:27

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่ต้องสงสัยรถเก่ามาทำสีเบาะใหม่แน่นอนฟันธง จากคุณ : CK-ONliNE เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 22:24:08

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับ จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : วันสิ่งแวดล้อมโลก 54 23:06:21

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณที่พานั่งรถไฟเที่ยวนะคะ  ไม่ได้นั่งรถไฟนานมากแล้ว คิดถึงเหมือนกันแฮะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 00:01:01

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆเช่นนี้ครับ...... เด๋วกดเก็บเข้าคลังให้ครับ... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 07:41:55

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดี คุณnarasri, สาวหน้าใส, noiwanwannoi, Destiny-Boy,  Red-Rose-14Feb ,ถนนสายนี้เปรี้ยว:  ด้วยความยินดีที่ชอบครับ ขอบคุณที่แวะเข้ามาทักทาย และให้กิฟท์ ครับ สวัสดีครับ คุณ ป้าฟู, sa_bkk, CK-ONliNE : ด้วยความยินดีเช่นกัน ครับ สำหรับเรื่องการทำสีรถ นั้น ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นรถใหม่เอี่ยมถอดด้าม หรือรถเก่าไปทำสีใหม่ เพราะทำได้ดีมาก สีเรียบไม่ขรุขระเหมือนที่เคยเห็น เครื่องล่างก็สีดูใหม่มากๆ  ก็อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการสั่งรถคันใหม่เข้ามา เพราะเท่าที่ทราบ การรถไฟไม่ได้ซื้อหัวรถจักรลาก เช่น อังสตอร์ม เท่านั้น ช่วงนี้สำคัญ กำลังเตรียมข้อมูล รถไฟที่จะข้ามสะพานมิตรภาพ ครับ เดี๋ยวคงเสร็จก็จะได้ทะยอยนำลงให้ชมกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 10:54:59

ความคิดเห็นที่ 49 รีวิวได้ละเอียดดีจริงๆครับ สีสันรถไฟสวยงามมากเลย ขอบคุณมากนะครับที่พาไปเที่ยว จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 11:26:00

ความคิดเห็นที่ 50 รถไฟสวยเท่าที่เคยเห็นมาเลยครับ ดูใหม่ แปลกตาดี  รีวิวสนุกครับ รอชมตอนต่อไปครับ ^^ จากคุณ : สุดท้ายตรงไหน เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 12:36:31

ความคิดเห็นที่ 51 เคยเห็นเขา Renovate อยู่โรงงานค่ะ น่าจะทำใหม่ มี 2 ขบวนได้สีม่วง คือ รถลาว และ ดีเซลรางท้องถิ่นธรรมดาค่ะ ตลาดหนองคาย กลายเป็นสถานีร้างแล้วค่ะ ขบวน 415 ก็ไม่ได้เข้าไปนานแล้วค่ะ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 14:15:58

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณมากๆครับผม เจ้า THN สีม่วง นี้พึ่งทำสีมาใหม่จากโคราชเลยครับ นึกไม่ถึงว่าจะมาประจำการในสายนี้แทน ชุดรถเดินที่โดนส่งกลับกรุงเทพไปแล้ว หุหุ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 15:28:54

ความคิดเห็นที่ 53 มาเก็บความรู้เรื่องขอใบผ่านแดนข้ามไปกำแพงนครเวียงจันทน์ก่อนครับ   ส่วนเรื่องข้ามโขง รอคุณมิราชชพาข้ามกันต่อไป จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 16:24:06

ความคิดเห็นที่ 54 อ่าว THN หรอกเหรอ นึกว่า RHN จากคุณ : CK-ONliNE เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 17:00:02

