โห...จบทริปเดินทรหดกันง่ายๆ นี้เองครับ เหอๆๆๆ
มีเพิ่มเติมเกี่ยวกับตะขอที่ผนังอุโมงค์ห้วยแม่ลาน เป็นขอติดถูกถ้วยร้อยสายโทรเลขดั้งเดิมครับ คิดว่าจะอยู่ด้านตรงข้ามกับแนวสายโทรเลขปัจจุบัน พอเลิกใช้งาน ถอดเอาลูกถ้วยออก เลยเหลือแต่หลักฐานประวัติศาสตร์ดังที่เห็น
สังเกตป้ายชื่ออุโมงค์ไหมครับ ? บอกว่าสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2455 นั่นหมายความว่าในปีหน้า อุโมงค์ห้วยแม่ลานจะมีอายุครบ 100 ปีพอดี
สำหรับตัวเขื่อนริมห้วยแม่ลานนั้น ราวปี 2482 เกิดน้ำป่าพัดเอาไม้ซุงมาปะทะคันทางรถไฟบริเวณดังกล่าวจนขาด ซึ่งกรมรถไฟได้ซ่อมคันทางใหม่ พร้อมก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตเพื่อเสริมความแข็งแรงจนแล้วเสร็จตามตัวเลขบนตัวเขื่อนคอนกรีตที่เห็นนั่นแหละครับ คือวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2482 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เพียงสองปีเท่านั้น
ผมสันนิษฐานว่า ระหว่างก่อสร้าง ทางนายช่างควบคุมงานคงมีโอกาสปลูกต้นมะม่วงดังกล่าวตรงบริเวณหัวงานไว้ด้วย หากเป็นต้นมะม่วงที่ขึ้นตามธรรมชาติ คงไม่เป็นระเบียบแบบนี้ และตั้งเป็นที่หยุดรถห้วยแม่ลาน แต่ภายหลังคงร้างคนโดยสารขึ้นลง จึงยกเลิกที่หยุดรถแห่งดังกล่าว และกลายเป็นบริเวณรกร้างจนทุกวันนี้
เหตุที่ทางรถไฟในปัจจุบันรกเรื้อด้วยไม้เลื้อย หรือมีหญ้าปกคลุมนั้น มาจากการลดอัตรากำลังคนงานซ่อมบำรุงทางลง ซึ่งสมัยก่อนบรรดาคนงานเหล่านี้จะมีรถจักรยานประจำตัวออกตรวจเส้นทางที่รับผิดชอบทุกวัน สองข้างทางจึงไม่รก หากมีกิ่งไม้หักขวางอยู่บนเส้นทางจักรยาน จะถูกตัดฟันยกไปทิ้งยังข้างทาง ทำให้สองข้างทางรถไฟดูเรียบร้อยอยู่เสมอ
อีกข้อหนึ่ง เกี่ยวกับท่าของสัญญาณหางปลา คงจะเป็นจุดที่ไม่เปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่าทางหลีกข้างหน้าจะอยู่ด้านซ้ายหรือขวามือก็ตาม จะบอกได้เพียงให้เข้าทางประธานหรือเข้าทางหลีกเท่านั้น ส่วนจะหลีกด้านซ้ายหรือขวามือนั้น พขร.ต้องสังเกตจากโคมประแจหลีก ซึ่งมีลูกศรบอกทิศทางอีกทีหนึ่งครับ
เพิ่งมีโอกาสได้เห็นสถานีผาคัน และตัว อ.ลอง ยามเข้าไต้เข้าไฟคราวนี้เองครับ ฮ่าๆๆ
ขอบคุณคุณมิราชช มากๆ ครับ ที่นำภาพบรรยากาศการสำรวจอุโมงค์รถไฟที่ไม่เหมือนใครมาให้ชม โดยไม่ต้องเมื่อยขาเหมือนคนที่ไปถ่ายทำนะครับ
แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 54 00:19:01
แก้ไขเมื่อ 10 ก.พ. 54 00:14:25
จากคุณ |
:
owl2
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ก.พ. 54 00:08:10
|
|
|
|