ความคิดเห็นที่ 55 สวัสดีครับ คุณลุงแบกเป้, สุดท้ายตรงไหน , owl2 : ขอบคุณครับ ที่เข้ามาทักทายกันครึกครื้นเลย  กำลังจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางอยู่ (ทำเหมือนกับผมกำลังจะออกแบบเลย..อิอิ) สวัสดีครับ คุณSugarbean, digimontamer : ขอบคุณที่เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมครับ นับว่าเก่งจริงๆ ที่ปรับปรุงได้เหมือนรถใหม่เลย แสดงว่า การรถไฟช่วงนี้ยังไม่มีการสั่งรถไฟเข้ามาใหม่ นานแล้วหลายปีนะครับ คุณCK-ONliNE : ผมลองเข้าไปค้นหาดูในเน็ต THN จะทรงเหลี่ยม มีลอนอลูมิเนียม  ในขณะที่ RHN จะเรียบๆ ดูเก่ากว่า  แต่รถที่ข้ามลาวนี้กลับเหมือน RHN มากกว่า นะครับ   ไม่ทราบว่าทั้งสองรุ่นนี้มีความแตกต่างทางเทคนิคอย่างไรบ้าง ผมลองค้นหาดูแล้วไม่พบของ RHN เลย เจอแต่ THN ครับ เอาละ..ได้ฤกษ์มาต่อกันซะที ใช้เวลาไปกว่า 6 ชั่วโมงในการเตรียมข้อมูลเพิ่มเติม..เฮ้อ..คิดมากไปหรือเปล่านี่เรา... เนื่องจากระยะเวลาเดินทางค่อนข้างยาวประมาณ 10 นาที! (ผมใช้กล้องถ่ายภาพ คอมแพ็คบันทึก แค่หนึ่งนาทีก็รู้สึกยาว เพราะใช้เนื้อที่หน่วยความจำเยอะ) ช่วงแรก (คลิ๊ปแรก)  ออกจากสถานีหนองคาย ไปจนถึง จุดตัดรางที่ไป สถานีตลาดหนองคาย ออก มีระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรพอดี (ผมวัดจาก โปรแกรม Google Earth นับว่าบังเอิญจริงๆ ครับ) มีระยะทางย่อยๆ แยกให้เห็นเป็นช่วงที่ ผ่านจุดตัดถนนเสด็จ กับ จุดตัดถนนมีชัยเล็กๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 17:50:47

ความคิดเห็นที่ 56 ถ่ายเป็นคลิ๊ปวิดีโอให้ดูกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 17:52:17

ความคิดเห็นที่ 57 ต้องขออภัยหน่อย ที่ภาพอาจจะไหวๆ โคลงเคลง เพราะรถไฟไม่นิ่งขณะวิ่ง ขนาดยืนยังต้องพิงกับอะไรไว้สักอย่างเลยครับ สำหรับผู้ที่ดูภาพเคลื่อนไหวไม่ได้ หรือ ไม่ทันสังเกตุเห็นอะไร ผมขอ จับภาพนิ่งมาให้ชมกันเป็นเฟรมๆ ที่สำคัญครับ ชุดแรกมี 4 ภาพ จากสถานีรถไฟหนองคายถึง จุดตัดถนนเสด็จ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 17:57:10

ความคิดเห็นที่ 58 ภาพชุดที่สอง มี 4 ภาพเช่นกัน จากจุดตัดถนนเสด็จ ผ่านจุดตัดถนนมีชัย มองเห็นจุดตัดรางเก่าทิ้งอยู่ไกลๆ ครับ ในภาพจะเห็นรถสามล้อสกายแล๊บ กำลังจะข้ามทางรถไฟ เลยโดนบีบแตรเตือน ต้องหยุดแบบไม่เต็มใจนัก  เสียวแทนครับ ทางข้ามตรงนี้ ถนนต่ำกว่าราง มองไม่ค่อยเห็นรถไฟนัก เมื่อคืนวันที่มา ผมก็วนรถมั่วไปข้ามตรงนี้มาแล้ว (ถ้าไม่ดูจากแผนที่ GPS Map ก็ไม่ทราบเช่นกัน กลางคืนมันมืดไปหมด) แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 18:00:49 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 17:58:34

ความคิดเห็นที่ 59 อีกชุดหนึ่ง มี 3 ภาพครับ เป็นจุดตัดรางเก่าที่ไป สถานีตลาดหนองคาย ทิ้ง..อย่างมีร่องรอยให้รู้สึกคิดถึงไว้ด้วย..ฮือๆ  เป็นสถานีเก่าที่ผมไปสำรวจมาเมื่อตอนที่แล้วครับ ทีแรกผมกะจะมาเดินสำรวจ แต่ไม่มีเวลาจริงๆ เลยได้แค่นั่งรถไฟเก็บภาพมาให้ชมกัน ถ้าอยากจะดูชัดๆ ต้องคลิ๊กไปดูที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ คนรักรถไฟ คุณ palm_gea และ OutRun พาเด็กไปเดินเล่นมาแล้วเมื่อช่วงก่อนที่จะเปิดเดินรถไฟสายนี้ เมื่อช่วง16 - 17 พ.ค. 2551 โน้นครับ http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2672&postdays=0&postorder=asc&start=190 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:08:13

ความคิดเห็นที่ 60 เอาล่ะ มาต่อกันในช่วงสอง  เพื่อการประหยัดเนื้อที่ความจำ เลยบันทึกเฉพาะช่วงที่คิดว่าน่าสนใจ (แต่กลับมาบ้านแล้ว บอกว่าเสียดายจริงๆ น่าจะลากยาวไปเลย จะได้เห็นรายละเอียดทุกอย่าง  แต่ในวันนั้น ซิมกล้องผมใกล้หมด มารู้ตัวก็ตอนรถไฟออกแล้ว... เลยต้องหยุดบันทึกในช่วงหนึ่ง) เป็นช่วงเส้นทางระหว่างจุดตัดรางเก่าออก มาจนถึงเชิงสะพานมิตรภาพเลย ระยะทางช่วงนี้ รวมแล้วเป็น 1.08 กิโลเมตร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:13:22

ความคิดเห็นที่ 61 เส้นทางช่วงนี้เป็นทางโค้งรูปตัวเอสแบบลางๆ เพื่อปรับทิศทางรางขึ้นสะพาน ซึ่งจากแนวเดิม ถ้าหากสะพานมิตรภาพไปสร้างอีกด้านของวัดจอมมณี แนวรางจะพุ่งตรงจาก สถานีหนองคายข้ามไปลาวเลย จุดนี้มองให้ดีจะเห็นอุโมงค์รถไฟลอดใต้ แต่บังเอิญผมถ่ายคลิ๊ปไม่ทัน กว่าจะกดกล้องก็แทบจะเลยจุดนั้นแล้ว แต่ก็ได้ลุ้นจุดร่วมทางรถยนต์ก่อนขึ้นสะพาน นับเป็นจุดที่ผมไปตั้งกล้องมาเมื่อเช้านี้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:18:15

ความคิดเห็นที่ 62 ภาพนิ่งชุดนี้ ไม่เยอะ เพราะมีจุดสำคัญตรงจุดร่วมทางรถยนต์เท่านั้น ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงที่ ซิมกล้องผมกำลังจะหมด เรียกว่า นับถอยหลังเป็นวินาทีเลย สุดท้ายมาหมดตรงเชิงสะพานพอดี ฟลุ๊คจริงๆ ครับ เข็ดจริงๆ ทั้งๆ ที่ มีซิมอีกอันอยู่ในกระเป๋าเสื้อ แต่ใจไม่นึก เพราะมันฉุกละหุกจริงๆ ตอนใกล้รถจะออก แค่ห่วงว่าผมได้เปิด GPS Map ไว้ด้วยหรือเปล่า ก็เกือบลืมแล้ว.... ชุดนี้มี 4 ภาพ  จากอุโมงค์ทางลอดต่ำของรถยนต์ ก็มองเห็นป้อมควบคุมจราจรเชิงสะพานแล้ว จนเห็นปากทางขึ้นถนน สังเกตุให้ดีภาพขวาสุดจะมีหลักกิโลเมตรที่ 623 ปักไว้อยู่ด้วย คำนวณห่างจากสถานีหนองคาย (621.1) ได้ระยะทาง 1.9 กิโลเมตร ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:26:11

ความคิดเห็นที่ 63 ชุดนี้มี 3 ภาพ ก่อนขึ้นสะพานมิตรภาพไทย-ลาว พอดี  ดูภาพนิ่งแล้วจะเห็นรายละเอียดดีกว่า เพียงแต่ไม่มีเสียงเท่านั้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:28:31

ความคิดเห็นที่ 64 ช่วงนี้ เป็นช่วงสำคัญที่สุด เพราะรถไฟกำลังวิ่งบนสะพานมิตรภาพพอดี ซึ่งรถไฟวิ่งช้ามากๆ ขนาดผมวิ่งกลับมาเปลี่ยนซิมหน่วยความจำกล้องที่เบาะนั่งแล้วกลับไปยืนถ่ายภาพ ยังทันก่อนที่รถไฟจะถึงกลางสะพานเลย  ทำให้ดูว่าสะพานยาวมากๆ เมื่อเช้าผมเดินมาได้อย่างไรกันนี่...หกร้อยกว่าเมตรท่ามกลางแดดจ้า ซึ่งแบ่งเป็นสองคลิ๊ป คือก่อนถึงกลางสะพาน กับ เลยกลางสะพานข้ามแดนมาอยู่ฝั่งลาว แล้วลากยาวจนพ้นจุดแยกทางรถยนต์ออกไปเลย   ผมจึงขอนำภาพแผนที่มาให้ดูรวมพร้อมๆ กันทั้งสองคลิ๊ปเลย ไม่งั้นสะพานจะขาดไปครึ่งหนึ่ง...ฮา อ้อ..ระยะทางช่วงนี้ ถ้าให้นับจาก จุดเข้าร่วมทางรถยนต์ไปจนกลางสะพาน (ฝั่งไทย) เป็น 0.68 กิโลเมตร ในขณะที่ จากกลางสะพานไปจนถึงจุดแยกทางรถยนต์ เป็น 0.82 กิโลเมตร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:43:18

ความคิดเห็นที่ 65 คลิ๊ปแรกของช่วงนี้ จากสะพานฝั่งไทยถึงกลางสะพาน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:45:11

ความคิดเห็นที่ 66 ภาพนิ่งของคลิ๊ปนี้มีชุดเดียว 4 ภาพ เพราะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ถึงกลางสะพานพอดี  เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ แดดกล้าๆ ไม่น่ามีคนขึ้นมาเยอะกว่าตอนเช้า คงเป็นพวกที่มาเล่นน้ำสงกรานต์หาดจอมมณีข้างล่าง นั่นแหละครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 18:49:00

ความคิดเห็นที่ 67 คลิ๊ปสองของช่วงนี้ จะเป็นจุดสำคัญ เพราะจะได้เห็นทางรถยนต์ที่เลี้ยวซ้ายหายไปทางด่านตรวจรถฝั่งลาว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:02:49

ความคิดเห็นที่ 68 เกือบลืมลงไป ในภาพนี้รถไฟกำลังผ่านจุดกึ่งกลางสะพานพอดีครับ จะเห็นป้ายห้ามผ่านฝั่งลาวทั้งสองด้าน มีคนจากฝั่งลาวมาดูเราด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:09:35

ความคิดเห็นที่ 69 มองไปทางขวามือ ผ่านห้องขับ จะเห็นวิวสะพานดังรูป (ไม่ค่อยชัดเจนนักแต่ให้อารมณ์ พขร. ได้ดีครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:11:03

ความคิดเห็นที่ 70 มองไปทางซ้ายมือของผมบ้าง จะเห็นวิวสะพานที่กำลังเข้าสู่พื้นดินลาวพอดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:12:29

ความคิดเห็นที่ 71 เอาล่ะ มาดูภาพนิ่งจากคลิ๊ป 4/6 ในคห.67 กันต่อครับ จะเห็นเชิงสะพานฝั่งลาว จนถึงโค้งถนนไปทางซ้าย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:14:29

ความคิดเห็นที่ 72 เป็นภาพชุดถัดมา ขณะที่รถไฟกำลังแล่นผ่านจุดร่วมทางรถยนต์  ดูแล้วทำให้รู้สึกฝืนๆ เหมือนกำลังขับรถหลุดโค้งโดยเจตนา..เสียว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:16:39

ความคิดเห็นที่ 73 เข้ามาอยู่ในผืนแผ่นดินลาว โดยบริบูรณ์แล้วครับ ทางช่วงนี้มีโค้งเล็กน้อย ด้วยระยะทาง 1.02 กิโลเมตร มีอุโมงค์ลอด 2 แห่ง  จุดแรกเป็นทางรถยนต์ จุดสองเป็นคลอง ครับ (คลิ๊ปที่ 4/6 นั้นยาวมาจนเกือบถึงทางรถยนต์ลอดเลย)  มาจนถึงจุดตัดทางรถยนต์ ครับ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 19:22:37 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:20:35

ความคิดเห็นที่ 74 คลิ๊ปที่ 5/6 (ใกล้จะถึงสถานีท่านาแล้งแล้ว)  เริ่มจาก จุดที่เลยอุโมงค์ทางรถยนต์ลอด แล้วมีการก้มลงดูราง  อาจรู้สึกเวียนหัวได้นะครับ แต่ก็ให้อารมณ์มันส์ส์...ไม่น้อยเลย  ผมยังปลอดภัยครับ เพราะยืนอยู่หลังประตูกระจกอยู่  จนมาถึงจุดตัดทางรถยนต์ ที่รถจะเบาทาง เกือบจะหยุดเพื่อความปลอดภัย เพราะทัศนวิสัยช่วงนั้นมี เนินดินด้านขวาบังอยู่ แถมไม่มีเจ้าหน้าที่มาประจำด้วย แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 19:28:08 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:26:40

ความคิดเห็นที่ 75 ภาพนิ่งชุดนี้เริ่มจาก เสาเตือน ที่มักอยู่ก่อนถึงสถานี ก่อนเสาใดๆ  (ที่สถานีแห่งนี้ อยู่ก่อนถึงตัวสถานี ประมาณ กิโลเมตรครึ่ง) จนมาถึงอุโมงค์ลอดใต้ที่เป็นคลองเล็กๆ ตรงจุดนี้จะมองเห็นหลังสีแดงเล็กๆ  ผมลุ้นเอาว่าใช่สถานีท่านาแล้งหรือเปล่า ? จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:33:53

ความคิดเห็นที่ 76 ภาพนิ่งชุดที่สองนี้ กำลังจะผ่านเสา "เขตสถานี" แล้ว  ตามด้วยเสา "เขตสับเปลี่ยน" ที่ยาว......ไกล จริงๆ  จนมาถึงทางตัดข้าม  และมองเห็นประแจเข้ารางหลีกอันแรกอยู่ข้างหน้าครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:44:21

ความคิดเห็นที่ 77 สำหรับป้ายเขตสถานี และเขตสับเปลี่ยนดูเผินๆ ก็เหมือนของไทยเรา แต่ถ้าเข้าไปใกล้ๆ เก็บภาพชัดๆ จากของคุณ OutRun ในเว็บรถไฟดอทคอม http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2672&postdays=0&postorder=asc&start=60 จะอ่านแทบไม่ออก ดูคล้ายถั่วงอกมากเลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 19:57:58

ความคิดเห็นที่ 78 มาจนถึงช่วงสุดท้าย ก่อนถึงสถานี และ..ปลายสุดราง ครับ ซึ่งจากจุดตัดถนนถึงกึ่งกลางสถานี มีระยะทาง 0.77 กิโลเมตร  และจากกึ่งกลางสถานีไปถึงปลายรางมีระยะทางยาวถึง 0.89 กิโลเมตร! ซึ่งระยะทางที่ การรถไฟลาวได้สร้างทางรถไฟ 3.5 กิโลเมตร นั้น นับจาก กึ่งกลางสะพานมิตรภาพ ถึง ปลายราง ไม่ใช่ ตรงสถานี เพราะตรงปลายรางนั้นมีหลักกิโล 3.5 ปักอยู่ ด้วย สถานีท่านาแล้งนี้ จากแผนที่ดาวเทียม ที่คาดว่าถ่ายไว้ตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ จะไม่ค่อยเห็นชานชาลา แต่พอสังเกตุได้ว่าน่าจะยาวไปถึงดังที่ผมทำเครื่องหมายไว้ครับ   แต่จุดที่สังเกตุอีกแห่งคือ หลังคาอาคาร ที่ในรูปมี 3 หลัง แต่ในวันที่ผมไปมีการสร้างเพิ่มเติมอีกหลังต่อจากสุขาจนเกือบถึงอาคารสถานี(อันกลาง)   เพราะผมสังเกตุจากภาพคนอื่นๆ ที่ไปก่อนหน้าผม นั้นจะมีอาคารแค่ 3 หลัง (คือมีทีว่างระหว่าง สุขา กับ สถานี) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 20:19:29

ความคิดเห็นที่ 79 และนี่ก็เป็นคลิ๊ปสุดท้ายของตอนนี้ รถไฟกำลังเข้าสู่สถานีท่านาแล้งครับ  แม้จะดูไม่ไกล แต่กว่าจะถึงอาคารสถานี ถ้าเดินก็เหงื่อตกกันเลยละครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 20:22:16

ความคิดเห็นที่ 80 สำหรับภาพนิ่ง เริ่มจากประแจเข้ารางหลีกตัวแรก หลังจากผ่านจุดตัดทางรถยนต์ ตามในภาพคห.76   ภาพนี้ผมเปลี่ยนโหมดกล้องมาถ่ายเป็นภาพนิ่งโดยตรง เลยได้ภาพมุมกว้างๆ ชัดๆ มาให้ดู ซึ่งได้ใช้เป็น Blackground ของภาพเปิดกระทู้ ด้วย  ซึ่งให้ความรู้สึก ความเป็น ท่านาแล้งได้ดี ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 20:28:19

ความคิดเห็นที่ 81 ดูภาพข้างบน ถ้าเป็นแฟนพันธุ์แท้รถไฟ จะสังเกตุเห็นอะไรแปลกๆ คือ โคมประแจหลีกมีหน้าตาประหลาดๆ เหมือนอะไรกำลังขี่คอกันอยู่ ผมขอตั้งชื่อไว้ว่าเป็นแบบ 2 ชั้น  คงทำเพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตุ ดังในภาพซ้าย ประแจที่นี่ มีความเป็นมาก่อนหน้านี้ จากการที่คุณ palm_gea เคยถ่ายเอาไว้ก่อนเปิดใช้งาน หน้าตาเหมือนหางธนู  แถมยังมีการทายกันเล่นในคราวนั้นว่า เวลาสับไปรางหลีกจะเอียงคอ หรือพลิกตัวเป็นปลาตะเพียนปิ้ง..ฮา  ผลสุดท้ายก็พลิกตัว เหมือนกับของไทยเรานั่นแหละ จนหลังจากเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ.2551 ซึ่งคุณ hermit ได้ไปเที่ยวในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2551 ก็ได้พบกับโคมประแจแบบนี้แล้ว  แสดงว่า การเอาหางธนูมาใช้นั้นเป็นแค่ ชั่วคราวระหว่างทดสอบเท่านั้นครับ ที่มาเว็บคนรักรถไฟ กระทู้ของคุณ hermit http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3546&postdays=0&postorder=asc&start=110 แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 54 20:41:51 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 20:39:06

ความคิดเห็นที่ 82 กลับมาเข้าสู่สถานีท่านาแล้งกันต่อดีกว่า จากภาพนิ่งชุดแรก 4 ภาพที่ถอดจากคลิ๊ป6/6 ในคห.79 นี้ จะเห็นเหมือนชานชาลาสถานีกำลังแล่นเข้ามาแทน..ฮา ในภาพที่ 3 เห็นป้ายชื่อสถานีแล้วอดขำเล็กๆ ไม่ได้ เพราะภาษาลาวเขาใช้ ตัวอักษร มอ.ม้า แทน นอ.หนู ถ้าอ่านแบบไทย ก็คือ "ท่ามาแล้ง" พ้องกับคำไทยว่า ถ้ามา(ที่นี่แล้วจะ)แล้ง(นะจ๊ะ)..ฮา อีกจุดในภาพนี้ ก็คือ บันไดก้าวขึ้นชานชาลา ช่างเหมือนกับสถานีหนองคาย ตรงจุดที่ผมไปถ่ายป้ายมา ในคห.28 ครับ ภาพขวาสุด จะสังเกตุเห็นเนินดินด้านขวามือ ที่เป็นฝั่งตรงข้ามสถานี  ถ้าดูแค่ตาก็นึกว่าเป็นป่า แต่พอดูแผนที่ดาวเทียมในคห.39  จะพบว่ามีถนนคู่ขนานกับรางไป  ผมจึงรู้สึกสงสัยว่า ทำไมเขาไม่สร้างถนนตัดตรงมาเลย  โดยให้สถานีอยู่ด้านขวามือของรางแทน  คนดงโพสี (Dongphosy) ที่มาจากถนนด้านขวา จะได้ไม่ต้องลงไปอ้อมข้างล่างอีก  เผลอๆ จะได้เกิดหมู่บ้านตรงปากทางเข้า หลังสถานีด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 20:53:09

ความคิดเห็นที่ 83 เข้าเขตชานชานชาลาสถานีมาแล้ว ทำให้นึกถึงสมัยก่อนที่มีบางคนชอบโดดรถไฟวิ่งลง ถึงสะดุดหกล้มก็ไม่เจ็บ....แต่ขายหน้า..ฮา สถานีเงียบจริงๆ ไร้ผู้คน สมคำว่า "แล้ง" จริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 20:56:05

ความคิดเห็นที่ 84 แม้จะไม่มีผู้โดยสาร แต่ก็มีชายหนุ่ม ยืนกางแขน ให้สัญญาณจอดรถ เป็นนายสถานีครับ  ดูแปลกตาดีที่ไม่สวมเครื่องแบบสีกากี และไม่มีธงในมือ    ที่จริงรถก็มีคันเดียว มาบ่อยๆ วันละ 2 เวลา ก็ทราบดีว่าต้องหยุดตรงนี้อยู่แล้ว  แต่ท่านก็ออกมารับรถเป็นพิธี หรือตามระเบียบนั่นแหละครับ รถจอดในแนวหลังคาชานชาลารูปโค้ง ไม่เลยไปถึง อาคารตม. นะครับ ผมรีบเก็บภาพปลายรางจากบนรถเอาไว้ก่อน เดี๋ยวจะลงไปเก็บภาพให้ใกล้กว่านี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:00:59

ความคิดเห็นที่ 85 ลงรถปุ๊บผมก็รีบเดินไปปลายชานชาลาด้านเหนือทันที เพื่อจะได้ภาพปลายรางให้ใกล้ที่สุด แต่...ก็โดนเรียกให้รีบกลับมาที่สถานี เพื่อทำเรื่องเข้าประเทศ ก่อน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:03:12

ความคิดเห็นที่ 86 นับว่าปลายรางอยู่ไกลจริงๆ ด้วยระยะทาง 0.89 กิโลเมตรจากกึ่งกลางสถานีท่านาแล้ง ผมจึงต้องใช้กล้องซูมภาพดึงเข้ามาใกล้ๆ จากจุดใกล้ๆ ประแจเข้ารางหลีกด้านเหนือ  ได้ภาพออกมาดังภาพบน ส่วนภาพล่างเป็นของ คุณ palm_gea ขาเดินตัวเก่ง ในเว็บรถไฟดอทคอม ที่ได้มีโอกาสเดินไปสำรวจถึงปลายสุดของรางจริงๆ ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2672&postdays=0&postorder=asc&start=140 ซึ่งทำให้ทราบว่า ก่อนถึงปลายสุดรางก็มี ประแจเข้ารางหลีกอีกตัวอยู่ ถ้าดูด้วยสายตาอาจคิดว่าเป็นรางยูเทิร์นได้...... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:11:27

ความคิดเห็นที่ 87 เพื่อไม่ให้เสียอรรถรส ความต่อเนื่อง ผมขอนำภาพของคุณ palm_gea มาให้ดูอีกที ว่า ตรงปลายสุดรางนั้นเป็นอย่างไรกัน...  ซึ่งผมเชื่อว่า มีคนไทยเพียงไม่กี่คนที่ได้ไปยืนตรงนี้ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:13:48

ความคิดเห็นที่ 88 ส่วนผมต้องไปรับกรรม..เอ๊ย..ทำหน้าที่ ตามกฏหมาย คือไปยื่นเอกสารที่ตม.ของลาว เพื่อเข้าประเทศก่อน  แต่ข่าวร้ายก็คือ เราไม่มีเวลาอยู่ที่สถานีนี้ได้นาน เพราะจะไม่มีรถออกจากสถานีนี้ไปด่านรถยนต์!  ทราบแล้ว งานเข้าเลยครับ..... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:16:11

ความคิดเห็นที่ 89 คือตามแผนการผมจะกลับทางรถยนต์ ไม่ได้กลับทางรถไฟ และคุณพ่อตาท่านจะไปซื้อของที่ Dutyfree ตรงด่านรถยนต์ลาว  ผมต้องใช้เวลาที่เหลือเพื่อเก็บภาพมาให้มากที่สุด จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:18:00

ความคิดเห็นที่ 90 อุ๊บ..เกือบลืมภาพนี้ไปแล้ว  เป็นภาพที่ถ่ายจากบริเวณประแจหลีกด้านเหนือ ที่ผมไปเก็บภาพปลายรางในคห.86 ครับ  ก่อนจะเดินมาตรวจเอกสารเข้าเมือง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 54 21:19:52